ทายาทอันดับหนึ่ง นิยาย บท 4

วิลสันเดือดดาลด้วยความโกรธ! เจ้าคนเสียสตินั่นไปจอดขวางหน้ารถเบนท์ลีย์ของเจ้านายคนใหม่ได้ยังไงกัน! นี่เขาอยากมีปัญหารึอย่างไรนะ?

“ฟิลิป คลาร์ค แกยืนทำอะไรอยู่ตรงนั้นอยู่อีก? รีบหลบไปได้แล้ว!” วิลสันชี้หน้าฟิลิป และตะโกนใส่เขา

ฟิลิปเพิ่งจะจอดสกู๊ตเตอร์ของเขาเสร็จ เมื่อได้ยินเสียงด่าของวิลสันดังมาอีกระลอกนึง

“แย่ละ! ฟิลิปตายแน่คราวนี้ พี่วิลจะได้ออกหมัดเสียที”

“สิบสายร้องเรียน แต่เจ้าหนุ่มเสียสตินี่ยังกล้าจะกลับมาที่นี่อีก!”

“จะต้องโดนหักเงินอย่างน้อยสองร้อยแน่ ๆ นั่นมันต้องทำงานทั้งวันเลยนะ!”

พนักงานสองสามคนแอบนินทากันเงียบ ๆ และบางคนก็สนุกกับการได้ดูการแสดงนี้ ท่ามกลางพนักงานเหล่านี้มีบางคนที่เป็นพนักงานเก่าที่เคยทำงานกับฟิลิป เมื่อพวกเขาเห็นว่าฟิลิปถูกลดระดับลงมาทำงานเป็นพนักงานส่งของเหมือนกันกับพวกเขา ต่างก็พากันดูถูกเขายิ่งกว่าเดิม ฟิลิปชินชาไปเสียแล้ว

ตอนนั้นเอง มิสเตอร์แทงค์จ้องไปทางฟิลิปอย่างเย็นชา เขาดูหงุดหงิดก่อนจะถามขึ้น “ผู้จัดการ ยัง นี่ลูกน้องของคุณงั้นเหรอ?”

วิลสันรีบตอบกลับในน้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยคำถากถาง “เจ้านายครับ คุณไม่ได้มาที่นี่บ่อยนัก ผมจึงลืมแนะนำคุณไป นี่คือฟิลิป คลาร์ค เจ้าของบริษัทคนเก่าของเรา แต่ตอนนี้เป็นเพียงแค่พนักงานส่งของต๊อกต๋อยที่นี่เท่านั้น”

วิลสันจงใจเน้นย้ำคำว่า ‘เจ้าของคนเก่า’ ในขณะที่เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน โอ้ ฟิลิป แกจะได้รับในสิ่งที่แก่สมควรจะได้รับต้องขอบคุณกฏแห่งกรรมจริง ๆ ฮ่าฮ่าฮ่า!

สีหน้าของมิสเตอร์แทงค์เข้มขึ้น เขาขมวดคิ้วก่อนจะพูดขึ้นมา “ไปพาตัวเจ้าคนไม่ได้เรื่องนั่นออกมาซะ เราจะได้เตรียมต้อนรับเจ้าของบริษัทคนใหม่” ในที่สุดเขาก็จำฟิลิปได้ ชายหนุ่มแสนเศร้าที่ขายบริษัทต่อให้กับเขาเมื่อหลายปีก่อน โชคร้าย มิสเตอร์แทงค์ ผู้ที่มีไหวพริบดีแต่กลับความจำสั้น เพราะยังไงเสีย ชายหนุ่มที่สถานะทางสังคมต่ำต้อยอย่างเขาก็ไม่ควรค่าแก่การจดจำ

มิสเตอร์แทงค์จัดชุดสูทของเขาให้เข้าที่ก่อนจะเดินไปยังรถเบนท์ลีย์ที่จอดอยู่พร้อมกับรอยยิ้มกว้าง

เมื่อได้รับคำสั่ง วิลสันก็รีบทำหน้าที่ ชี้ไปที่ฟิลิปอย่างไม่ไว้หน้า “ฟิลิป ไปเก็บของของแกแล้วก็ออกไปซะ!”

ฟิลิปกลอกตา จดจ้องไปยังวิลสันที่ราวกับคนโง่ก่อนจะพูดคำ ๆ หนึ่งออกมา “ประสาท”

ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นได้ยินที่เขาตอบกลับ พวกเขาต่างพากันประหลาดใจ

วิลสันเดือดจัดขึ้นในทันที นิ้วของเขาเกือบจะจิ้มที่จมูกของฟิลิปอยู่แล้ว พร้อมกับตะโกนขึ้น “ไอ้บ้าเอ๊ย! ไหนลองพูดอีกทีซิ!”

ฟิลิปหัวเราะเสียงเย็น “อย่างที่นายต้องการเลย ไอ้ประสาท! ครอบครัวของนายก็เสียสติกันทั้งบ้าน!”

“แกตายแน่ ฟิลิป! แกถูกไล่ออก และแกต้องจ่ายเงินคืนให้กับบริษัทจากที่แกทำความเสียหายไว้!” วิลสันพูดผ่านไรฟันในขณะที่จ้องหน้าฟิลิปด้วยตาเบิกโพลง

ชายคนนี้ช่างไม่รู้ที่ของตัวเองเสียจริง! เขาควรจะรู้ตัวเองว่าเขาไม่ใช่เจ้าของบริษัท โกเฟอร์ การบริการการขนส่งอีกต่อไปแล้ว แต่เขากลับยังมาทำท่าหยิ่งยโส! คอยดูไปเถอะว่าฉันจะจัดการกับแกยังไงทีหลัง!

จู่ ๆ ประตูรถเบนท์ลีย์ก็เปิดออก ชายสูงวัยพร้อมด้วยไม้เท้าออกมาจากรถด้วยสีหน้าโกรธจัด “ใครกล้าไล่เขาออก?!” ชายสูงวัยเดินผ่านเควิน แทงค์ ผู้ที่เข้ามาต้อนรับเขาด้วยรอยยิ้มกว้างไป สร้างความประหลาดใจให้กับทุกคนด้วยการมาหยุดอยู่ตรงหน้าฟิลิป

เขายืดตัวขึ้น ก่อนจะโค้งลงเล็กน้อยและก้มหัวลง การกระทำของเขาลื่นไหล แสดงถึงความเคารพ “ขอโทษครับ นายน้อย ที่ผมมาช้า” ชายสูงวัยพูดขึ้น เสียงพูดของเขาไม่ได้ดัง แต่กลับทำให้สถานการณ์ตรงนั้นเงียบมากเสียจนทุกคนสามารถได้ยิน

นายน้อยอย่างงั้นเหรอ? ทุกคนตกตะลึง! ทำไมจู่ ๆ ฟิลิป คลาร์ค ถึงได้ขึ้นเป็นนายน้อย? เกิดอะไรขึ้นกันแน่?

เควิน แทงค์ ถึงกับพูดไม่ออก ยิ้มค้างไป

ส่วนวิลสัน นั้นเขาตกตะลึงมากเสียจนหัวเราะออกมายกใหญ่ “ท่านผู้สูงวัย คุณเป็นเจ้าของคนใหม่ของเรางั้นเหรอ? หยุดล้อเล่นเถอะครับ เจ้าฟิลิปคนนี้เป็นพนักงานระดับล่างสุดของบริษัทของเรา เพราะฉะนั้นคุณจะต้องจำผิดคนแน่ ๆ!”

จอร์จทำเพียงแค่จ้องเขาด้วยสายตาเย็นชา เขานิ่งคิดไป คนธรรมดาอย่างเขาจะมารับรู้ความยิ่งใหญ่ของนายน้อยของเขาได้อย่างไรกัน?

เควินขมวดคิ้วเล็กน้อย กึ่งเดินกึ่งวิ่งเข้าไปหาก่อนจะพูดขึ้นอย่างกระตือรือร้น “ท่านประธาน โธมัส ได้โปรดอย่าล้อพวกเราเล่นเช่นนั้นเลยครับ มาเถอะครับ เราเข้าไปคุยด้านในกัน”

เควิน แทงค์ เป็นนักธุรกิจเขาจึงจำจอร์จ โธมัส ได้ ชายคนนี้เป็นประธานบริษัท เอเปค กรุ๊ป! เป็นบุคคลที่มีมีอำนาจอย่างมากในเมืองริเวอร์เดลแห่งนี้!

อย่างไรก็ตามจอร์จ ยังคงยืนนิ่งไม่ขยับ จ้องไปที่เควินและวิลสันด้วยสายตาเย็นชา สีหน้าเคร่งขรึม “ใครล้อคุณเล่นกัน? นี่คือเจ้าของบริษัทคนใหม่ของพวกคุณ“

เป็นไปได้ยังไง? เจ้าของคนใหม่คือฟิลิปยังงั้นเหรอ? วิลสันไม่อยากจะเชื่อ เควินเองก็เช่นกัน

“ลูกพี่วิล นายบอกว่านายอยากจะไล่ฉันออกไม่ใช่เหรอ?” ฟิลิปมองไปที่วิลสัน พยายามที่จะไม่ยิ้มออกมา

“ฟิลิป! แกอยากมีเรื่องอย่างนั้นเหรอ? อย่ามาเรียกฉันว่า ‘ลูกพี่วิล’ นะ!” วิลสันคำราม เขาเกลียดชื่อเล่นนั้นมาก

“แกควรจะรีบไสหัวไปซะตอนนี้แล้วก็จ่ายค่าเสียหายบริษัทมาด้วย! เป็นจำนวนเงินหนึ่งแสน!” วิลสันยิ้มอย่างถากถาง ฮ่า! ฟิลิปจะเป็นเจ้าของบริษัทคนใหม่ได้อย่างไรกัน? ด้วยท่าทางอย่างเขาเนี่ยเหรอ? อย่าพูดให้ขำไปหน่อยเลย

ฟิลิปยังคงยืนจ้องหน้าวิลสัน กลั้นหัวเราะอย่างหนัก

“แกมองอะไร? รีบส่งเงินมาซะ!” วิลสันพูดอย่างเย้ยหยัน

“ถ้าฉันอยากจ้องแล้วมันจะทำไม?” ฟิลิปยิ้ม

“แกอยากมีเรื่องจริง ๆ สินะ? งั้นฉันจะสงเคราะห์แกเอง ฉันจะไล่แกออกเพราะสิ่งที่แกพูดกับฉัน” วิลสัน ยังคงยืนยันคำเดิม พร้อมกับยิ้มเหยาะ เขาเป็นถึงผู้จัดการบริษัท ดังนั้นเขามีอำนาจที่จะไล่ลูกน้องที่อยู่ต่ำกว่าเขาออกได้อยู่แล้ว

“ถ้าอย่างนั้นฉันจะบอกอะไรนายให้นะ วิลสัน ฉันไล่นายออก ทีนี้นายก็ไสหัวไปซะ” ฟิลิปยืนพิงสกู๊ตเตอร์ สองมืออยู่ในกระเป๋ากางเกง พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงไร้ความรู้สึก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทอันดับหนึ่ง