ตอนที่ 8 เสียงขอความช่วยเหลือ
1 สัปดาห์ต่อมา
“ เดินเร็วๆหน่อยได้ไหมชักช้าอยู่ได้ ถ้าไม่ใช่เพราะฉันต้องมานั่งรอเธอป่านนี้ฉันก็คงมาทันเวลาเพื่อนฉันเปิดงานไปแล้ว หน้าหงุดหงิดจริงๆไม่รู้จะตามมาทำไมนักหนา “
เสียงคฑาวุธเอ่ยเนื่องจากวันนี้เขาต้องบินมาที่ภูเก็ตเพื่อมาร่วมงานเปิดรีสอร์ทของเพื่อนสนิทอย่างวอร์ม แต่ก็ต้องมาหงุดหงิดเพราะเขานั้นดันต้องมานั่งรอหญิงสาวร่างบางที่มีศักดิ์เป็นน้องสาว ทั้งๆที่เขาก็ไม่อยากจะให้เธอมาด้วยเลยสักนิด แต่ก็ยังไม่วายที่ผู้เป็นปู่จะบังคับให้เธอมาด้วย เขาละไม่เข้าใจเลยจริงๆว่างานเพื่อนของเขาแท้ๆมันไปเกี่ยวอะไรกับผู้หญิงตรงหน้านี้ด้วย
“ ขอโทษคะ “
“ พูดเป็นอยู่แค่คำเดียวหน้าเบื่อ ทีหลังหัดปฏิเสธปู่ฉันบ้างก็ได้งานเพื่อนสนิทของฉันมันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเธอสักนิด ไม่รู้ว่าจะมาทำไม “
“........”
ฟ้าลดาไม่ตอบเธอเอาแต่เงียบ เพราะที่เขาพูดมันก็คือความจริงงานเพื่อนของเขามันไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับเธอเลยสักนิด แต่จะให้ทำยังไงในเมื่อเธอไม่สามารถที่จะปฏิเสธผู้เป็นปู่ได้ ถึงแม้ว่าตอนนี้เธอจะมีศักดิ์เป็นหลานสาวอีกคนของบ้านแต่เธอก็ไม่เคยลืมว่าจริงๆแล้วตัวเองเป็นใคร แค่พวกท่านมีพระคุณอุปการะเธอแค่นี้ก็ถือว่าดีเท่าไหร่แล้ว
และดูเหมือนว่าการที่เธอไม่ปฏิเสธในครั้งนี้มันกลับทำให้ชายหนุ่มอย่างคฑาวุธไม่พอใจ เดิมทีเขาก็ไม่ชอบขี้หน้าเธออยู่แล้วยิ่งเธอมาวุ่นวายในชีวิตของเขา เขาก็จะยิ่งไม่ชอบเธอเข้าไปกันใหญ่
“ และดูเธอสิแต่งตัวบ้าบออะไรวะ ไม่มีความสวยเลยสักนิด ใส่แว่นก็หนาเตอะ รสนิยมก็บ้านนอกมากบอกตามตรงนะเธอเป็นผู้หญิงคนแรกที่ไม่ว่าจะมองยังไงก็ไม่มีความสวยเลยสักนิด ถ้าบนโลกนี้มีผู้หญิงอย่างเธอแค่เพียงคนเดียวฉันก็ไม่เอามาทำพันธุ์เด็ดขาด และที่สำคัญอย่ามาเดินใกล้ฉันนะฉันอายคนอื่นเขา “
คฑาวุธเอ่ยเพราะตอนนี้หญิงสาวใส่ชุดเสื้อยืดสีขาวกับกางเกงยีนขายาวธรรมดา มันจึงทำให้ปกปิดไปหมดทุกสัดส่วน เขาก็ไม่เข้าใจว่าเธอจะปกปิดเนื้อตัวอะไรขนาดนั้นไม่มีส่วนไหนที่น่าสนใจเลยสักนิด ยังไม่พอใบหน้าก็ไม่เคยมีเครื่องสำอางตกแต่งอยู่เลยสักชิ้น แถมยังมีแว่นตาหนาเตอะที่ไม่ว่าจะมองยังไงก็ไม่สามารถมองทะลุผ่านไปถึงดวงตาได้
ผมพูดจริงๆนะอย่าหาว่าอย่างนั้นอย่างนี้เลยดูสภาพของเธอสิไม่ต่างอะไรไปจากแม่ค้าขายของอยู่ในตลาดนัดเลย เสื้อยืดกับกางเกงยีนส์ขายาวนี่ใครเขาสั่งเขาสอนกันว่าให้แต่งตัวแบบนี้มางานเฉลิมฉลอง ผมล่ะโคตรจะเซ็งเลย
เดิมทีตอนแรกผมก็ว่าจะมาคนเดียวแต่อยู่ๆปู่ก็ดันบอกว่าให้พาผู้หญิงคนนี้มาด้วย ผมก็ไม่เข้าใจว่างานเพื่อนของผมมันไปเกี่ยวข้องอะไรกับเธอ ถ้าไม่ติดว่าเป็นคำสั่งของปู่ผมไม่พาเธอมาด้วยจริงๆหรอกผมอายคนอื่นเขา
ชายหนุ่มเอ่ยจบก็ทำการสาวเท้าเดินตรงไปหาเพื่อนๆของเขาทันที ทิ้งไว้ให้เธออยู่ในฝูงผู้คนมากมายทั้งๆที่ไม่ได้รู้จักกับใครเลยแม้แต่คนเดียว
“ ว่าไงไอ้คิมมาสายนะวันนี้ “ (เวย์)
เสียงเซอร์เวย์พูดเเพราะเขาเห็นว่าปกติเพื่อนจะไม่เคยสายแต่วันนี้นอกจากคิมจะมาไม่ทันวอร์มเปิดงานแล้ว ยังมีสาวข้างกายติดตามมาด้วยอีกคน
“ เออโทษทีวะมัวแต่นั่งรอใครบางคน ชักช้า ลีลา อืดอาด ไม่รู้ว่าจะตามมาทำไม “
“ มึงหมายถึงผู้หญิงคนนั้น เธอเป็นใครหรอ “ (ภูมิ)
“ ช่างเถอะไม่ต้องไปสนใจ ไหนๆงานก็เปิดแล้ว มาแดกเหล้ากันหน่อยดีกว่า “
คิมเอ่ยตัดบทเพราะเขาไม่อยากพูดอะไรถึงหญิงสาวที่มาด้วยไหนๆงานก็เปิดแล้วเขาจึงชวนเพื่อนๆทุกคนมาดื่มฉลองให้แก่วอร์มกันดีกว่า
“ แล้วน้องคนนั้นล่ะมึงจะไม่สนใจหน่อยเหรอ มึงเป็นคนพาเธอมานะ “ (วอร์ม)
เป็นเสียงของวอร์มเพราะเขาเห็นว่าหญิงสาวที่เพื่อนพามาเธอดูไม่รู้จักกับใคร อีกทั้งคนพามาก็ยังไม่สนใจอีก เขาคิดว่าบางทีเพื่อนก็หน้าจะแนะนำให้ได้รู้จัก หรือไม่ก็ควรจะทำให้มันดีกว่านี้ในฐานะที่เป็นคนพาเธอมาด้วย
“ ปล่อยไว้อย่างนั้นแหละคงจะไปไหนได้ไม่ไกล ก็คงจะเดินอยู่แถวๆนี้ขากลับค่อยว่ากันอีกที “
คิมตอบเพื่อนๆเพราะเขาไม่ได้สนใจหญิงสาวที่พามาด้วยเลยสักนิด กลับกันยังบอกให้เพื่อนเลิกสนใจเพราะยังไงเธอก็ไม่สามารถไปไหนได้ไกลอยู่ดี
และเมื่อเพื่อนๆของเขาเห็นแบบนั้นก็ไม่พูดอะไรต่ออีก เพราะคิดว่าคิมคงไม่อยากที่จะเล่าอะไรให้ฟังตอนนี้ เอาไว้ถ้าเพื่อนอึดอัดอยากที่จะระบายขึ้นมาจริงๆเดี๋ยวก็คงจะเล่าออกมาให้ได้ฟังเอง
“ เออมาๆ แดกครับ “
แกร้ง
อีกด้าน
#ฟ้าลดา
หลังจากที่พี่คิมเดินออกไปหาเพื่อนๆโดยที่เขาไม่คิดจะรอฉันเลยสักนิด นั่นจึงทำให้ฉันรู้ว่าเขาไม่ต้องการที่จะเดินใกล้ฉันอย่างที่ได้พูดเอาไว้จริงๆ ก็ไม่รู้ว่าเขาจะจงเกลียดจงชังฉันไปถึงไหน ทั้งๆที่ฉันก็เป็นมนุษย์คนหนึ่งที่อยู่บนโลกใบนี้เหมือนๆกันกับเขา
ยอมรับเลยว่าวันนี้ฉันแต่งตัวเชยเกินไปจริงๆถ้าเทียบกับผู้คนมากมายที่อยู่บนเกาะแห่งนี้ ก็จะให้ทำยังไงได้ในเมื่อฉันเป็นผู้หญิงที่แต่งตัวไม่เป็นอีกทั้งเครื่องสำอางก็ยังไม่เคยได้ใช้เลยสักนิด มันก็ไม่แปลกอะไรที่ไม่ว่าจะไปไหนฉันก็มักจะแต่งตัวแบบนี้อยู่เสมอ
คิดแล้วมันก็รู้สึกเสียใจฉันรู้ดีว่าเขาไม่ชอบฉันมากแค่ไหนแต่ก็ไม่เห็นจะต้องมาพูดอะไรแบบนั้นใส่กันเลย จริงอยู่ที่เขามีใบหน้าหล่อเหลาสาวๆมากมายก็ร่ายล้อม แต่ที่บอกว่าถ้ามีผู้หญิงอย่างฉันอยู่บนโลกนี้เพียงคนเดียวเขาก็ไม่คิดที่จะเอามาทำพันธุ์
และคำพูดนี้มันทำให้ฉันรู้สึกเจ็บมากเลยนะเพราะเหมือนกับว่าฉันมันเป็นตัวน่ารังเกียจที่ไม่สามารถจับต้องได้หรือถ้าให้พูดทางการแพทย์ก็คือเป็นตัวเชื้อโรคที่มีแต่คนไม่อยากเข้าใกล้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สถานะ แค่คนใช้