สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน นิยาย บท 53

บทที่ 53 ช่วยเธออย่างไร้ร่องรอย

"เชิญนั่งลงค่ะ! จิ่วจิ่วช่วยเอาเก้าอี้มาให้คุณหนูส้งหน่อยสิ" เซี่ยชีหรั่นกล่าว

“ ไม่ต้องหรอก ฉันจะนั่งตรงนี้” ส้งหลิงหลิงนั่งลงที่ข้างเตียง ใบหน้าของเธอยังคงยิ้ม แต่ภายในใจของเธอคิดอย่างขมขื่น “นี่คงเป็นที่นั่งที่ผู้ชายของฉันนั่งอยู่เมื่อคืนนี้สินะ”

ฉันคิดว่าเธอคงจะต้องป่วยหนัก แต่ดูจากตอนนี้แล้วดูเหมือนว่าเธอจะมีไข้แค่เพียงเล็กน้อย

"เมื่อเช้าฉันบังเอิญได้ยินคนพูดกันว่าคุณป่วยอยู่ เชินหลินก็ออกไปข้างนอกพอดี ฉันเลยมาเยี่ยมดูอาการคุณสักหน่อยนะค่ะ"

"ขอบพระคุณคุณหนูส้งเป็นอย่างมากค่ะ ดิฉันมีไข้เพียงเล็กน้อย และประทานขอโทษที่ต้องทำให้คุณมาถึงที่นี่ด้วยตัวเองดิฉันขอโทษจริง ๆค่ะ " เซี่ยชีหรั่นส่งยิ้มให้เธอ

ไม่ว่าการมาของคุณหนูส้งนี้จะมาแบบจริงใจหรือเสแสร้ง แต่เซี่ยชีหรั่นเองก็ยังมีความรู้สึกผิดต่อเธอ เพราะในท้ายที่สุดแล้วเธอผู้นี้เป็นคู่หมั้นที่แท้จริงของเย่เชินหลิน การที่เขามาเฝ้าเธอที่นี่เมื่อคืนนั้น เท่ากับเขาได้ทิ้งคนอื่นมาหาเธอ

การมาของเธอนั้นทำให้เธอนึกคิดอย่างถี่ถ้วนขึ้นได้ในทันทีว่า ความหุนหันพลันแล่นที่เธอได้ทำกับเย่เชินหลินนั้น มันผิดศีลธรรมอย่างมาก และเธอเองก็ควรรู้สึกละอายแก่ใจ

"เฮ้อ!! ฟังดูคำพูดที่แสนจะเกรงใจของเธอนี้สิ ฟังดูแล้วก็ช่างน่าฟังดีน่ะ" ส้งหลิงหลิงยิ้มและจับมือเธอขึ้นแล้วพูดอย่างคนคุ้นเคยว่า"ชีหรั่นฉันอยากจะพูดอะไรกับเธอสักประโยคนึงเธออาจจะไม่เชื่อก็ได้ ตอนที่ฉันเห็นเธอครั้งแรกนั้นฉันรู้สึกคุ้นเคยกับเธอมาก รู้สึกว่าเธอเหมือนกับน้องสาวแท้ ๆของฉัน ที่จริงแล้วฉันเคยมีน้องสาวมาก่อนคนนึง แต่เธอได้ก็จากไปแล้ว เมื่อฉันมองที่เธอก็ทำให้ฉันคิดถึงเขาขึ้นมา และก็ทำให้ฉันทั้งรู้สึกมีความสุข ทั้งรู้สึกเศร้า " จากนั้นรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอก็จางหายไป แล้วน้ำตาก็ไหลลงมาอาบแก้มของเธอ

เธอร้องไห้หนักมากจนทุกคนรู้ว่าเธอตั้งใจร้องไห้ออกมา แต่ก็รู้สึกได้ว่าสิ่งที่เธอพูดนั้นเป็นเรื่องจริง

เซี่ยชีหรั่นจมอยู่กับความคิดอยู่ชั่วครู่ แล้วได้รีบเอื้อมมือไปช่วยเช็ดน้ำตาให้กับส้งหลิงหลิง พูดปลอบเธอว่า "เรื่องมันผ่านไปแล้ว คุณอย่าเศร้าไปเลยค่ะ"

ส้งหลิงหลิงปาดน้ำตาของเธอออกไปพร้อมกับพูดอย่างเศร้าใจว่า "ฉันยังลืมมันไม่ได้จริงๆ แม้จะผ่านมานานหลายปีแล้วก็ตาม ฉันอยากจะขอความเมตตาอะไรสักอย่างจากเธอจะได้ไหม ถ้าหากเธอไม่รังเกียจ ฉันอยากจะรับเธอมาเป็นน้องสาวของฉัน และฉันจะทำให้เธอเสมือนเป็นน้องสาวแท้ ๆของฉันจริง ๆ ฉันจะให้พ่อแม่ของฉันและน้องชายของฉันปฏิบัติต่อเธอเหมือนคนในครอบครัวของฉันจริง ๆ "

ส้งหลิงหลิงกล่าวออกมาด้วยความรักและดูจริงใจ ในสายตาของคนภายนอกอาจจะดูว่านี่มันเป็นของขวัญชิ้นใหญ่ให้กับเซี่ยชีหรั่น

คนธรรมดา ๆทั่วไปเป็นไปได้ยังไงที่จะเข้าไปบ้านรองประธานสภาหอการค้าของมณฑล การที่เธอไปที่ไหนก็ตามเพียงบอกออกไปว่าเป็นลูกสาวของประธานมณฑล คนทั่วไปก็ต้องมองเธออย่างสูงส่งในทันที ในอนาคตก็มีแต่จะราบรื่น

ประโยคที่ว่าหากไม่รังเกียจของเธอนั้น ดูไปแล้วก็ทำให้เซี่ยชีหรั่นดูกลืนไม่เข้าคายไม่ออกอยู่เล็กน้อย

ถ้าไม่ตอบตกลง ก็เท่ากับว่ารังเกียจก็เท่ากับว่าเธอนั้นรังเกียจที่จะมาเป็นน้องสาวของเธอ เธอไม่รู้จะตัดสินใจได้อย่างไร นี่เป็นการเดิมพันด้วยศักดิ์ศรีและหน้าของส้งหลิงหลิงเลยก็ว่าได้ ถ้าหากเธอปฎิเสธในอนาคตเธอจะอยู่ที่นี่ได้อย่างไร

เซี่ยชีหรั่นเข้าใจดีว่าการเป็นน้องสาวของเธอนั้นไม่ง่ายอย่างที่คิด เธอต้องการใช้สถานะน้องสาวนี้เพื่อมาขัดขวางเธอและขัดขวางเย่เชินหลิน

ถ้าจะมีอะไรที่ดูไม่ค่อยจะชัดเจน อาจจะให้ดูเหมือนว่าเซี่ยชีหรั่นนั้นไร้ศีลธรรม ไม่สำนึกบุญคุณคน และยังยั่วยวนคู่หมั้นของพี่สาวบุญธรรมของตัวเอง

เธอสามารถคิดสิ่งนี้ได้และเย่เชินหลินก็คงจะคิดได้เช่นกัน คนอย่าเขาเวลาจัดการเรื่องอะไรก็ตามก็มักจะแตกต่างจากคนทั่วไปอยู่เสมอ และเธอไม่สามารถจินตนาการได้เลยว่าเขาจะตอบโต้กลับมาเช่นไรหากเขาทราบเรื่องว่าเธอตอบรับส้งหลิงหลิงมาเป็นพี่สาวบุญธรรมของเธอ

เธอกลัวว่าจะตนเองจะเป็นต้นเหตุของความขัดแย้งระหว่างคู่สามีภรรยาที่ยังไม่ได้แต่งงานกัน

เธอครุ่นคิดเกี่ยวกับมันอยู่ชั่วครู่ และเธอได้ปฏิเสธอย่างระมัดระวังและสุภาพว่า

"คุณหนูส้งค่ะ ดิฉันรู้สึกขอบคุณเป็นอย่างมากที่มองเห็นดิฉัน แต่คุณเป็นคนที่เกิดมามีเกียรติและสูงส่งมากเหลือเกิน แต่ฉันเป็นแค่สาวใช้ต่ำต้อยคนหนึ่ง ไม่เหมาะกับอะไรสูงส่งเช่นนี้หรอกค่ะ"

ส้งหลิงหลิง ดูเศร้าเล็กน้อยขมวดคิ้วและพูดว่า "เธอพูดอะไรออกมานะ คนทุกคนมีความเท่าเทียมกัน เธอจะมาพูดได้อย่างไรว่าสูงส่งหรือไม่สูงส่ง ฉันไม่สนใจหรอก อย่างไรก็ตามฉันได้ยอมรับว่าคุณเป็นน้องสาวของฉันแล้ว เป็นอันว่าตกลงกันตามนี้น่ะ "

ประโยคสุดท้ายน้ำเสียงฟังดูน่ารัก แต่ก็ดูหนักแน่นมาก

เธอยังกล่าวกับทุกคนที่อยู่ตรงนั้นว่า "พ่อบ้าน และก็สาวสวยทั้งสามคนนั้นด้วย พวกคุณทั้งหมดร่วมกันเป็นพยานแก่ฉันด้วยว่า นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปเซี่ยชีหรั่นนั้นเป็นน้องสาวของฉันแล้ว เธออาจจะไม่สามารถให้ฉันเป็นพี่สาวของเธอได้ แต่ฉันได้นับว่าเธอคือน้องสาวของฉันแล้ว "

ดีจริงๆ คนหนึ่งไม่ต้องนับว่าอีกคนหนึ่งเป็นพี่สาวก็ได้ ส่วนอีกคนหนึ่งต้องการให้อีกคนเป็นน้องสาวทั้งจิ่วจิ่วและหลิวเสี่ยวเจียวรู้สึกกดดันแทนเซี่ยชีหรั่น

ไม่แปลกใจเลยที่ส้งหลิงหลิงสามารถต่อรองกับเย่เชินหลินเกี่ยวกับการแต่งงานได้สำเร็จ ดู ๆไปเธอผู้นี้ช่างดูซุกซนและน่ารัก แต่ในความเป็นจริงแล้วร้ายกาจมาก หัวเราะไม่ทันขาดคำ เธอก็เปลี่ยนความสัมพันธ์ระหว่างเย่เชินหลินและเซี่ยชีหรั่นให้กลายเป็นความสัมพันธ์แบบเขยกับน้องสะใภ้เสียแล้ว

แรกเริ่มนั้นพ่อบ้านรู้สึกโกรธส้งหลิงหลิงที่ยกย่องเซี่ยชีหรั่นขึ้นมา แต่ตอนนี้เขาเข้าใจความตั้งใจของเธอแล้ว

เขายิ้มอย่างแสดงความยินดีกับเซี่ยชีหรั่น

"ชีหรั่น หลังจากนี้ฉันก็ควรเรียกเธอว่าคุณเซี่ยใช่หรือไม่ รีบขอบคุณคุณหนูส้งสิ ไม่ใช่ว่าทุกคนที่จะโชคดีเช่นเธออย่างนี้ได้"

"ฉัน ... " เซี่ยชีหรั่นนั้นต้องการที่จะปฏิเสธและรู้ดีว่า หากเธอคิดจะพูดเช่นนั้น หล่อนคงจะไม่ยอมให้เธอได้พูดออกมาแน่นอน

"น้อง พี่ยังเตรียมของขวัญมาให้เราเป็นพิเศษด้วยน่ะ เสี่ยวลี่!!"

เซียวเสี่ยวลี่รีบดึงกล่องเครื่องประดับเงินออกมาจากกระเป๋าของเธอทันที และส่งมอบให้กับส้งหลิงหลิง เธอยิ้มแล้วพูดกับเซี่ยชีหรั่นว่า "เครื่องประดับชุดนี้ออกแบบโดยหัวหน้านักออกแบบเครื่องประดับที่ชื่อว่าโจวหลิน ฉันไม่เคยใส่มันเลยสักครั้ง และวันนี้ฉันขอมอบให้เธอ เดี๋ยวสักวันหนึ่งฉันจะไปและเลือกชุดราตรีสวย ๆกับรองเท้าที่เหมาะสมกับเธอมาให้ด้วยตัว ฉันกล้าบอกเลยว่าน้องสาวของฉันต้องสวยและงดงามกว่าที่เป็นอยู่ในตอนนี้ร้อยเท่าอย่างแน่นอน และเมื่อถึงเวลาฉันจะหาคนหล่อรวยสักคนมาแต่งงานด้วยกับเธอเอง "

เนื่องจากไม่มีใครบอกเธอมาก่อนว่าเซี่ยชีหรั่นนั้นเป็นผู้หญิงของเย่เชินหลินเธอจึงแกล้งทำเป็นไม่รู้มาก่อน

เซี่ยชีหรั่นเข้าใจดีว่าตอนนี้ไม่มีช่องว่างให้เธอได้พูดและก็ปฏิเสธได้เลย

เธอทำได้เพียงปล่อยเลยตามเลยยอมรับไป ช่างมันเถอะ อย่างน้อย ๆเธอหวังว่าจะใช้สถานะนี้เป็นตัวช่วยขวางกั้นเขาคนนั้นไว้ได้บ้าง เขาคงไม่กล้าทอดสายตามาที่เธออีก และเธอคงจะสามารถรอเวลาเพื่อทวงความเป็นธรรมให้กับเสี่ยวจุนอย่างสงบลงบ้าง

"พี่หลิงหลิงค่ะ สถานะพี่สาวที่พี่ให้มานั้นดิฉันสามารถรับไว้ได้ แต่ดิฉันไม่สามารถรับสิ่งของนี้ไว้ได้จริงๆค่ะ ดิฉันสวมแต่เครื่องแบบสาวใช้ทุกวัน และคงไม่โอกาสได้ใช้สิ่งเหล่านี้หรอกค่ะ"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน