เสี่ยวเชี่ยนแบ่งชาเทใส่สองแก้วแล้วเริ่มล้างสมองหลิวเหมยอย่างเป็นทางการ
“พี่จำได้ว่าเธอชอบดื่มชาดอกเก๊กฮวยใช่ไหม?”
“ดื่มตอนหน้าร้อนช่วยดับร้อน แถมยังทำให้สดชื่นขึ้นด้วยค่ะ”
“ดีมาก จำกลิ่นชาในวันนี้ให้ดี ต่อไปชานี้จะมีความหมายอย่างอื่นกับเธอ” นี่ก็คือการเริ่มต้นล้างสมอง
“ฉันจำได้แค่ว่าพี่สะใภ้คิดจะใช้ไมโครเวฟชงชา…” เรื่องนี้เธอสามารถจดจำไปได้ตลอดชีวิต
เสี่ยวเชี่ยนแกล้งไอ อันที่จริงเธอก็อยากรู้มากว่าทักษะระเบิดครัวนี้เธอได้แต่ใดมา ดูเหมือนในบ้านไม่เห็นมีใครเป็นแบบเธอ แม้แต่ต้าหลงยังต้มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปกินเองได้อย่างคล่องแคล่ว แถมยังใส่ไข่ใส่ผักเพิ่มเป็นด้วย
เสี่ยวเชี่ยนรู้สึกว่าห้ามพูดเรื่องงานครัว เลี้ยงได้ก็เลี่ยง
“เหมยจื่อ พี่อยากเล่าเคสคนไข้ให้เธอฟังเคสหนึ่ง เขาเป็นโรคซึมเศร้าหลังคลอด และสาเหตุของปัญหาก็คือสามีที่เป็นผู้ชายฟีนิกซ์กับแม่สามีจอมจู้จี้”
“ผู้ชายฟีนิกซ์คืออะไรคะ”
ยุคสมัยนี้คำๆนี้ยังไม่ดังขึ้นมา
“ผู้ชายฟีนิกซ์หมายถึงผู้ชายที่เกิดในครอบครัวที่ฐานะยากจนเข้ามาดิ้นรนใช้ชีวิตในเมืองใหญ่ ในสายตาของเพื่อนบ้าน พวกเขาคือฟีนิกซ์ทองที่บินออกมาจากเล้าไก่ พวกเขาคือความหวังที่พยายามทำทุกอย่างเพื่อครอบครัว พวกเขาเป็นคนฉลาด อดทน รู้ว่าตัวเองต้องการอะไร มีความทะเยอยานที่เห็นได้ชัดเจนมาก ไม่ใช่ว่าผู้ชายทุกคนที่มาจากบ้านนอกจะเป็นผู้ชายฟีนิกซ์เท่านั้นนะ คนในเมืองก็มีเหมือนกัน ครอบครัวยากจนมักจะทำให้ผู้ชายส่วนหนึ่งกลายเป็นผู้ชายฟีชายฟีนิกซ์ เรื่องนี้มีเทียบเป็นอัตราส่วนอยู่นะ”
“เอ๊ะ ที่พี่พูดมาทำไมฟังดูเหมือนหม่าลุ่ยเลย?”
หม่าลุ่ยคือแฟนที่เพิ่งคืนดีกับหลิวเหมย
เสี่ยวเชี่ยนยิ้มแบบมีเลศนัย “ที่พี่พูดเมื่อกี้คือด้านดีของพวกเขา ต่อไปพี่จะพูดถึงข้อเสียแล้วนะ คนไข้คนนั้นน่ะเป็นสาวในเมืองใหญ่ที่ฐานะค่อนข้างดีเลยล่ะ ประมาณเธอนี่แหละ พ่อแม่เป็นศาสตราจารย์ในมหาวิทยาลัย ถือว่าเป็นชนชั้นกลาง ผู้หญิงคนนี้ชอบในความพยายามและดิ้นรนของผู้ชายคนนี้เลยแต่งกับเขาโดยที่ไม่สนคำคัดค้านของครอบครัว เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นล้วนเป็นต้นเหตุของโรคซึมเศร้าหลังคลอด…”
เสี่ยวเชี่ยนใช้วิธีเล่าเรื่องราวเพื่อล้างสมองหลิวเหมย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความงก ความเห็นแก่ตัว เห็นเงินสำคัญยิ่งกว่าสิ่งใด เอาเงินเปย์ให้คนแก่และเด็กในครอบครัวอย่างไม่รู้จักจบจักสิ้น แถมยังอ่อนไหว เป็นพวกหยิ่งในศักดิ์ศรีของตัวเองมากจนเกินไป…
เสี่ยวเชี่ยนเล่าไปเรื่อยๆ อวี๋หลิวเหมยฟังแล้วก็หน้าซีด
ผู้ชายที่เสี่ยวเชี่ยนยกมาเล่านี้ทำให้เธอคิดว่าเสี่ยวเชี่ยนพูดถึงหม่าลุ่ย เหมือนมาก!
ไม่ว่าจะความทะนงตน เอาความคิดของตัวเองเป็นใหญ่ หรือเห็นแก่เงิน ทำไมถึงได้เหมือนขนาดนั้น? ถ้าไม่ใช่เพราะก่อนหน้านี้หลิวเหมยเคยเล่าเรื่องแฟนให้เสี่ยวเชี่ยนฟัง เธอคงคิดว่าเสี่ยวเชี่ยนพูดถึงแฟนของเธออยู่!
เสี่ยวเชี่ยนสังเกตปฏิกิริยาของหลิวเหมยอยู่ตลอด แอบทำมือชนะเลิศอยู่ในใจ ดอกเตอร์ทางด้านจิตวิทยาประสบความสำเร็จขั้นแรกในการต่อสู้กับหมอดูกำมะลอนั่น หญิงแก่คนนั้นทำได้เฉินเสี่ยวเชี่ยนก็ทำได้ นิสัยของมนุษย์มีอยู่แค่ไม่กี่อย่าง เท่าที่ฟังหลิวเหมยเล่า เสี่ยวเชี่ยนก็พอจะรู้แล้วว่าผู้ชายคนนั้นเป็นคนแบบไหน แค่ลองหยิบยกเคสคนไข้ขึ้นมาพูดก็ทำให้หลิวเหมยตกตะลึงได้แล้ว
“งั้น ต่อมาล่ะคะ?” หลิวเหมยถูดเสี่ยวเชี่ยนล้างสมองจนเหงื่อแตกไปหมด เสี่ยวเชี่ยนดันแก้วชาไปข้างหน้าหลิวเหมย “ดื่มชาก่อนสิ”
“ต่อมาแม่สามีก็เข้าเมือง เพราะความแตกต่างในการใช้ชีวิตทำให้แม่ผัวลูกสะใภ้เกิดความขัดแย้งกันไม่หยุด แถมผู้ชายยังพยายามคิดวางแผนให้ผู้หญิงซื้อบ้าน สุดท้ายหลังจากที่คลอดลูกออกมาแล้วผู้หญิงก็เป็นโรคซึมเศร้าจนต้องมาหาพี่ แต่ตอนนั้นพี่ไปทำงานที่อื่นพอดี เขาเลยต้องนัดไปเจอหมอคนอื่นแทน ปรากฏว่าผลการรักษาไม่ดีเขาเลยกระโดดตึกตาย พี่รู้สึกเสียใจกับเรื่องนี้มาก ถ้าพี่อยู่ล่ะก็เรื่องคงดีกว่านี้”



VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย