นี่คือหน้าที่ของหัวหน้า นี่คือภารกิจ นี่คือหน่วยทหาร
ไม่ว่าตอนฝึกจะเข้มงวดเพียงใด พออยู่ในสนามรบทุกคนเป็นเหมือนพี่น้องกัน อุปสรรคขวากหนามที่มีร่วมกันฝ่าฟัน ช่วงเวลาที่มีร่วมกันคนนอกยากที่จะเข้าใจถึงเกียรตินี้
นี่คือความศรัทธา และเป็นจิตวิญญาณของนักรบ
โลนวูล์ฟได้ทำเรื่องที่ควรทำในฐานะที่เป็นนักรบ ยอมพลีชีพเพื่อให้เพื่อนทหารได้มีโอกาสได้รับชัยชนะ จากสงครามในครั้งนั้นฝ่ายเราสูญเสียทหารไปหนึ่งนาย ฆ่าศัตรูไปนับสิบคน ช่วยชาวบ้านบริสุทธิ์ได้เป็นจำนวนมาก
เส้นทางเดิมที่เข้าไปแล้วอาจพากันไปตาย พอเปลี่ยนเส้นทางก็อาจต้องเข้าสู่พื้นที่กับดักระเบิดของศัตรู ไม่ว่าจะไปทางไหนล้วนมีอันตราย นอกจากสองเส้นทางนี้แล้วก็คือการยอมแพ้ต่อภารกิจ ในสถานการณ์ที่ศัตรูคิดว่าทหารต้องล่าถอยอย่างแน่นอน แต่กลับคาดไม่ถึงว่าตัวเองเจอกับของแข็งเข้าแล้ว นักรบที่กล้าหาญรู้ว่ามีอันตรายแต่ก็ยังฝ่าเข้าไป
ก่อนหน้านี้ได้มีสายสืบต้องพลีชีพไปเพื่อนำข่าวนี้มารายงาน หากพลาดโอกาสนี้ปล่อยให้คนพวกนั้นหนีไปได้ก็จะมีผู้คนนับพันนับหมื่นต้องเคราะห์ร้าย โลนวูล์ฟใช้สัญชาตญาณของการเป็นนักรบยอมพลีชีพเพื่อแลกกับชัยชนะที่มีค่านี้
ศาสตราจารย์หลิวกับหัวหน้าใหญ่ต่างจับมือกันร้องไห้ พูดไม่ออก
ลูกชายเป็นวีรบุรุษที่มีเกียรติ ใช้ชีวิตที่น่าเศร้าแลกสันติสุข การที่ได้เลี้ยงวีรบุรุษแบบนี้มาทำให้พวกเขาทั้งเศร้าทั้งภูมิใจ
แม้แต่เสี่ยวเชี่ยนที่เป็นคนไม่ค่อยแสดงอารมณ์ให้คนภายนอกได้เห็นยังต้องหยิบกระดาษมาเช็ดน้ำตา
ส่วนหูเหม่ยจิ้งฟุบลงกับโต๊ะร้องไห้เสียงดัง เสียงร้องไห้ของเธอนั้นเหมือนฉีกหัวใจของทุกคน
“ผมเชื่อว่าตอนที่หัวหน้าโลนวูล์ฟตัดสินใจเขาไม่ได้เอาอารมณ์ส่วนตัวในแง่ลบมาเกี่ยวข้องครับ ถ้าตอนนั้นสภาพอารมณ์เขาไม่นิ่งคงไม่เลือกเปลี่ยนเส้นทางแต่จะไปทางเดิมต่อ ถ้าเขาไม่มีสติอยู่ตลอดเวลาไม่มีทางคาดการณ์ถึงอันตรายได้จากการเปลี่ยนแปลงเล็กๆน้อยๆหรอกครับ อันที่จริงพวกเราตกหลุมพรางของศัตรูกันตั้งแต่แรกแล้วครับ”
คำพูดของอวี๋หมิงหลางทำให้ทุกคนเงียบ ได้ยินเพียงเสียงร้องไห้
นี่คือแผนที่ศัตรูวางไว้เป็นอย่างดี จุดประสงค์ที่เลือกฤดูฝนก็เพราะต้องการให้เหล่าทหารเลือกทางตายหนึ่งในสองทาง ต้องการให้ฝ่ายเรารู้ถึงอันตรายแล้วถอยไป แต่ทหารนักรบที่กล้าหาญไม่กลัวตาย เพื่อความสงบสุขของประชาชน วินาทีที่ติดอาวุธถือปืน สิ่งที่อยู่ในใจนั้นมีแค่คำว่าเดินหน้าห้ามถอยสี่คำนี้ ประชาชนอยู่เบื้องหลัง ถอยไม่ได้แม้แต่ครึ่งก้าว
“การที่เพื่อนทหารต้องมาพลีชีพเป็นเรื่องที่พวกเราเจ็บปวดที่สุด พวกเราต้องนำพลังแห่งความโกรธนี้แปรเปลี่ยนเป็นแรงผลักดันปกป้องสันติสุขที่วีรบุรุษของพวกเราใช้เลือดเนื้อแลกมา ไม่ใช่โจมตีครอบครัวของวีรบุรุษ คู่หมั้นของหัวหน้าโลนวูล์ฟเคยเป็นโรคจิตเวชอย่างรุนแรงอันเนื่องมาจากรับไม่ได้กับการจากไปของเขา แม่ของเขาและคู่หมั้นของผมกำลังพยายามอย่างเต็มที่เพื่อช่วยรักษาเธอ วันนี้การที่ทุกคนมาอยู่รวมกันก็เพื่อทำเรื่องนี้ให้กระจ่างครับ”
อวี๋หมิงหลางพูดจบได้เดินไปที่หูเหม่ยจิ้ง ศาสตราจารย์หลิวและหัวหน้าใหญ่แล้วพูดอย่างหนักแน่น
“พวกเราสัญญาว่าจะรักษาสันติสุขอันมีค่านี้ด้วยความพยายามทั้งหมดที่มี เพื่อให้ดวงวิญญาณของวีรบุรุษไปสู่สุขคติ รักษาสันติสุขให้คงอยู่ตลอดไปครับ”
ทุกคนยืนขึ้น แล้วทำความเคารพให้กับครอบครัวของวีรบุรุษภายใต้การนำของอวี๋หมิงหลาง เสี่ยวเชี่ยนอดไม่ได้ที่จะหลั่งน้ำตาแห่งความประทับใจ เธอเองก็ยืนขึ้นมองภาพเหตุการณ์ตรงหน้า
หนามที่ทิ่มแทงใจทุกคนถูกดึงออกมาแล้ว ปริศนาที่คลี่คลายทำให้ทุกคนเสียใจอย่างยากที่จะหลีกเลี่ยง
โลนวูล์ฟไม่ได้บุ่มบ่ามอันเนื่องมาจากอารมณ์ส่วนตัว เธอเองก็ไม่ได้ใจดำตัดสายสัมพันธ์ในตอนนั้น แต่โชคชะตาอันโหดร้ายกลับทำให้คู่รักที่เดิมควรได้อยู่ด้วยกันต้องอยู่กันคนละโลก
ถึงเวลานี้จะอยู่ในช่วงโศกเศร้า แต่เรื่องราวกลับได้ข้อสรุปสุดท้ายแล้ว
ในวินาทีสุดท้ายของชีวิตเขาได้จากไปอย่างมีเกียรติ ส่วนเธอกลับสูญเสียตัวตนเพราะรักเขามากเกินไป ทำให้เป็นโรคจิตเวช
เขาซื่อสัตย์ต่อภารกิจ ส่วนเธอปกป้องความรักของตัวเอง
ฝนในฤดูใบไม้ผลิมีค่าดุจน้ำมัน ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องบังเอิญหรือเปล่า หยาดฝนโปรยปรายอยู่นอกหน้าต่างกระทบกับกระจกเบาๆ ทำให้เกิดรอยหยดน้ำเล็กๆ



VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย