ไปร้านชาบูไม่สั่งชาบู กินแต่เหล้าเบียร์ นอกจากเพื่อนของเถ้าแก่แล้วคงมีไม่กี่คนที่จะทำแบบนี้
ไห่เจารับสายจากอวี๋หมิงหลางจึงรู้ว่าเสี่ยวเชี่ยนจะมา ไม่เพียงแต่เตรียมห้องที่ดีที่สุดไว้ให้ แม้แต่เหล้าเบียร์ก็เอาของส่วนตัวออกมาให้พวกเสี่ยวเชี่ยนด้วยตัวเอง
รินเหล้าเต็มแก้ว จากนั้นเสี่ยวเชี่ยนก็เปิดประเด็นทันที
“ฉันส่งไป๋จิ่นไปเมืองนอกแล้ว นายวางใจได้ ลิลลี่ดอกนี้นอกจากนายแล้ว จะไม่มีใครเด็ดไปได้ในช่วงระยะเวลาอันสั้น”
ฉิวฉิวเงยหน้าขึ้นอย่างงงๆ เขามองเสี่ยวเชี่ยน จากนั้นก็ถอนหายใจออกมาอย่างจนปัญญา
“อย่าทำเขาเสียเวลาเลย ฉันยังไม่รู้เลยว่าต้องใช้เวลากี่ปี ปล่อยเขาไปมีชีวิตของตัวเองเถอะ”
เขารู้ความสามารถของประธานเชี่ยน
ถ้าประธานเชี่ยนไม่อยากให้ใครเข้าใกล้ไป๋จิ่นย่อมทำได้ แต่เขาจะเห็นแก่ตัวแบบนั้นได้อย่างไร
“ตกลงเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
ฉิวฉิวกระดกเหล้าลงคอ “วันมะรืนพ่อจะผ่าตัด ระยะสุดท้ายแล้ว”
เวลาที่คนอารมณ์ไม่ดี กินเหล้าก็มีแต่รสขม
“ยืนยันแล้วเหรอ?”
“อืม ตรวจยืนยันตั้งแต่ตอนที่เขาจะเอาเครื่องช็อตไฟฟ้ามาช็อตตั้งแต่คราวก่อนแล้ว รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลดังของที่นี่ ประธานเชี่ยน เธอว่าเมื่อชาติก่อนฉันติดค้างตาแก่นี่ไว้ไหม? เมื่อก่อนเขาทรมานฉันจนสภาพกลายเป็นชายก็ไม่ใช่หญิงก็ไม่เชิงแบบนี้ กว่าฉันจะปรับตัวเองได้ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ แต่เขาดันมาป่วยหนัก เธอว่าฉันจะอึดอัดไหมล่ะ?”
ฉิวฉิวกระดกเหล้าหมดแก้ว เหล้าที่ไห่เจาเอามาให้เป็นเหล้าแรงทั้งนั้น ฉิวฉิวกินเหมือนเป็นน้ำเปล่า
“ฉันบำบัดจิตใจก่อนเขาไปให้ได้นะ ราคาก็ตามมาตรฐานของฉัน ชั่วโมงละสองพัน บ้านนายน่าจะไหวอยู่แล้ว”
สำหรับตาแก่ที่ทำเพื่อนเธอจนกลายเป็นแบบนี้เสี่ยวเชี่ยนไม่อยากลดราคาให้
“มีประโยชน์เหรอ?” ฉิวฉิวมองเสี่ยวเชี่ยนอย่างคนหมดหนทาง
“มากน้อยก็มีบ้างแหละ อาจทำให้อยู่ได้อีกหลายเดือน ประกอบกับการรักษา ถ้ามองในแง่ดีหน่อยก็อาจอยู่ได้หลายปี”
ไม่ว่าจะอยู่ได้อีกนานแค่ไหน ชีวิตของพ่อฉิวฉิวก็เริ่มนับถอยหลังแล้ว
นี่คือความจริงที่ใครก็เปลี่ยนไม่ได้ พอนึกว่าพ่อตัวเองจะต้องเหลือแค่ขี้เถ้าฝังลงในดิน แบบนี้ความแค้นที่สั่งสมมาของฉิวฉิวก็ไม่มีที่ให้ระบาย เขารู้สึกเหมือนมีไฟสุมอยู่ในอก
“ก่อนหน้านี้ฉันอยากสารภาพกับไป๋จิ่นแล้วคบกับเขา จากนั้นเราสองคนก็จะไปจดทะเบียนกันที่เมืองนอก วันข้างหน้าก็จะใช้ชีวิตด้วยกัน เธอก็รู้ว่าคนที่เป็นแบบพวกเราอยากจะหาคนรู้ใจไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ฉันกลับมารู้ว่าตาแก่นี่กำลังจะตายในเวลาแบบนี้ ถ้าฉันทำแบบนั้นขึ้นมาเกิดตาแก่นี่โมโหขาดใจตาย ฉันกับไป๋จิ่นไม่ต้องแบกรับความรู้สึกผิดนี้ไปตลอดชีวิตเลยเหรอ? เมื่อชาติก่อนฉันติดหนี้ตาแก่นี่เท่าไรกันนะ?”
มาถึงขั้นนี้แล้วฉิวฉิวก็บอกไม่ถูกว่าตัวเองเกลียดพ่อหรือโลกใบนี้มากกว่ากัน เขาอยากปล่อยวางทุกสิ่ง แต่ปล่อยไม่ได้สักสิ่ง พ่อเขามาถึงช่วงโค้งสุดท้ายของชีวิตแล้ว จะมาพูดเรื่องเกลียดไม่เกลียดก็ไม่มีความหมายอีกต่อไป เขาคงทำได้แค่ทำให้พ่อจากโลกนี้ไปอย่างหมดห่วง แม้ต้องทำให้ความรักของตัวเองต้องพังทลายลงก็ตาม
ผู้ชายถือที่สุดก็คือเรื่องความไม่รับผิดชอบ
เขาไม่อาจปล่อยให้พ่อยังมีความกังวลอยู่ในใจก่อนตาย ต่อให้ต้องเป็นการเล่นละครตบตาเขาก็ต้องทำให้พ่อจากไปอย่างสบายใจ
เขาไม่อาจทนเห็นไป๋จิ่นต้องมารู้สึกผิดว่าตัวเองมีส่วนทำให้พ่อเขาตายเพราะโมโหเรื่องเขาคบกับเธอ รักมากแค่ไหนก็แบกรับความรู้สึกที่ทำให้หนึ่งชีวิตต้องตายไปไม่ได้หรอก ถึงตาแก่นั่นจะป่วยเอง แต่ถ้าให้รู้ว่าเขากับไป๋จิ่นยังคบกันอยู่ มีหวังได้โมโหอกแตกตายแน่
ถึงตอนนั้นไป๋จิ่นจะไม่เจ็บปวดไปทั้งชีวิต จะไม่รู้สึกผิดตลอดไปเหรอ?
เสี่ยวเชี่ยนรินเหล้าให้ฉิวฉิวอย่างเงียบๆ ฉิวฉิวกระดกหมดแก้วอีกครั้ง
พอวางแก้ว ดวงตาก็แดงก่ำแล้ว
“ประธานเชี่ยน ทำไมการมีชีวิตอยู่มันถึงได้อึดอัดแบบนี้? เขาทำแบบนี้มันยุติธรรมกับฉันเหรอ? ตอนเด็กๆทุบตีฉัน รังเกียจฉัน ทำฉันกลายเป็นครึ่งชายครึ่งหญิง พอโตมาอยู่ๆก็จะตาย…เธอว่าทำไมคนๆนี้บทจะตายก็ง่ายๆแบบนี้เลยเหรอ?”

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย