“ถ้าคุณทำไม่ได้อย่างที่พูด ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร ผมจะทำให้คุณตายอย่างทุเรศ”
คำพูดของซ่งชิงอู๋ทำให้เสี่ยวเชี่ยนโล่งอก เธอชนะแล้ว
“เอ่อ เดี๋ยวค่ะ”
ตอนที่ซ่งชิงอู๋เตรียมจะวางสายเสี่ยวเชี่ยนก็เรียกเขาไว้
“หืม”
“เอาผลไม้ตามฤดูกาลมาด้วยนะคะ ผลไม้บ้านฉันหมดแล้ว อะไรแพงก็ซื้ออันนั้นมา คิดเสียว่าเป็นการชดเชยเรื่องเมื่อวานที่ทำให้ฉันตกใจ ไม่รวมกับค่ารักษา แล้วก็ ลูกน้องคุณทำเพื่อนฉันบาดเจ็บ ค่ารักษาของเขาคุณก็ต้องออกด้วย”
“…คุณเป็นผู้หญิงคนแรกที่กล้าทำกับผมแบบนี้”
“เพราะว่าฉันทำได้ จำไว้นะคะนับแต่ตอนนี้ไปฉันเป็นจิตแพทย์ของคุณ ไม่ว่าจะเป็นพ่อค้าอาวุธสงครามหรือผู้นำประเทศ ลูกมหาเศรษฐี ในสายตาของจิตแพทย์มีอยู่แค่สองสถานะคือ ถ้าเป็นโรคเรียกว่าผู้ป่วย ถ้าไม่เป็นแค่มาขอคำแนะนำเรียกว่าผู้ขอรับคำปรึกษา คุณผู้ขอรับคำปรึกษาคะ ฉันขอย้ำว่าอย่าลืมนำผลไม้มาด้วยนะคะ”
“…ทางที่ดีคุณนั่งภาวนาให้ตัวเองทำให้ได้อย่างที่พูดเถอะ”
“คุณเองทางที่ดีก็ต้องมั่นใจนะคะว่าผลไม้ที่ซื้อมาสดที่สุด แพงที่สุด ดีที่สุด คนที่ล่วงเกินจิตแพทย์ไม่มีจุดจบที่ดีหรอกค่ะ”
เสี่ยวเชี่ยนวางสาย อวี๋หมิงหลางนวดหัวให้เธอ
“ทำดีมาก”
“ฉันตื่นเต้นจะตายอยู่แล้ว” เสี่ยวเชี่ยนคว้าแก้วน้ำมาดื่มยกใหญ่
เมื่อครู่บทสนทนาระหว่างเธอกับซ่งชิงอู๋อันที่จริงเป็นสงครามจิตวิทยาครั้งหนึ่งเลยล่ะ
ถ้าเธอแสดงออกว่าหวาดกลัวอีกฝ่ายก็จะมองออก ดังนั้นการที่เธอพูดจาอวดดีหรือแม้แต่ใช้ให้ซ่งชิงอู๋ซื้อผลไม้มาล้วนเป็นเทคนิคการโจมตีจิตใจ เจรจากับบุคคลอันตรายแบบนี้ ต้องมั่นใจว่าทุกคำพูดสามารถโจมตีอีกฝ่ายได้
“เขาติดเบ็ดแน่นอน” อวี๋หมิงหลางให้กำลังใจเธอ เมื่อครู่แม้แต่เขายังอึ้งกับคำพูดของเธอ ดังนั้นซ่งชิงอู๋ต้องหลงกลแน่นอน
“ไปเถอะ กลับไปดำเนินการขั้นสำคัญกับฉันให้สำเร็จ” เสี่ยวเชี่ยนกำมือซ้ายตัวเอง อวี๋หมิงหลางยื่นหมัดขวาไปแตะหมัดของเธอ
“ร่วมเป็นร่วมตาย”
จะชนะหรือแพ้ก็ต้องดูที่สงครามที่กำลังจะเกิดนี่ล่ะ
ระหว่างทางกลับบ้านแค่สิบกว่านาที เสี่ยวเชี่ยนหลับตายังรู้สึกได้ถึงความวิตกกังวล
เมื่อชาติก่อนหลังจากที่เธอเป็นบอสสาวแล้วก็น้อยครั้งที่จะเครียดเป็นกังวล
ชาติที่แล้วเธอเคยเผชิญหน้ากับคนที่น่ากลัวยิ่งกว่าซ่งชิงอู๋ ตอนนั้นประธานเชี่ยนไม่กลัวเลยสักนิด เธอมีความกล้าและความมั่นใจเพียงพอจึงไม่กลัวอะไร
แต่เมื่อกลับมาเกิดใหม่ในชาตินี้ ความรู้ความสามารถของเธอมากกว่าในชาติก่อนไม่น้อย แต่ประธานเชี่ยนในเวลานี้กลับเป็นกังวล
และสาเหตุของความเครียดในครั้งนี้—-เสี่ยวเชี่ยนมองอวี๋หมิงหลางที่กำลังขับรถ
คือเขา
“ความสุขเป็นเหมือนดาบสองคมจริงๆ”
“อะไรนะ” อวี๋หมิงหลางรู้ว่าเสี่ยวเชี่ยนกำลังทำสมาธิตั้งแต่เมื่อครู่ ดังนั้นเขาจึงไม่กวนเธอ แต่เขาไม่รู้ว่าทำไมอยู่ๆเธอก็พูดแบบนี้
“ฉันบอกว่าความสุขของคนเราเป็นเหมือนดาบสองคมที่มีทั้งดีและร้าย ก็เหมือนกับตอนนี้ที่ฉันมีความสุข มีบ้านมีเงินมีสามี แต่ด้านที่ไม่ดีก็คือ ดูเหมือนตอนนี้ฉันจะมีความกล้าน้อยลง ฉันกังวลว่าถ้าฉันทำพลาดแล้วฉันจะต้องสูญเสียความสุขแบบนี้ไป”
หลังจากที่ได้ลิ้มรสของความสุขแล้ว มีเหรอที่เธอจะยอมกลับไปตกนรกที่มีแต่เงินและอำนาจ

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย