สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน นิยาย บท 563

สรุปบท ตอนที่ 563 สาวใช้ตัวแสบ 467: สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

อ่านสรุป ตอนที่ 563 สาวใช้ตัวแสบ 467 จาก สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน โดย จิ่วเยวี่ยเตอเถาจื่อ

บทที่ ตอนที่ 563 สาวใช้ตัวแสบ 467 คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายโรแมนซ์ สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย จิ่วเยวี่ยเตอเถาจื่อ อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

ตอนที่ 563 สาวใช้ตัวแสบ 467

เขาดื่มเหล้ามากมายขนาดนี้ก็เพื่อที่จะเอาชนะความรู้สึกของตนเอง

เขากำหมัดแน่น จากนั้นก็ย้ายสายตาไปที่อื่นไม่จับจ้องที่เซี่ยชีหรั่นอีกต่อไป อีกทั้งยังตั้งใจหันหน้าไปที่ไห่ลี่หมิน และถามขึ้นอย่างเย็นชาว่า:“ใครใช้ให้คุณเรียกผู้หญิงคนนี้มา ? เราเลิกกันแล้ว ผมแค่มาดื่มเหล้าแค่นี้ จะเรียกเธอมาทำไมกัน?”

“ก็คุณไม่ใช่เหรอที่ดื่มเหล้าไปร้องหาแต่ชื่อเธอ แล้วผมจะไม่โทรหาเธอได้ยังไงกัน?”ไห่ลี่หมินตอบกลับอย่างเย็นชาหนึ่งประโยค และก็ดูเหมือนว่าที่เขาพูดนั้นมันจะเป็นความจริง

“เหลวไหล!ผมเรียกชื่อเธอซะที่ไหนกัน?” เย่เชินหลินเหลือบมองไปที่ไห่ลี่หมินอย่างดุดัน จากนั้นก็หันมามองเซี่ยชีหรั่นอย่างเรียบเฉยครู่หนึ่ง แล้วพูดขึ้นว่า:“เขาโกหกคุณ ผมไม่ได้ต้องการให้คุณมาที่นี่ คุณกลับไปเถอะ!หลี่เหอไท้ พาเธอกลับไป”

เมื่อพูดจบ สายตาของเขาก็ไม่ได้มองพวกเขาทั้งสองอีกต่อไป แต่กลับลุกขึ้นเหมือนกำลังเตรียมตัวจะกลับบ้าน

ความสามารถในการดื่มเหล้าของเขา ยังทำให้เขาสามารถที่จะดื่มต่ออีกได้ แต่เขาไม่ดื่ม เนื่องจากหากเขาดื่มต่ออีก ก็คงทำให้ผู้หญิงคนนั้นไม่สบายใจ

เหล้าจะดื่มเมื่อไหร่ก็ได้ ไม่จำเป็นต้องให้เซี่ยชีหรั่นเห็นว่าที่เขาดื่มเหล้าก็เพราะเธอ เขาไม่มีสิทธิ์ที่จะเรียกร้องความเห็นใจจากเธอ

เงาหลังของเขานั้นเหงาและเศร้า ทำให้ใจของเซี่ยชีหรั่นรู้สึกเจ็บปวด

หากเขาไม่แสดงให้เธอรู้ว่าเขาดื่มเหล้าเพราะเธอ แล้วเธอจะรู้ได้อย่างไรกัน

เมื่อเห็นว่าเขากำลังตกต่ำเพราะเธอ ก็ทำให้เธอนั้นรู้สึกว่าตนนั้นเห็นตัวเกินไป เธอจะทนเห็นสภาพเช่นนี้ของเขาได้อย่างไร

นี่เป็นเพียงแค่เริ่มต้น หากเธอตัดใจไม่สนใจเขาตลอดชีวิต เขาจะเสียใจเช่นนี้ตลอดไปหรือไม่?

หลี่เหอไท้และไห่ลี่หมินสบตากันครู่หนึ่ง จากนั้นก็พูดขึ้นมาว่า:“ในเมื่อมาแล้ว พวกคุณก็ปรับความเข้าใจกันเถอะ ผมมีธุระที่จะขอคำชี้แนะจากประธานไห่ อยู่พอดี”

“พูดเกินไปแล้ว ผมมิอาจที่จะกล้าชี้แนะคุณหรอก ได้ยินมาว่าคุณหลี่นั้นมีทัศนะที่เฉียบคมและรอบคอบ วันนี้โชคดีที่ผมได้มีโอกาสมาพบกับคุณ จึงอยากจะถือโอกาสนี้ขอคำชี้แนะจากคุณ”

“หากจะขอคำชี้แนะกันล่ะก็ เอาไว้วันหลังก็แล้วกัน ตอนนี้ไปส่งผมกลับบ้านเถอะ!”เย่เชินหลินขมวดคิ้ว พร้อมกับเรียกไห่ลี่หมิน จากนั้นก็พูดกับหลี่เหอไท้ว่า:“เชิญ!”

เย่เชินหลินอยากที่ให้ไห่ลี่หมินไปส่งเขาเสียที่ไหนกัน แต่เพราะเขารู้ว่าหากไม่มีคนไปส่งเขา ผู้หญิงคนนั้นก็จะเป็นห่วง

“เย่เชินหลิน !นั่งลง เรามาคุยกันก่อน”เซี่ยชีหรั่นพูดขึ้นอย่างเรียบเฉย เมื่อเห็นเย่เชินหลินยังไม่หยุดเดิน เธอก็เดินไปที่ข้างหลังของเขา แล้วรั้งแขนของเขาไว้ เย่เชินหลินดึงมือของเธอออก แล้วถามกลับด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยว่า:“คุยเรื่องอะไร?ผมเคยบอกกับคุณไปแล้วไม่ใช่เหรอว่า เรื่องระหว่างเรานั้นไม่มีอะไรต้องคุยอีก จำไม่ได้เหรอ?”

เขาจ้องมองเธอด้วยสายตาที่เย็นชา และท่าทางไม่แยแส แต่แววตานั้นกลับไม่ใช่ แววตาของเขานั้นเต็มไปด้วยความอาลัยอาวรณ์

เมื่อเขาถามกลับเช่นนี้ ทำให้เซี่ยชีหรั่นตะลึงงันครู่หนึ่ง

เธอคิดว่า บางทีเธออาจจะไม่ยิ่งใหญ่พอ มาถึงจุดๆนี้แล้ว ในใจของเธอก็ยังรู้สึกสับสน เสียงหนึ่งบอกว่าให้เธอกลับไปอยู่ข้างกายเขา เขานั้นทรมานเสียเหลือเกิน

แต่อีกเสียงหนึ่งกลับบอกว่า คุณลืมเรื่องเด็กคนนั้นกับส้งหลิงหลิงไปแล้วเหรอ?

คุณสามารถที่จะเผชิญหน้ากับพวกเขาได้งั้นเหรอ ต่อไปจะไม่เสียใจกับการกระทำของพวกเขาแล้วใช่ไหม?

เย่เชินหลินไม่คิดที่จะให้เธอหันกลับมา เขาเพียงแค่ต้องการที่จะบีบให้เธอจากไป เหมือนกับตอนเช้าที่เขาไล่เธอออกจากห้องทำงานของเขาในบริษัทฝู้ซื่อกรุ๊ป

“หากเขาจะพูดคุยกัน คุณก็รอพวกเขาอยู่ที่นี่เถอะ ผมกลับบ้านก่อนก็แล้วกัน!”

เมื่อพูดจบ เย่เชินหลินก็เดินไปข้างหน้าด้วยสีหน้าที่เยือกเย็น

“ไม่ได้!คุณดื่มจนเมาขนาดนี้แล้ว จะกลับไปคนเดียวได้อย่างไรกัน?ฉันจะไปส่งคุณเอง!”เซี่ยชีหรั่นพูดขึ้นอย่างไม่วางใจทั้งยังรั้งแขนของเขาไว้ ไม่ยอมปล่อย

“คุณจะพยุงผมไหวเหรอ?ไปส่งผมมันจะมีประโยชน์อะไร?”เขาสะบัดมือเธอออก และมองเธอด้วยสายตาเย้ยหยัน

สายตาของเขาตั้งใจมองไปที่เรือนร่างของเธอด้วยสายตาที่หยาบคาย ทำให้เซี่ยชีหรั่นทั้งเขินอายทั้งโมโห

เธอรู้ว่าเขาจงใจทำเช่นนั้น และรู้ว่าเขาต้องการที่จะไม่ให้เธอมายุ่งเรื่องของเขาอีก

แต่ว่าเธอนั้นได้มาแล้ว จะไม่ให้ยุ่งได้อย่างไรกัน?

ไห่ลี่หมินกับหลี่เหอไท้ไปนั่งอยู่อีกฝั่งหนึ่งของผับ ตรงบริเวณหน้าประตู เพื่อให้เขาทั้งสองได้ปรับความเข้าใจกัน

เซี่ยชีหรั่นหน้าแดงก่ำ แต่ก็ยังยืนหยัดที่จะพูดขึ้นว่า:“ หยุดเล่นได้แล้ว ฉันจะไปส่งคุณเอง!คุณนอนพักให้สบาย รุ่งเช้าตื่นขึ้นมา ทุกสิ่งทุกอย่างก็ได้ผ่านไปแล้ว”

เย่เชินหลินเปลี่ยนใจไม่กลับแล้ว เขายื่นมือไปจับที่คางของเซี่ยชีหรั่น เซี่ยชีหรั่นอยากจะสะบัดมือของเขาออก แต่เป็นเย่เชินหลินที่จับเธอไว้แน่นยิ่งกว่าเดิม

“อยากจะไปส่งผมกลับจริงๆเหรอ?คุณก็รู้ว่าผมดื่มเหล้าไปมากมายแค่ไหน จะทำอะไรคุณก็ได้ รู้ไหม?”สายตาและรอยยิ้มที่เซ็กซี่ของเขา ทำให้ใจของเซี่ยชีหรั่นอดไม่ได้ที่จะสั่นระรัว และอดที่จะนึกถึงครั้งแรกหลังจากที่พวกเขาได้เซ็นสัญญากันมิได้

ใบหน้าของเธอเริ่มแดงขึ้นหลังจากที่สายตาของเขาจ้องมองไปที่เธอ เดิมทีเขาต้องการแค่เพียงที่จะแกล้งเธอก็เท่านั้น แต่คิดไม่ถึงเลยว่าเขากลับคิดจริงจังกับเธอเช่นนี้

ใจของเธอนั้นเจ็บปวดและเต้นแรงทุกครั้งที่เขาทำกับเธอเช่นนี้ และมักทำให้เธอนั้นรู้สึกเจ็บปวด

น้ำตาของเธอนั้นหล่นร่วงลงมาอย่างไม่หยุดยั้ง แต่เขาก็ยังคงจูบเธอต่ออย่างไม่ลดละและหันฝีเท้าเพื่อไปพิงกับโซฟา

การกระทำของเขานั้นราวกับสัตว์ป่า เขาจับเธอนอนราบอยู่บนโซฟา ในขณะที่เขาจูบเธออย่างแรงนั้น เขาก็จงใจลูบไล้ที่เอวของเธอ จากนั้นก็ปล่อยมือลงอย่างไม่ไยดี เขาต้องการให้เธอจากไป และไม่อยากที่จะเห็นหน้าเธออีก

แม้ว่าเธอจะรู้จุดประสงค์ของเขา แต่การทำเช่นนี้กับเธอในสถานที่สาธารณะเช่นนี้ มันทำให้เซี่ยชีหรั่นรู้สึกอับอายขายหน้าไม่น้อย

ขณะที่เขาใช้มือโอบที่เอวของเธอนั้น มันทำให้เธอได้สติมาไม่น้อย

เธอผลักเขาออกจนสุดแรง แต่เขาก็ยังจงใจจูบเธอและลูบคลำเธออย่างไม่ลดละ ก่อนที่เขาจะปล่อยเธอ ใบหน้าของเขาอยู่นั้นใกล้เธอมาก ห่างกันแค่เพียงนิ้วเดียว แววตาของเขาที่มองเธอนั้นเร่าร้อนดั่งไฟที่กำลังเต้นระบำอยู่

“เป็นยังไง ยังจะเป็นห่วงผมอยู่ไหม?ความเป็นห่วงของผู้หญิงก็คือต้องการให้ผู้ชายกระทำเช่นนี้ ใช่ไหม?”

ความร้อนบนใบหน้าของเธอเริ่มแผ่ขยายมาบริเวณลำคอ แต่เธอก็ไม่ได้หลบหลีก แต่กลับตอบกลับเขาด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาว่า:“คุณอย่าไล่ฉันแบบนี้ได้ไหม?ไม่ว่าจะยังไง เราก็เคยเป็นคู่หมั้นกันมาก่อน ในเมื่อเลิกกันแล้ว คุณก็ไม่ต้องให้ทรัพย์สมบัติอะไรฉันมากมายขนาดนี้ก็ได้ แต่นี่คุณยังส่งคนมาติดตามฉันอยู่ ขนาดคุณยังเป็นห่วงฉันได้เลย แล้วฉันไม่มีสิทธิ์เป็นห่วงคุณเลยหรือ?”

คำพูดที่เธอพูดออกไปนั้น ทำให้ภายในใจของเย่เชินหลินเกิดอารมณ์ที่หลากหลาย ทั้งซาบซึ้งใจทั้งรู้สึกทุกข์ใจ

ส้งหลิงหลิงนั้นสมควรตาย เป็นเพราะเธอแท้ๆที่ทำให้พวกเขาต้องตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ ทั้งๆที่พวกเขายังรักกันอยู่

“เป็นห่วงจะมีประโยชน์อะไร ไม่ต้องมาสนใจผมหรอก คุณกลับไปเถอะ”เย่เชินหลินพูดขึ้นอย่างเรียบเฉย จากนั้นก็ลุกขึ้น ไม่กล้าที่จะมองเธอ

เซี่ยชีหรั่นนั้นนั่งลง มองเขาอย่างไม่วางใจ

ท่าทางเขายังคงมีสติดีอยู่ คงไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นหรอก แต่ไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงอดเป็นห่วงเขาไม่ได้และอยากที่จะไปส่งเขาให้ถึงบ้าน

“เย่เชินหลิน แค่คืนนี้ คุณให้ฉันไปส่งคุณให้ถึงบ้านได้ไหม?”เซี่ยชีหรั่นยังคงถามขึ้นอย่างดื้อรั้น

“ไม่ต้อง คุณคิดว่าผมจะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นงั้นหรือ?รถอยู่ด้านนอก มีคนขับรถ มีพนักงานรักษาความปลอดภัย พวกเขาจะส่งผมกลับบ้านได้อย่างปลอดภัย คุณกลับไปเถอะ ต่อไปหากได้ยินข่าวคราวอะไรเกี่ยวกับผม ก็อย่ามาเจอผมอีกเลย”

เขากลับมาเย็นชาอีกครั้ง เขามั่นใจแล้วว่าเธอคงไม่สามารถยอมรับลูกของเขาได้ เพื่อให้เธอตัดใจจากเขาตั้งแต่ตอนนี้ เขาจึงจำเป็นต้องพูดเช่นนั้นออกไป

ในขณะที่ทั้งสองคนคุยกันอยู่นั้น ไห่ลี่หมินกับหลี่เหอไท้ทั้งสองต่างสั่งเครื่องดื่มคนละแก้ว เนื่องจากหลี่เหอไท้ต้องขับรถ เขาจึงไม่ดื่มเหล้า ส่วนไห่ลี่หมินนั้นสั่งไวน์แดงมาหนึ่งแก้ว

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน