ซูหวั่นถือกะละมังไม้ออกมาล้างหน้า ราวกับว่าไม่ได้ยินอะไรเลยแม้แต่น้อย
ซูหรงจึงเดินเข้ามาแย่งกะละมังไม้ไปอย่างเกรี้ยวกราด พร้อมกับพูดขึ้นมาว่า“ข้าพูดกับเจ้าอยู่นะ!”
“ตัวเองอยากจะล้างหน้าก็ไปตักน้ำมาเองสิ?ไม่มีมือไม่มีเท้าหรือไง!”ซูหวั่นปัดมือของซูหรงออกไปอย่างเต็มแรง
“เจ้า!”ซูหรงคิดไม่ถึงเลยว่าซูหวั่นที่หัวอ่อนมาโดยตลอดจะลุกขึ้นมาต่อต้านแบบนี้ได้ มันทำให้นางตกใจจนพูดไม่ออกเลยทีเดียว
“จะมาเจ้าอะไรอยู่ พูดไม่คล่องก็ไม่ต้องพูด รนแต่จะให้ใครเขารำคาญเอาเสียเปล่าๆ”ซูหวั่นยกน้ำที่ผ่านการล้างหน้ามาแล้วไปให้นาง“เอ้า อยากจะได้น้ำไม่ใช่เหรอ เอาไป ค่อยๆล้างนะ!”
พอพูดจบ นางก็หันหลังและเดินออกไปทันที
ซูหรงมองตามแผ่นหลังของซูหวั่น และคิดว่านังเด็กนี่มันเปลี่ยนไปแล้วงั้นเหรอ!
นางถือกะละมังเอาไว้ มองดูน้ำสกปรกที่อยู่ข้างใน และกระทืบเท้าอย่างเต็มแรง
ซูฝูขมวดคิ้วและสัมผัสไปที่ท้องอย่างไม่รู้ตัว“อาหรง อย่าโกรธนางไปเลย ต่อไปหากข้าได้เป็นท่านหญิงสกุลเจียงแล้วละก็ ข้าจะซื้อคนรับใช้มาให้เจ้าสักสองสามคนแน่นอน”
นางมีลูกอยู่ในท้อง
ต่อให้เจียงถงลู่จะไม่ยอมรับ แต่นางก็ยังสามารถให้แม่เฒ่าเซี่ยงช่วยคิดหาวิธีให้กับนางได้!
ซูหรงรีบไปตักน้ำมาให้ซูฝูล้างหน้าเสียใหม่“พี่คะ ข้ารู้ว่าพี่ดีกับข้ามาก ไม่เหมือนกับนังเด็กซูหวั่นนั่นหรอก!”
ซูหวั่นหัวเราะอย่างเย้ยหยันออกมา เสียงของซูหรงหยิ่งผยองเป็นอย่างมาก ซึ่งนางได้ยินอย่างชัดเจน
การท้องก่อนแต่งในยุคสมัยนี้ไม่แตกต่างอะไรเลยกับนางคณิกาในหอหาความสำราญ หรือไร้ยางอายมากกว่านางคณิกาเสียอีก
ซึ่งไม่รู้ว่าซูฝูนั้นไปเอาความภาคภูมิใจแบบนี้มาจากไหน
“ปังๆ!”
หลังจากรุ่งสาง ก็มีคนมาเคาะประตูใหญ่ของบ้านสกุลซูเสียงดังลั่น
ซึ่งประตูไม้ที่ไม่แข็งแรงเป็นทุนเดิมอยู่แล้วก็แทบจะพังเลยทีเดียว
“เปิดประตูหน่อย เปิดประตู!”
ซูฉางโซว่เดินมาถอดกลอนประตูออกอย่างไม่แยแส“ใครกันมาแต่เช้าตรู่แบบนี้!”
“คนล่ะ ส่งคนออกมาให้ข้าเดี๋ยวนี้นะ!”เจิ้งซื่อหลางยืนหลังค่อม พร้อมกับพาคนของสกุลเจิ้งมาตะโกนโหวกเหวกโวยวายอยู่ที่หน้าบ้าน“ท่านน้า ท่านน้ารับสินสอดของบ้านข้าไปแล้ว ทำไมยังไม่ส่งคนมาอีกล่ะ!”
ผู้น้อยจะพูดขัดจังหวะผู้ใหญ่ได้อย่างไรกัน แม้ว่าซูหรงจะไม่ได้สะสวยเท่ากับซูฝู แต่นางก็สามารถปีนป่ายสกุลใหญ่ได้เช่นกัน
แล้วจะมอบให้กับเจิ้งซื่อหลางที่ไม่เอาไหนได้อย่างไรกัน?
จากนั้นนางก็รีบขยิบตาให้กับนางจางทันที
โดยที่นางจางก็รับรู้ความหมายนี้ดี นางจึงหัวเราะเหอะๆพร้อมกับพูดว่า“ข้ายังต้องการเก็บอาฝูอาหรงไว้สักสองสามปีน่ะ ท่านน้า ข้าว่าท่านน้าลองถามนังหนูอาหวั่นจะดีเสียกว่านะ!”
อาหวั่นหรี่ตาลง
ไปๆมาๆ ภาระก็มาตกที่นางจนได้!
นางเซี่ยงรู้ดีว่าบ้านไม่เป็นรองที่โปรดปราน และพี่สาวของนางก็คงไม่ยอมยกหลานสาวที่น่าทะนุถนอมแบบสองคนนั้นมาให้นางหรอกนะ
และในใจก็คิดว่ายังไงเสียก็จะต้องพาซูหวั่นกลับไปให้ได้
ยังดีกว่าไม่ได้อะไรเลย!
ซูหวั่นยิ้มๆ พร้อมกับพูดเบาๆออกมาว่า“ท่านยาย ใครที่รับเงินสินสอดของท่านมาก็ไปตามที่คนนั้นนะคะ เรื่องนี้มันไม่เกี่ยวอะไรกับข้าเลย ข้าเอื้อมไม่ถึงสกุลของท่านหรอก”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติมาเป็นสาวชาวนา