ที่นั่งของเสี่ยวเชี่ยนอยู่ห่างจากเวทีระยะหนึ่ง หากต้าอีเงยหน้าก็น่าจะเห็นเธอ แต่เวลานี้ต้าอีกำลังรวบรวมสมาธิ สายตาเธอไม่วอกแวก เธอมองแค่คำถามที่อยู่บนหน้าจอตรงหน้าเท่านั้น บุคลิกแบบนี้เหมือนเสี่ยวเชี่ยนมาก
สมกับเป็นลูกศิษย์ที่เสี่ยวเชี่ยนปั้นมากับมือ แทนเธอได้ในช่วงเวลาสำคัญ เสี่ยวเชี่ยนแสดงออกอย่างพอใจ สำหรับคนที่ไม่เคยมีประสบการณ์ในการแข่งแล้ว ต้าอีในเวลานี้ทำได้ดีมาก
มีข้อความเข้าเสี่ยวเชี่ยนจึงกดดู อวี๋หมิงหลางส่งมา
ไม่ต้องโมโห
เธอยิ้มมุมปาก เข้าใจความหมายของเขาแล้ว
เสียงกริ่งเรียกความสนใจของเสี่ยวเชี่ยนกลับมา เธอลบข้อความนั้นทิ้งแล้วเงยหน้ามองจอใหญ่ พิธีประกาศเนื้อหาการแข่งของต้าอีในรอบนี้
สำหรับคนอื่นแล้วไม่ค่อยยาก แต่สำหรับต้าอีกลับเหมือนถูกเอาปืนจ่อหัว
หัวข้อที่ต้าอีได้คือ คุณมีความคิดเห็นอย่างไรในเรื่องข้อพิพาทระหว่างคนไข้กับนักจิตวิทยาบำบัด?
เสี่ยวเชี่ยนขมวดคิ้ว คำถามที่ดูเหมือนง่ายแบบนี้แต่กลับเป็นคำถามที่ยากจะได้คะแนนสูง
หลังจากที่ประกาศคำถามเสร็จก็จะให้เวลาเตรียมตัวครึ่งชั่วโมง ต้าอีคิดคำตอบพลางจดโน้ตเอาไว้คร่าวๆ
สมองของเธอเกิดอาการสับสนเล็กน้อย คำถามนี้ดูเหมือนง่าย แต่คิดคำตอบไม่ง่าย
อีกทั้งเธอจับฉลากได้ลำดับการออกคนท้ายๆ กลุ่มนี้มีทั้งหมดสี่คน เธอออกมาลำดับที่สาม
ถึงทุกคนจะแยกกันตอบ ไม่มีใครได้ยินอีกฝ่ายแสดงความคิดเห็น แต่ในสายตาของคณะกรรมการย่อมมีลำดับคนมาก่อนหลัง ถ้าความคิดของเธอไม่แปลกใหม่แถมยังซ้ำกับคนก่อนหน้า เธอก็คงได้คะแนนไม่สูง ต้าอีพยายามคิดหาทาง
เสี่ยวเชี่ยนนั่งจ้องต้าอีจากด้านล่างเวที เธอวิเคราะห์ระดับความมั่นใจของต้าอีในตอนนี้ผ่านทางสีหน้า
เธอรู้สึกได้ว่าต้าอีพอมีแนวทางแล้ว คิดหาคำตอบของตัวเองได้อย่างแน่นอน
ถ้าต้าอีเขียนต่อย่อมทำทุกอย่างได้สำเร็จลุล่วงด้วยตัวเองได้อย่างไม่มีปัญหาแน่ แต่กลับเกิดข้อผิดพลาดเล็กน้อยขึ้นในเวลานี้
แสงไฟในห้องออกอากาศกระพริบเล็กน้อย ต้าอีจึงมองไปรอบๆโดยอัตโนมัติ
แล้วเธอก็เห็นประธานเชี่ยนนั่งอยู่ในหมู่คนดู แม้แต่แม่สามีเธอก็ยังมองข้ามไป
ต้าอีก้าวไปทางเสี่ยวเชี่ยนหนึ่งก้าวด้วยความตื่นเต้น แต่เสี่ยวเชี่ยนส่ายหน้าให้เธอ เธอจึงถอยกลับไป
ต้าอีเข้าใจทันที
เธอรู้ว่าการที่ประธานเชี่ยนนั่งอยู่ตรงนั้นก็แสดงว่าขึ้นมาไม่ได้แล้ว
วินาทีที่เสี่ยวเชี่ยนสบตากับต้าอีนั้นอยู่ๆเธอก็นึกขึ้นมาได้
แย่แล้ว
ถ้าต้าอีไม่เห็นเธอเวลานี้ก็คงคิดหาคำตอบได้แล้ว แต่พอเห็นว่าประธานเชี่ยนอยู่ความคิดของต้าอีก็ขาดตอนไปชั่วขณะ มัวแต่คิดว่าทำไงดีประธานเชี่ยน
หลักการนี้คนที่เคยเลี้ยงเด็กจะรู้ เวลาที่มีผู้ปกครองอยู่ข้างๆเด็กก็จะงี่เง่าเอาแต่ใจสารพัด แต่ถ้าผู้ปกครองไม่อยู่ด้วยทิ้งไว้กับคนอื่น เด็กหลายคนก็จะพึ่งพาตัวเองได้ขึ้นมาทันที
ความเลื่อมใสในตัวประธานเชี่ยนของต้าอีนั้นมีมากแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน พอเห็นประธานเชี่ยนคำตอบที่คิดไว้ก็หายไป
ตอนนี้ประธานเชี่ยนนั่งเป็นผู้ชม…ต้าอีมองเสี่ยวเชี่ยนด้วยความร้อนใจ หวังว่าเสี่ยวเชี่ยนที่ไม่อาจขึ้นมาบนเวทีได้จะพอทำให้เธอเกิดความคิดอะไรได้บ้าง
เสี่ยวเชี่ยนเองก็กำลังหาทางว่าทำอย่างไรถึงจะเรียกสมาธิต้าอีกลับมา…คิดออกแล้ว
เสี่ยวเชี่ยนกำหมัดแล้วทำท่าเหมือนชกหน้าตัวเอง จากนั้นก็กลับไปทำตัวปกติ ไม่ว่าต้าอีจะมองเธออย่างไรเธอก็ไม่มีปฏิกิริยาแล้ว
นี่มันหมายความว่าไง…
ถ้าหากเป็นคนที่อยู่ด้วยกันมานานก็ย่อมรู้ใจกัน แต่ถ้าเป็นคนอื่นอาจคิดว่าเสี่ยวเชี่ยนหมายความว่า ถ้าทำไม่ดีโดนอัดแน่
แต่ต้าอีรู้จักนิสัยของเสี่ยวเชี่ยนดี ท่าทางของเสี่ยวเชี่ยนแบบนั้นจะต้องเป็นคำตอบแน่ แล้วมันคืออะไร…
หากวิเคราะห์จากนิสัยประธานเชี่ยนที่ปกติไม่พูดไร้สาระ ท่าทางแบบนี้จะต้องเกี่ยวข้องกับการเรียนหรือไม่ก็การทำงานของเธอแน่นอน ช่วงนี้เธอไม่ได้เรียนทฤษฎีอะไรเลย ก็มีแค่ฝึกงานในโรงพยาบาล…ฝึกงาน
ต้าอีนึกออกแล้ว ดวงตาเธอเปล่งประกายขึ้นมาทันที
VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย