บัลลังก์ชายาหมอเทวดา นิยาย บท 4

“ท่านหวง รีบฆ่าพวกมันซะ!”

เมื่อเจ้าพระยาเซี่ยเห็นผู้อาวุโสชุดดำถือลูกคันธนูปรากฏตัวขึ้น ก็รีบเดินออกมาจากที่ซ่อนตัวหลังกำแพงด้วยท่าทางโอหัง

ทำให้เย่จายซิงนึกถึงคำที่ว่า “คนผู้น้อยลำพองตน”

สีหน้าของนางสงบนิ่ง แล้วมองไปที่ผู้อาวุโสชุดดำอย่างระแวดระวัง

ผู้อาวุโสชุดดำรูปร่างผอมบาง หน้าตาธรรมดา แต่นางก็รู้อยู่แก่ใจดีว่า ผู้อาวุโสคนนี้อันตรายมากขนาดไหน

“ท่านพี่ พวกเราหนีไม่พ้นหรอก เขาเป็นผู้แข็งแกร่งที่เจ้าพระยาเซี่ยเชิญมาจากเฉินตู ฝึกตนอยู่ในขั้นมหาจักรพรรดิทิพย์ขั้นต้น เขาแค่โบกมือทีเดียวก็สามารถสังหารอสูรกายขั้น 6 ได้แล้ว”

ในแผ่นดินเทียนเหย้า แดนของผู้ฝึกตนสามารถแบ่งได้เป็นแดนศิษย์ทิพย์ แดนอาจารย์ทิพย์ แดนราชาทิพย์ แดนมหาจักรพรรดิทิพย์ แดนเทวทิพย์และแดนมกุฏทิพย์ และในแต่ละแดนจะถูกแบ่งออกเป็นเก้าระดับ

และการฝึกตนของผู้อาวุโสคนนี้ นับได้ว่าเป็นอันดับสูงสุดของแคว้นหงส์แดง

เย่ยู่หยางกล่าวอย่างร้อนใจว่า “อย่างไรข้าก็เป็นเพียงคนพิการไปแล้ว อยู่ไปก็ไร้ประโยชน์ ให้ข้าเป็นคนรับโทษแทนเถิดก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป ท่านพี่ ท่านต้องมีชีวิตอยู่ต่อให้ดีนะ!”

เย่จายซิงจับมือของเขาเอาไว้แล้วบีบฝ่ามือของเขาพร้อมเอ่ยว่า “พูดเหลวไหลอะไรกัน เจ้าเป็นเพียงญาติคนเดียวของข้า ข้าไม่มีทางปล่อยให้เกิดเรื่องอะไรขึ้นกับเจ้าแน่”

นางเป็นถึงราชินีทหารรับจ้างที่ฝีมือดีที่สุดแห่งศตวรรษที่ 21 แม้ว่าจะข้ามภพมายังอีกโลกหนึ่งที่ยอดฝีมือมากมาย แต่นางก็จะไม่มีทางยอมแพ้ต่อโชคชะตาอย่างแน่นอน

เพียงแต่นางไม่อยากเรียกอสูรกายออกมาอีกแล้ว แม้ว่านางจะยังสามารถเรียกอสูรกายขั้น 5 มาได้อีก แต่นางไม่อยากให้พวกมันมีจุดจบอย่างอินทรีผู้ปีกเหล็กที่ต้องจบชีวิตอยู่ที่นี่

พลังของท่านหวงผู้นี้น่ากลัวมาก เว้นเสียแต่ว่านางจะเรียกอสูรกายขั้น 7 ออกมาตอนนี้ถึงจะพอเอาชนะได้ แต่ร่างนี้ของนางอ่อนแอเกินไป ตอนนี้นางจึงยังไม่มีพลังที่จะทำเช่นนั้นได้

การไม่ตอบโต้ไม่ใช่นิสัยของนาง นางผลักน้องชายหน้าอ่อนของนางไปอยู่ด้านหลังแล้วค่อยหันมาจ้องผู้อาวุโสชุดดำที่กำลังเดินเข้ามาช้าๆ

“คนอย่างเย่จายซิงทำทุกอย่างด้วยความถูกต้อง ไม่มีทางเป็นหัวขโมย วันนี้เจ้าพระยาเซี่ยคิดจะสังหารข้า ก็คงจะเป็นเพราะฝ่าบาทวางแผนจะเอาใจนายพลชายแดนจึงยกธิดาแห่งสงครามในอดีตอย่างข้าแต่งงานกับชายหนุ่มผู้ร่ำรวยเงินทองและมีอำนาจอย่างท่านเจ้าพระยาเซี่ย แต่เขาไม่อยากแต่งงานกับข้าก็เลยวางแผนจะสังหารข้าทิ้ง!”

“เหลวไหล!”

เจ้าพระยาเซี่ยกระทืบเท้าและรีบตะโกนตอบโต้ออกไป

เย่จายซิงไม่สนใจว่านี่จะเป็นแผนการของเจ้าพระยาเซี่ยหรือว่าเย่เจียหยู หากนางอยากมีชีวิตอยู่ต่อ นางจะต้องโยนเรื่องนี้ให้เป็นฝีมือของเจ้าพระยาเซี่ย

บิดาของนางเย่เจ๋อหยวนเป็นเทพสงครามที่มีชื่อเสียง เมื่อสามปีที่แล้วเขาต่อสู้กับมหาอสูรพิษ จึงถูกอสูรปีศาจแก่ๆ กินเข้าไปจนไม่เหลือแม้แต่ร่างให้เห็น

เขาเป็นคนที่คนในแคว้นหงส์แดงต่างนับถือ และยังเป็นผู้นำทัพให้นายพลตามชายแดนหลายหมื่นคนในอดีต

“เห๊อะ ข้าพูดไร้สาระงั้นรึ ท่านเจ้าพะยาเซี่ย ท่านกล้ายกมือสาบานหรือไม่ว่าท่านไม่ได้อยากสังหารข้าเพราะเหตุผลข้อนี้ ข้าว่าท่านคงไม่กล้าเพราะท่านคงกลัวจะถูกฟ้าผ่า ท่านจะลงมือเช่นนี้กับธิดาแห่งเทพสงคราม ท่านไม่กลัวทำให้นายพลเสียน้ำใจหรอกหรือ หรือจะบอกว่านี่เป็นพระประสงค์ของฝ่าบาทให้สังหารข้า?”

น้ำเสียงของเย่จายซิงใสและแจ่มชัด นางกล่าวแต่ละคำอย่างมีพลัง ทำเอาเจ้าพระยาเซี่ยโกรธจนหน้าแดงก่ำ

เมื่อฝูงชนได้ยินเช่นนั้นก็รู้สึกว่าคำพูดของนางสมเหตุสมผล และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือเจ้าพระยาเซี่ยไม่กล้าสาบาน จุดนี้แสดงให้เห็นว่าเขามีปัญหาบางอย่าง

สองพี่น้องเย่จายซิงเป็นบุตและธิดาของเทพแห่งสงคราม การทำกับพวกเขาเช่นนี้ถือเป็นการหักหานน้ำใจกันอย่างแท้จริง

เย่เจียหยูกำผ้าเช็ดหน้าเอาไว้แน่น ท่านหวงเกือบจะฆ่าพวกมันได้อยู่แล้ว แต่คิดไม่ถึงเลยว่าเวลานี้เย่จายซิงจะพลิกสถานการณ์กลับมาได้อีก ในเวลาเดียวกันนั้นเองนางก็เกิดความรู้สึกสังหรณ์ใจบางอย่างว่าทำไมคนขี้ขลาดและซื่อบื้ออย่างนางถึงได้พูดจาฉะฉานเช่นนี้ราวกับเปลี่ยนเป็นคนละคน

แต่นางไม่มีเวลาคิดทบทวนมากนัก วันนี้นางจะต้องทำให้พี่น้องสองคนนี้ตายอยู่ตรงนี้ให้ได้!

สายตาของนางเต็มไปด้วยความอาฆาต ทันใดนั้นเองนางจึงลุกขึ้นแล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าวอย่างไม่มีใครคาดคิดออกมาว่า

“น้องสี่ ทำไมเจ้าถึงทำผิดให้เป็นชอบเช่นนี้ ท่านเจ้าพระยาเซี่ยไม่เคยมีความคิดที่จะไม่แต่งงานกับเจ้าเลย เขาเคยบอกว่าคนที่เขานับถือมากที่สุดก็คือเทพแห่งสงครามอย่างท่านลุงที่ยอมสละชีพเพื่อแผ่นดิน หากวันหน้าเขาแต่งงานกับเจ้า เขาไม่มีทางที่จะรังเกียจที่เจ้าไม่ได้ฝึกตน แต่จะให้ความเคารพในตัวเจ้า ใครจะคิดว่าเจ้าจะใส่ร้ายท่านเจ้าพระยาแบบนี้!”

“อีกอย่างท่านเจ้าพระยาเป็นผู้บำเพ็ญเพียร จะยกมือสาบานได้อย่างไร น้องสี่พูดเช่นนี้มีแต่จะทำให้ท่านเจ้าพระยายิ่งผิดหวัง ทั้งๆ ที่เจ้านับถือท่านเจ้าพระยามากที่สุด ทำไมจะต้องใช้วิธีนี้ทำให้ท่านเจ้าพระยาโกรธด้วยเล่า”

เย่จายซิงหัวเราะ ต้องยอมรับว่าคำพูดของดอกบัวขาวอย่างเย่เจียหยูนั้นมีส่วนถูกต้อง คำพูดเพียงไม่กี่คำของนางสามารถลบล้างความคิดสกปรกของเจ้าพระยาเซี่ยได้หมดสิ้น สุดท้ายความผิดกลับมาตกอยู่ที่นางอีกครั้ง

สีหน้าของนางไม่แปรเปลี่ยน และมองไปที่เย่เจียหยูอย่างเย้ยหยัน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์ชายาหมอเทวดา