เข้าสู่ระบบผ่าน

แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย นิยาย บท 798

เฟิ่งจิ่วเหยียนพลันเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะหันไปเอ่ยถามกับเซียวอวี้

“ลูกของท่าน?”

เซียวอวี้เพียงรู้สึกว่าเป็นเรื่องไร้สาระเท่านั้น

“หาใช่ของเราไม่”

ครู่หนึ่ง ราวกับเซียวอวี้ฉุกคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ “หรือว่า…”

ยามที่เกิดความชุลมุนในวิหารบรรพบรุษนั้น มู่หรงหลันตามหาเด็กที่มีรูปร่างคล้ายกับเขาแล้วเอามาแอบอ้างว่าเป็นทายาทของเขากัน

หลังจากที่พรรคเทียนหลงพ่ายแพ้ไปแล้วนั้น เด็กคนนั้นก็ถูกโยนเข้าไปในคุกเทียนเหลา

หลังจากที่รุ่ยอ๋องสืบความแล้วนั้น ก็พบว่าเด็กคนนั้นถูกพรรคเทียนหลงนำไปชุบเลี้ยงใช้งาน เขาถูกขโมยตัวมาจากบิดามารดาที่แท้จริงของตนเอง

หลังจากตามหาจนพบว่า ครอบครัวนี้หาได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับพรรคเทียนหลงไม่ รุ่ยอ๋องจึงจัดการส่งเด็กให้กลับไปอยู่ข้างกายบิดามารดาที่แท้จริงของตนเองอีกครั้ง

……

เพื่อป้องกันมิให้เด็กคนนี้เอ่ยเรื่องไร้สาระออกมาที่หน้าประตูวังหลวง เฉินจี๋จึงนำเด็กคนนั้นเข้าวังมาทำการสอบสวน

เป็นดั่งที่เซียวอวี้คิดเอาไว้ เป็นเด็กคนนั้นจริง

ทั้งยังคงสวมใส่เสื้อผ้าตัวเดิม ทว่า ใบหน้ากลับซูบผอมมากกว่าเดิมเสียอีก

เมื่อเห็นเซียวอวี้นั้น เด็กคนนั้นพลางเอ่ยถามออกมาด้วยท่าทีเสียใจว่า

“เสด็จพ่อ เหตุใดท่านมิต้องการข้าแล้ว!”

ดวงตาของเซียวอวี้พลันเต็มไปด้วยความเย็นชา

“เรามิใช่เคยกล่าวไปแล้วหรือ หากยังเรียกขานเราแบบนี้อีก เราจะตัดลิ้นของเจ้าเสีย! เฉินจี๋!”

“พ่ะย่ะค่ะ!”

เด็กคนนั้นพลันตัวสั่นไปด้วยความหวาดกลัว

“ทว่า พวกเขาเคยกล่าวว่า ท่านเป็น...”

ใบหน้าของเซียวอวี้หาได้มีความอดทนหลงเหลืออยู่ไม่ ก่อนจะหันไปสั่งการกับเฉินจี๋ว่า

“ส่งเขากลับไป กำชับบิดามารดาของเด็กคนนี้ด้วยว่า หากยังมิรู้จักดูแลบุตรของตนเองให้ดีอีก เช่นนั้นก็อย่าเลี้ยงเขาอีกเลย”

เซียวอวี้พลันหันกายจากไปด้วยความไร้ใจ ทิ้งไว้เพียงเด็กน้อยที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด

ในวันนั้น องครักษ์ก็ตามหาบิดามารดาของเด็กคนนี้จนเจอ

พวกเขาเองก็ทำอันใดไม่ถูกเช่นกัน ก่อนจะเอ่ยสารภาพกับเฉินจี๋ออกมา

“ยามที่บุตรชายของข้าถูกขโมยตัวไปนั้น เมื่อกลับมาอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาเช่นนี้ เด็กคนนั้นกลับมิอาจคุ้นชินกับชีวิตที่ยากลำบากเช่นนี้ได้ ทั้งยังเอาแต่กล่าวว่าฮ่องเต้เป็นบิดาของตนเอง พลางกล่าวว่าในภายภาคหน้าเขาจักต้องขึ้นเป็นองค์รัชทายาท เป็นฮ่องเต้คนต่อไป ข้าน้อยเองก็มิรู้ว่าจักต้องทำเช่นไรเหมือนกันขอรับ!”

เฉินจี๋มิอาจช่วยอันใดพวกเขาได้

เขาพลางเอ่ยเตือนออกมาด้วยใบหน้าที่ไร้อารมณ์ว่า

“ฝ่าบาทไว้ชีวิตเขาแล้วครั้งหนึ่ง นับว่าเป็นความเมตตาที่พระองค์มีให้ต่อพวกเจ้าแล้ว ไสหัวไปเสีย!”

เมื่อสองสามีภรรยาไปรับเด็กมานั้น กลับพบว่าเด็กคนนี้มิอาจเอ่ยวาจาได้อีกต่อไป

พวกเขามีท่าทีตกใจไปในทันที

ราคาของเราเพียงแค่ 1/4 ของผู้ให้บริการรายอื่น

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย