งานแต่งของเสี่ยวเชี่ยนจัดตามธรรมเนียมโบราณ รายละเอียดแต่ละขั้นตอนต้องทำตามอย่างเคร่งครัด
ไม่ใช่แค่เจี่ยซิ่วฟางที่ให้ความสำคัญกับเรื่องพวกนี้ ตระกูลอวี๋เองก็ด้วย
วันนี้เสี่ยวเชี่ยนต้องเปลี่ยนทั้งหมดสี่ชุด ซึ่งทุกชุดล้วนสั่งตัดโดยช่างที่ชำนาญ รอยเย็บรอยตะเข็บล้วนใช้การเย็บแบบโบราณ
สะใภ้ของตระกูลอวี๋ไม่ใส่ชุดเจ้าสาวแบบฝรั่ง งานแต่งทำตามพิธีแบบจีนทั้งหมด
นี่ไม่ใช่การตัดสินใจของพ่ออวี๋ แต่เป็นข้อกำหนดของผู้อาวุโสในตระกูลอวี๋
ตอนนี้เสี่ยวเชี่ยนอยู่ในชุดพิธีการชุดแรก ซึ่งถือเป็นชุดที่สำคัญที่สุดในพิธีแต่งงาน ลวดลายบนชุดถูกปักด้วยด้ายทองอย่างซับซ้อน ผ้าไหมสีแดงปิดบังใบหน้าอันสะสวยของเธอ แต่ถูกแทนที่ด้วยงานปักที่ละเอียดอ่อน อวี๋หมิงหลางสามารถจินตนาการได้เลยว่าใบหน้าที่อยู่ใต้ผ้าผืนนี้นั้นมีค่าและงดงามเพียงใด
ต่อให้มีผ้าปิดบังหน้าไว้ เห็นเพียงตัวเธอที่นั่งอย่างงามสง่า อวี๋หมิงหลางก็ยังถูกสะกดจนแน่นิ่งได้ ดวงตาของเขามองตรงไป ถ้าไม่ถูกเพื่อนเจ้าบ่าวที่อยู่ข้างๆสะกิด ไม่แน่เขาอาจจะเอาแต่ยืนอยู่ตรงประตูมองเธอไปเรื่อยๆ สายตาอันร้อนแรงคล้ายกับอยากจะเข้าไปชิงตัวเจ้าสาวออกไปเสียเดี๋ยวนี้
เมื่อคืนอวี๋หมิงหลางดื่มกับเพื่อนสมัยเด็กจนถึงช่วงเช้ามืดถึงกลับบ้าน คนคอแข็งอย่างเขาก็ยังมีมึนๆบ้าง แต่ไม่ส่งผลต่ออารมณ์ตื่นเต้นของเขาในตอนนี้
ขั้นตอนพิธีแต่งงานแบบโบราณมีความซับซ้อนมาก แต่อวี๋หมิงหลางกลับรักขั้นตอนพวกนี้สุดๆ
ด้านหนึ่งของผ้าไหมสีแดงคือเขา ส่วนอีกด้านเป็นเธอ จูงเธอออกไปยังขบวนรถที่อยู่ด้านนอก ทุกย่างก้าวคือความทรงจำแห่งรัก
มองไม่เห็นหน้าเขา แต่กลับรู้สึกได้ถึงกลิ่นอายของตัวเขา
เสี่ยวเชี่ยนที่เป็นคนไม่ค่อยแสดงอารมณ์เท่าไร เวลานี้กลับรู้สึกตื่นเต้น
เธอไม่รู้ว่าอวี๋หมิงหลางที่อยู่อีกด้านของผ้าไหมสีแดงมีอารมณ์แบบไหน แต่ช่วงที่ก้าวเดินนี้ ในใจของเธอมีเพียงประโยคเดียวที่วนเวียนอยู่
ผ้าไหมสีแดง เราสองประคองคู่ อยู่กันจนแก่เฒ่า
ชาตินี้เธอไม่เสียใจที่ได้แต่งกับเสี่ยวเฉียง ได้แต่หวังว่าชาติหน้าจะมีบุญได้แต่งงานกับเขาอีก
การขึ้นเกี้ยวตามพิธีแต่งงานแบบจีนต้องให้พี่ชายเจ้าสาวแบก ฟู่กุ้ยรีบเอาเฝือกออกก็เพื่องานนี้โดยเฉพาะ แต่อวี๋หมิงหลางพอเห็นเขาเก้ๆกังๆมุมปากก็กระตุก
เสี่ยวเชี่ยนยืนรอให้ฟู่กุ้ยแบกเธอขึ้นเกี้ยว
ไห่เจาที่เป็นเพื่อนเจ้าบ่าวสังเกตเห็นอวี๋หมิงหลางเอาแต่จ้องพี่ชายของเจ้าสาวจึงรีบกระซิบสั่ง
“ใจเย็น อดทนไว้ อดทน!”
แต่คำเตือนนั้นก็ช้าเกินไป
ฉากที่ชวนตกตะลึงได้เกิดขึ้น
เสี่ยวเชี่ยนถูกคลุมหน้าไว้จึงไม่เห็นเหตุการณ์ แต่ได้ยินเสียงหัวเราะจากรอบๆ จากนั้นเธอก็ตัวลอยขึ้นไปอยู่บนหลังอันคุ้นเคย สัมผัสนี้ไม่ใช่ฟู่กุ้ยเสียหน่อย นี่มันสามีเธอ!
“หมิงหลาง! นี่มันงานของพี่ชายนะ ทำไมไปแย่งเขาทำเล่า?”
มีคนแซวขึ้นมา ฟู่กุ้ยที่ถูกผลักออกทำหน้าน้อยใจ ไหนว่าให้พี่เจ้าสาวแบกไง? เจ้าบ่าวทำเองแถมยังผลักพี่เจ้าสาวไปข้างๆอีก หมายความว่าไง?!
“ผมนี่แหละพี่ชาย! นับจากวันนี้ไป ไม่ใช่แค่เป็นพี่ชายยังจะเป็นสามีด้วย ผมจะดูแลเขาไปตลอดชีวิต! ใครกล้ามีปัญหา?”
อวี๋หมิงหลางไม่อาจทนเห็นภรรยาตัวเองไปอยู่บนตัวฟู่กุ้ยที่ยืนไม่มั่นคง เกิดล้มขึ้นมาทำเมียเขาบาดเจ็บจะทำยังไง!
ผู้ชมพากันฮาครืน พิธีกรที่ถูกจ้างมาราคาแพงบวกกับเป็นคนสั่งการถึงกับเหงื่อตก อยากตะโกนออกไปจริงๆว่า เห้ย ไอ้ผู้ชายที่ทำขั้นตอนรวนนั่นน่ะ วางเจ้าสาวลงเดี๋ยวนี้นะ!
แต่ดูจากรูปร่างของอวี๋หมิงหลางแล้ว บวกกับสีหน้าที่เหมือนเป็นพวกคลั่งเมียนั่น พิธีกรเลือกที่จะเงียบดีกว่า ไม่อยากเจ็บตัวก็อยู่เฉยๆ!
เสี่ยวเฉียงที่แย่งงานของพี่เจ้าสาวไปยังไม่ลืมควักซองแดงที่เตรียมไว้ออกมายัดใส่มือฟู่กุ้ย



VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย