ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ นิยาย บท 6

“ตามธรรมเนียมการแยกบ้านนั้น จำต้องระบุไว้ว่าคนเป็นลูก จะต้องแสดงความกตัญญูต่อบิดามารดาด้วยนะพี่ใหญ่” แม่เฒ่าเซี่ยยังหมายหวังผลประโยชน์จากเด็กทั้งสาม

“เจ้ายังมีหน้ามาพูดเรื่องนี้อีกหรือจิ่วเม่ย เจ้าขายอาซือไปแล้วจะให้นางเอาอันใดมาตอบแทนบุญคุณเจ้า นางกลายเป็นคนบ้านอื่นไปแล้ว อาซานก็ป่วยติดเตียงซือหยางยังเป็นเด็กเล็ก จิ่วเม่ยไหนเจ้าลองบอกพี่ใหญ่คนนี้ให้กระจ่างซิ เจ้ายังต้องการสิ่งใดจากเด็กน่าสงสารพวกนี้อีก !”

เซี่ยคุนทั้งโกรธทั้งอยากทุบตีน้องสะใภ้คนนี้เหลือเกิน หากน้องชายของเขายังอยู่ เด็กทั้งสามไม่มีทางวันได้รับความคับข้องใจแบบนี้เป็นแน่

“ข้าเห็นด้วยกับท่านผู้นำตระกูล แม่เฒ่าเซี่ยเจ้าอย่าได้คิดเอาเปรียบเด็ก ๆ เหล่านี้เลย ไม่เพียงแค่นั้นเจ้ายังต้องมอบธัญพืชให้เด็ก ๆ ไว้สำหรับเลี้ยงชีพอีกด้วย” อวี่กังออกความเห็นช่วยเด็กบ้านสาม

“อันใดกัน ! พวกนางอยากแยกบ้านออกไปเอง มีสิทธิ์อันใดมาขอธัญพืชจากข้าอีก”

“จิ่วเม่ยนั่นหลานของเจ้าเองนะ เป็นสายเลือดของเจ้าแท้ ๆ แค่ให้ธัญพืชพวกเขาไว้กินสักสองสามวันจะเป็นอันใดไป ยังมีบ้านกับที่นาอีก เจ้าต้องแบ่งให้คนบ้านสามด้วย”

“พี่ใหญ่ท่านเลอะเลือนเกินไปแล้ว ก่อนหน้าท่านบอกว่าเด็ก ๆ พวกนี้ยังเล็ก ไม่จำเป็นต้องกตัญญูต่อข้า มาตอนนี้จะให้ข้าแบ่งที่นาให้อีก ท่านคิดว่าข้าโง่งมเพียงนั้นเลยหรือ ข้าไม่มีวันแบ่งที่นาให้คนบ้านสามเด็ดขาด ให้ได้แค่บ้านหลังที่พวกเขาอยู่เท่านั้น หากอยากได้ธัญพืชข้าสามารถแบ่งธัญพืชหยาบให้ได้ราวหนึ่งชั่ง ”

“หนึ่งชั่ง ! เจ้านี่มันเกินจะเยียวยาจริง ๆ” เซี่ยคุนชี้นิ้วใส่แม่เฒ่าเซี่ย ก่อนจะสะบัดแขนเสื้อไปอีกทาง พ่นลมหายใจดังฟืดฟาดออกมา

เซี่ยซือซือกลอกตาอย่างเหนื่อยหน่ายใจ ธัญพืชหยาบแค่หนึ่งชั่งจะไปทำอันใดได้ ท่านย่าของนางใจไม้ไส้ระกำจริง ๆ ในใจคงไม่คิดว่านางกับน้อง ๆ เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของตัวเองด้วยซ้ำ

“เอาเถอะเจ้าค่ะ หากท่านย่าเมตตาพวกข้าสามพี่น้องเพียงธัญพืชหยาบหนึ่งชั่ง เช่นนั้นวันข้างหน้า หากพวกข้าคนบ้านสามมีอันจะกินขึ้นมา ข้าจะแบ่งปันท่านย่าด้วยธัญพืชหยาบเพียงหนึ่งชั่งเช่นเดียวกัน ท่านปู่ใหญ่ท่านลุงผู้ใหญ่บ้าน พวกท่านเห็นควรว่าอย่างไร”

“ดี ! ข้ากับผู้ใหญ่บ้านจะเป็นพยานเรื่องนี้เอง หากวันข้างหน้าพวกเจ้าบ้านสามมีกินมีใช้ขึ้นมา ก็ตอบแทนท่านย่าของพวกเจ้าด้วยธัญพืชหยาบหนึ่งชั่งนั่นแหละ” เซี่ยคุนถูกใจคำพูดนี้ของเซี่ยซือซือยิ่งนัก

“เฮอะ ! ยังไม่ทันไรเจ้าก็ฝันหวานว่าจะได้อยู่ดีกินดีเสียแล้ว ไม่มีแม่เฒ่าอย่างข้าพวกเจ้าจะอยู่รอดถึงสองวันหรือเปล่าก็ไม่รู้ ข้าไม่กล้าหวังสูงให้พวกเจ้ามาตอบแทนบุญคุณข้าหรอก แค่ไม่มาขอข้าวข้ากินเป็นพอ”

“ท่านย่าหากวันข้างหน้าพวกข้าบ้านสามไม่มีอันจะกินจริง ๆ พวกข้าจะไม่มาขอข้าวท่านกินหรอกเจ้าค่ะ ท่านเองก็เหมือนกัน หากวันข้างหน้าไม่มีอันจะกิน ก็ไม่ต้องไปขอพวกข้าคนบ้านสามนะเจ้าคะ”

“นังเด็กอกตัญญู ! เจ้ารีบไสหัวออกไปจากบ้านข้าเดี๋ยวนี้ พ่านเอ๋อพรุ่งนี้เจ้ารีบให้เจ้าใหญ่ไปก่อกำแพงกั้นบ้านสามออกไปเลย ข้าไม่อยากเห็นหน้าพวกมันอีก !”

“เจ้าค่ะท่านแม่ ท่านพี่กลับมาเมื่อใด ข้าจะรีบบอกให้ไปจัดการเจ้าค่ะ” นางหลินรีบรับปากในทันที กั้นกำแพงย่อมดี เด็กป่วยติดเตียงจะได้ไม่มารบกวนพวกนางได้ นางไม่มีวันเชื่อว่าเด็กบ้านสามจะเอาตัวรอดได้

เมื่อจัดการกับเอกสารการแยกบ้านเสร็จเรียบร้อย แม่เฒ่าเซี่ยก็ขับไล่เซี่ยซือซือกลับบ้านนางในทันที เซี่ยซือซือจดจำบุญคุณของท่านปู่ใหญ่กับท่านลุงผู้ใหญ่บ้านเอาไว้ในใจ วันข้างหน้านางต้องหาโอกาสตอบแทนบุญคุณทั้งสองอย่างแน่นอน ส่วนคนที่ทำไม่ดีกับนางและน้อง นางจำจารึกไว้ในใจเช่นเดียวกัน

ในบ้านใหญ่แม่เฒ่าเซี่ยกำลังสืบสาวหาเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น จึงได้รู้ความจริงว่ายังมีคนร่วมลงมือทำร้ายเซี่ยซานซานอีกสองคน

“เจ้านี่มันอย่างไรนะฮุ่ยหนิง ทำไมไม่พูดออกมาตั้งแต่แรก ว่าไป๋ชิงกับเยี่ยนเอ๋อก็มีส่วนร่วมในเรื่องนี้” แม่เฒ่าเซี่ยบ่นหลานสาวที่ไม่ฉลาดเอาเสียเลย

“หากรู้ก่อนหน้าว่าเด็กสองคนนั้น มีส่วนทำให้อาซานเป็นเช่นนี้ จะได้ให้คนพวกนั้นมาช่วยจ่ายค่าหมอค่ายาให้”

“ท่านย่าเจ้าคะ ข้าก็บอกอยู่ว่าข้าไม่ได้ทำ แต่ไม่มีใครเชื่อข้าเลยเจ้าค่ะ นังตัวดีอาซือก็เอาแต่ป่าวประกาศว่าข้าทำอาซานตายอยู่นั่นแหละ พวกชาวบ้านเลยเชื่อนางกันหมด พอกลับถึงบ้านไป๋ชิงกับเยี่ยนเอ๋อก็หายหัวไปเลยเจ้าค่ะ”

เซี่ยฮุ่ยหนิงเอยอย่างเคียดแค้นใจ ในสายตาของชาวบ้านนางกลายเป็นคนผิดไปแล้ว แค่จะเอ่ยปากแย้งก็ถูกมองด้วยสายตาจ้องจับผิด ทำให้นางไม่กล้าเอ่ยอันใดออกมา ได้แต่ปล่อยให้พวกผู้ใหญ่คุยกันเอาเอง

“เจ้าไม่ได้ทำเลยหรือฮุ่ยหนิง ถ้าไม่ได้ทำจริงพวกชาวบ้านจะยืนกรานว่าเป็นเจ้าได้อย่างไรกัน”

นางจงเบ้ปากไม่เชื่อเด็ดขาด นิสัยใจคอหลานสาวคนนี้มีหรือนางจะไม่รู้ งานหนักไม่เอางานเบาไม่สู้ วัน ๆ เอาแต่แต่งเนื้อแต่งตัวเดินกรีดกรายไปมา เห็นใครสวยกว่าหน่อยไม่ได้เป็นอันต้องเข้าไปหาเรื่องเขาก่อน กระทั่งเซี่ยยวี่เฟยลูกสาววัยแปดขวบของนาง ยังเคยถูกเซี่ยฮุ่ยหนิงเล่นงาน เหตุเพราะสวมใส่เครื่องประดับงดงามกว่า

แม่เฒ่าเซี่ยมีหรือจะไม่เข้าใจเหตุการณ์ ลำพังเสื้อผ้าหน้าผมของหลานสาวตนเองยับเยินจนดูไม่ได้ ก็พอเป็นหลักฐานได้เป็นอย่างดี ว่าเซี่ยฮุ่ยหนิงเป็นคนลงไม้ลงมือกับเซี่ยซานซานจริง เพราะเหตุนี้นางจึงไม่อาจปฏิเสธความผิดของหลานสาวได้

“ท่านแม่ท่านอย่าถือโทษโกรธฮุ่ยหนิงเลยเจ้าค่ะ นางยังเด็กคงตกใจที่เห็นอาซานสลบไปแบบนั้น เลยทำตัวไม่ถูกเจ้าค่ะ” นางหลินรีบดึงมือลูกสาวมาลูบปลอบเบา ๆ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ