“เรื่องนี้คุณไม่ต้องเป็นห่วง ผมพูดให้เขายอมเข้าไปอยู่ในค่ายทหารอย่างว่าง่ายได้แน่ แต่ก็ติดอยู่นิดนึงนะ อนาคตเขาอาจจะค่อนข้างลำบากถึงขนาดแทบอยากขาดใจตายเลยก็ว่าได้ แล้วแม่คุณ—”
“เรื่องนั้นไว้เป็นหน้าที่ฉันเอง ฉันไม่เชื่อว่าจะเอาน้องชายคนนี้ไม่อยู่”
“เรื่องเรียนอะไรคุณก็ไม่ต้องเป็นห่วง อายุขนาดต้าหลงเข้าไปเป็นทหารครบสองปีสามารถสอบเข้าโรงเรียนทหารได้ ต่อให้สอบไม่ติดปีแรก ขอแค่เขาทำตัวเป็นที่น่าพอใจก็เลื่อนเป็นนายทหารอาชีพได้ แล้วก็ยังจะสามารถสอบได้อีกครั้ง ขอแค่เขาคิดได้รู้จักใฝ่เรียน ผลการเรียนย่อมดีกว่าตอนนี้แน่นอน ยังไงซะเขาก็ไม่ได้โง่ ก็แค่สมองไม่จดจ่ออยู่กับเรื่องเรียนแค่นั้น”
อวี๋หมิงหลางมองออกอย่างแท้จริง
ต้าหลงไม่ได้โง่ ไม่ได้ซื่อบื้อ ออกจะมีความฉลาดอยู่บ้างด้วยซ้ำ เพียงแต่เขามีความคิดที่ต่อต้านการเรียน ไม่ว่าจะเสี่ยวเชี่ยนสอนหรือให้ฟู่กุ้ยติว ก็เข้าหูซ้ายทะลุหูขวาของต้าหลงหมด แต่ถ้าให้เวลา ปล่อยให้ต้าหลงคิดอยากเรียนเอง เขาย่อมทำได้ดีกว่าตอนนี้แน่
“ความยากในการสอบเข้าโรงเรียนทหารแทบจะพอๆกับสอบเรียนดอกเตอร์แล้ว จำนวนที่รับก็น้อย แถมยังมีแบ่งทดสอบด้านทหารกับด้านวิชาการ ยากยิ่งกว่าสอบเข้ามหาลัย อย่างต้าหลงน่ะเหรอ…”
“ความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จอยู่ที่นั่น สิ่งสำคัญก็คือในหนึ่งปีเขาเจออะไรไปบ้าง เจอกับสิ่งที่เป็นตัวเร่งให้เขาเติบโตหรือเปล่า ถึงสอบเข้าโรงเรียนทหารจะมีบททดสอบร่างกายเพิ่มเข้ามา แต่ถ้ามองในแง่ดี คะแนนสอบวิชาการยังต่ำกว่าสอบเข้ามหาลัยปกติอีกนะ ขอแค่มีความพยายามก็ย่อมมีความหวัง แต่ถึงจะสอบไม่ติด ประสบการณ์ระหว่างนั้นมันก็คือการได้เติบโตไปอีกขั้น”
ส่วนหลังจากเข้าโรงเรียนทหารได้แล้วควรจะเลือกเรียนทางไหนต่อ เสี่ยวเชี่ยนกับอวี๋หมิงหลางไม่ห่วงเท่าไร แต่ถึงจะสอบไม่ติด การได้อยู่ในค่ายทหารสองปีก็ย่อมมีพลังชักจูงไปในทางที่ดี เด็กคนนี้ไม่ได้แย่เสียทีเดียว ในอนาคตออกมาแล้วไปทำงานอะไรก็ย่อมดีกว่าทุกวันนี้
“เข้าหน่วยของทางนี้ไปแล้วมีโอกาสเลือกสังกัดไหม?” เสี่ยวเชี่ยนไม่ค่อยรู้เรื่องพวกนี้
“เด็กคนนี้ดวงดีไม่เบา ผมดูแล้วตามทะเบียนบ้านของเขา มีหน่วยที่เหมาะกับเขาพอดี”
“นายคงไม่ได้ใช้เส้นสายหรอกนะ? ห้ามทำแบบนั้นเด็ดขาด” เสี่ยวเชี่ยนไม่อยากให้เขาทำลายหลักการตัวเอง
“ไม่ต้องใช้เส้น ปกติที่นั่นคนที่รู้จักวงการนี้ดีจะไม่ส่งเด็กไป มันลำบากมาก แค่ไปสมัครทางนั้นก็รับหมด”
“เอาให้เหนื่อยตายสิดี จะได้กำจัดความคิดที่อยากสบายทางลัดให้หมดจากสมอง”
สิ่งที่ต้องการก็คือ สามเดือนแรกห้ามให้น้องชายเธออยู่สุขสบายแม้แต่วันเดียว
ชีวิตต้าหลงอยู่สุขสบายเกินไปแล้ว
ถึงจะเป็นครอบครัวที่ผ่านการหย่าร้าง แต่เสี่ยวเชี่ยนกับแม่ก็เอาใจใส่น้องชายคนนี้เป็นอย่างมาก เสี่ยวเชี่ยนให้ความสำคัญกับสภาพจิตใจของน้องชายและการอบรมสั่งสอน บวกกับครอบครัวใหม่ไม่ได้เกิดความขัดแย้งขึ้นภายในครอบครัว ต้าหลงจึงไม่ได้ทำตัวต่อต้านเหมือนเด็กคนอื่นๆที่ครอบครัวหย่าร้าง แต่ชีวิตก็สุขสบายจนเกินไป เลยทำให้ขาดความกระตือรือร้น
ตอนนี้เสี่ยวเฉียงกับเสี่ยวเชี่ยนจะร่วมมือกันทำลายความสุขสบายของเด็กคนนี้ กดดันต้าหลงให้ไม่มีทางถอยได้อีก ให้เขาดิ้นรนปีนป่ายขึ้นมาเอง ไปอยู่ในที่แบบนั้น ไม่มีทางตกต่ำ ไม่มีเวลามานั่งเสียใจ ไม่มีทางให้ถอย
พอคำพูดนี้ของเสี่ยวเฉียงหลุดออกจากปากมา สิ่งที่อัดอั้นอยู่ในใจของเสี่ยวเชี่ยนก็เหมือนได้หลุดออก เธอยิ้มให้เขา
“นายเสี่ยวเฉียง หน้าที่นี้ขอมอบให้นายแล้ว นายมั่นใจว่าจะทำสำเร็จไหม?”
“ครับ! รับรองว่าสำเร็จแน่ครับผม!” อวี๋หมิงหลางตอบกลับด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
“ไม่ได้ นายต้องยืนตรงทำให้สมจริง ต้องให้ฉันรับรู้ได้ถึงความเท่ห์สิ” พอสิ่งที่ค้างคาใจหมดไปก็คุยได้อย่างสบายใจ มีอารมณ์ล้อเล่น
เสี่ยวเชี่ยนชอบเห็นเขาทำท่าทางจริงจัง รู้สึกเหมือนพลังแห่งฮอร์โมนเพศชายจะทะลุปรอทแตก
“ครับ รับรองว่าสำเร็จแน่ครับผม!” เขายืนตรงยืดอกทำตามที่เธอบอก เสี่ยวเชี่ยนมองอย่างพอใจ

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย