“ที่รัก?!”
พี่ใหญ่ไม่คิดว่าพี่สะใภ้ใหญ่จะมาหา
วันนี้มีผ่าตัดไม่ใช่เหรอ?
พี่สะใภ้ใหญ่สะพายกระเป๋าเดินเข้ามาอย่างสง่าผ่าเผย เธอเหลือบมองอวี๋หมิงหลางที่นั่งแทะลูกท้ออยู่บนโต๊ะ อวี๋หมิงหลางกลืนลูกท้ออย่างยากลำบากเกือบสำลัก
“เอ่อพี่สะใภ้ใหญ่ ผมเพิ่งนึกได้ว่ามีธุระขอตัวก่อนนะครับ”
หันตัวเดินหนี—เรื่องนี้ทำกันอย่างลับๆพี่สะใภ้ใหญ่มาได้ไงเนี่ย?!
“ออกไปแล้วต่อไปถ้าเจอพี่ไม่ต้องเรียกพี่สะใภ้ใหญ่นะ”
อวี๋หมิงหลางรีบยืนตัวตรงทันที
พี่สะใภ้ใหญ่ชี้หน้าเขา “นายรวมหัวกับพี่ใหญ่ปิดบังพี่เหรอ?”
“เจาเจา ฟังผมก่อน—” พี่ใหญ่รีบอธิบาย แต่ถูกพี่สะใภ้ใหญ่ถลึงตาใส่จึงไม่กล้าพูดต่อ
“หุบปากไปเลยนะ! เดี๋ยวค่อยคุยเรื่องของคุณ! น้องเล็ก พี่คิดมาตลอดว่าเราเป็นคนที่รู้จักคิดมากที่สุด ปรากฏว่าพวกนายสองพี่น้องมานั่งดูเรื่องสนุกด้วยกัน เห็นพี่เป็นคนนอก ตอนนั้นที่นายไปมีเรื่องพี่ก็เป็นคนช่วย แล้วตอนนี้นายรวมหัวกับพี่ใหญ่ทำกับพี่แบบนี้เหรอ? หัวใจคนเรามีเลือดมีเนื้อ พี่เห็นเราเป็นเหมือนน้องชายแท้ๆแต่ตอนนี้นายกับเขาทำเหมือนพี่เป็นคนนอก?”
หยูเจาเจาน้ำตาคลอเบ้า ความรู้สึกของเธอในตอนนี้คือเหมือนสูญเสียทั้งความรักและความผูกพัน เกิดเรื่องขนาดนี้กลับปิดบังเธอไว้ เห็นเธอเป็นคนนอก
“เจาเจามันไม่ใช่อย่างนั้น ฟังผมอธิบายนะ—” พี่ใหญ่ร้อนใจ แต่ถูกพี่สะใภ้ใหญ่ชี้หน้า
“หุบปาก! ฉันถามคุณหรือยัง?!”
พี่สะใภ้ใหญ่ไม่ใช่คนไม่รู้จักหนักเบา สาเหตุที่เธอไม่คุยกับพี่ใหญ่แต่ชี้หน้าว่าอวี๋หมิงหลางก่อน อันที่จริงเพราะต้องการโยนหินถามทาง และที่มากกว่านั้นก็คือตอนนี้เธอยังรับไม่ได้ที่พี่ใหญ่นอกใจ ถ้าให้เขาเป็นคนพูดเองเธออาจล้มทั้งยืน
พี่ใหญ่เงียบแต่ในใจร้อนเป็นไฟ แย่แล้วๆๆ จบเห่แน่
อวี๋หมิงหลางที่ปกติชอบทำหน้าทะเล้น เวลานี้เขาพูดด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
“พี่สะใภ้ใหญ่ครับ ไม่ใช่เพราะผมเห็นพี่เป็นคนนอกเลยปิดบัง แต่เพราะพี่สำคัญกับพี่ใหญ่มาก สำคัญกับครอบครัวของเรามากก็เลยไม่ได้บอกพี่ครับ”
สมองของอวี๋หมิงหลางประมวลความเป็นไปได้ทั้งหมด แต่ปากก็ยังไม่อยู่เฉย
“อันที่จริงพวกเราอยากรอจัดการเรื่องให้เสร็จก่อนแล้วค่อยบอกพี่ ไม่เชื่อพี่ลองดูเมียผมที่ออกหน้าจัดการให้ด้วยตัวเองสิครับ พี่ไม่เชื่อคนแซ่อวี๋อย่างพวกเราแล้วไม่เชื่อเสี่ยวเชี่ยนด้วยเหรอครับ?”
อวี๋หมิงหลางเอียงตัวให้พี่สะใภ้ใหญ่ดูกล้องวงจรปิด พี่ใหญ่มัวแต่เช็ดเหงื่อ ตอนนี้เขาตัวชาไปหมดแล้ว
ในจอทีวีเสี่ยวเชี่ยนเริ่มใช้วิธีพูดโน้มน้าวจิตใจ ค่อยๆทำให้เฝิงม่านม่านระบายความในใจออกมา
“ภรรยาของท่านประธานเป็นอะไรกับคุณเหรอคะ?”
“เขาเป็นน้าของฉัน”
“งั้นท่านประธานก็มีศักดิ์เป็นน้าเขยคุณสิคะ?”
สามารถถามได้ถึงระดับนี้ก็แสดงว่าสนทนาไปได้ลึกในระดับหนึ่งแล้ว พูดเพื่อให้อีกฝ่ายไว้ใจได้มากพอแล้ว ถ้าเมื่อกี้เสี่ยวเชี่ยนปูทางมาไม่ดีคงไม่สามารถดึงดูดความสนใจไว้ได้ขนาดนี้
“ใช่ ถ้าตามลำดับญาติเขาเป็นน้าเขยของฉัน” เฝิงม่านม่านตอบอย่างไม่ได้ระแวงอะไร
การโน้มน้าวเมื่อครู่ที่เหมือนไม่ได้ตั้งใจของเสี่ยวเชี่ยนได้ผลแล้ว ตอนนี้บทสนทนาของทั้งคู่เข้าสู่ขั้นตอนการบำบัดจิต เพียงแต่เฝิงม่านม่านไม่รู้ตัว เธอคิดแค่ว่าตัวเองกำลังระบายความอัดอั้นตันใจออกมาส่วนหนึ่ง

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย