บัลลังก์ชายาหมอเทวดา นิยาย บท 404

รอยฝ่ามือของทารกขนาดเล็กใหญ่ เป็นรอยอยู่ใต้โลงศพหิน

คราบเลือดได้แห้งเหือดไปหมดแล้ว แต่ทว่าโม่เสิ่นยวนค้นพบว่า รอยมือขนาดเล็กนี้ถูกทิ้งไว้เป็นระยะเวลาที่สั้นกว่ารอยมือของผู้ใหญ่อีกด้านมากนัก เป็นไปได้ว่าจะเป็นร่องรอยที่ถูกทิ้งไว้ไม่กี่วันก่อน

“ทุกคนระวังกันสักหน่อย”

เขาลุกยืนขึ้น แล้วกล่าวเตือน

ภายในสุสานโบราณไม่สามารถที่จะมีเด็กทารกได้ นี่น่าจะเป็นของสัตว์ประหลาดบางชนิดที่มีมือเหมือนคนขนาดยาวทิ้งเอาไว้

บางทีอาจจะซ่อนตัวอยู่ในสุสานห้องนี้ก็เป็นได้

ทันทีที่สิ้นเสียงของเขา ทันใดนั้นเย่จายซิงก็รู้สึกถึงลมหนาวที่รุนแรงพุ่งตรงเข้ามากระแทกที่หน้าท้องของนาง!

นางใช้พลังทิพย์เป็นโล่ ในเวลาเดียวกันที่สกัดกั้นการโจมตีก็แทงกระบี่ออกไปอย่างดุร้าย

ในเวลาเดียวกันโม่เสิ่นยวนก็ลงมืออย่างรวดเร็ว แล้วส่งเสียงดังปังออกมา เงาดำหนึ่งถูกเขาโจมตีจนไปกระแทกกับกำแพงอย่างรุนแรง จึงทิ้งแอ่งเลือดสีดำเอาไว้

แล้วส่งเสียงร้องแหลมสูงโหยหวนขึ้นมาอย่างฉับพลัน เหมือนกับเสียงตะโกนร้องของทารกผี และโจมตีเข้าที่พลังจิตของผู้คน

เงาดำนั้นก็ปรากฏรูปร่างขึ้น ไม่คาดคิดว่าจะมีรูปร่างเป็นผู้ชายวัยกลางคนคนหนึ่ง

"อย่าฆ่าเขา! เขาคือหัวหน้าองครักษ์ตระกูลหนานกงของพวกข้า!"

จู่ๆ หนานกงจิ่นก็กล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงที่รีบร้อน

"เขามีบางอย่างไม่ปกติ คนปกติไม่สามารถที่จะส่งเสียงร้องเช่นนี้ออกมาได้ เจ้าอย่าเข้าไป"

เย่จายซิงกล่าวขึ้น

หนานกงจิ่นก็รู้ได้ว่าจะต้องมีปัญหาอย่างแน่นอน แต่ทว่าก็ไม่ง่ายเลยที่จะได้พบกับคนของตระกูลหนานกงสักคนหนึ่ง เขาอยากที่จะเข้าไปหาเขาแล้วถามว่าผู้อาวุโสอยู่ที่ไหน

โม่เสิ่นยวนขมวดคิ้วเล็กน้อย ฉับพลันนั้นก็ใช้กระบี่โจมตีอย่างไร้เหตุผลไปที่หน้าท้องขององครักษ์คนนั้นจนถูกทำลายอย่างพังพินาศ

หนานกงจิ่นร้องตะโกนออกมาอย่างไม่รู้ตัว แต่ทว่าเสียงก็กลืนลงคอไปอย่างรวดเร็ว

เพราะว่าพวกเขาเห็นว่า องครักษ์ถูกตอกไว้บนกำแพง ที่หน้าท้องก็มีลิ่มเลือดที่ส่งกลิ่นเหม็นไหลออกมา มีเด็กทารกที่หน้าตาอัปลักษณ์ชั่วร้ายคนหนึ่งคลานออกมาจากกลางท้อง

คนเหล่านั้นทั้งขยะแขยงทั้งรู้สึกว่าโหดร้าย

แน่นอนว่าองครักษ์ได้ตายไปนานแล้ว เป็นปรสิตปีศาจที่เกิดอยู่ในร่างกายของเขาเช่นนั้น

"เสด็จอา นี่คือตัวอะไรกันแน่?"

น่าขยะแขยงเกินไปแล้ว

เย่จายซิงมีความรู้สึกที่อยากจะอาเจียน กลิ่นเหม็นของซากศพผสมเข้ากับกลิ่นเหม็นฉุนบนร่างกายของปีศาจน้อยตัวนี้ ทั่วทั้งห้องในสุสานเต็มไปด้วยกลิ่นเหม็นลอยไปทั่ว

"คือเด็กผีสามมือ เกิดขึ้นเพราะวิญญาณชั่วร้ายที่ถูกกักขังไว้มากมาย แล้วมากัดกินหัวใจของผู้คน"

โม่เสิ่นยวนหยิบผ้าคลุมหน้าของสตรีผืนหนึ่งมาคลุมไว้ที่ใบหน้าของนาง แล้วกระซิบพูดอย่างแผ่วเบา

เพียงแต่เขาไม่ได้พูดก็คือ เด็กผีสามมือเป็นผลิตผลประเภทที่ชั่วร้ายที่สุด มีเพียงภายในสุสานที่ชั่วร้ายที่สุดถึงจะสามารถเกิดขึ้นมาได้

เด็กผีสามมือส่งเสียงร้องแหลมสูงออกมา ดวงตาสีดำมืดไม่มีตาขาว เมื่อถูกมันจ้องมองต่างก็รู้สึกหวาดกลัว

"น้องซิง ใช้เพลิงพิลึกของเจ้าเผามันให้ตาย"

“ได้!”

นางรีบร้อนใช้เพลิงพิลึกขนาดใหญ่ผุดขึ้นมาห่อหุ้มเด็กผีเอาไว้ เพลิงพิลึกของนางมีแปดขั้นแล้ว แม้แต่ผู้บำเพ็ญเพียรที่แข็งแกร่งก็สามารถถูกเพลิงพิลึกของนางเผาจนกลายเป็นเถ้าถ่านได้เช่นกัน

อย่างไรก็ตามใช้เวลาเผาอยู่นาน เด็กผีสามมือถึงจะเริ่มการถูกเผาไหม้ เสียงร้องแหลมสูงรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ

จนกระทั่งสุดท้าย เย่จายซิงก็ได้เห็นภาพเลือนรางของวิญญาณมากมายที่ลอยออกมาอยู่บนเปลวไฟ ราวกับรับรู้ได้ว่ามองมาที่นางอย่างซาบซึ้ง หลังจากนั้นก็เป็นเมฆหมอกกระจายหายไป

ภายใต้เปลวไฟ ทุกสิ่งเผาไหม้วายวอดไปจนหมด แม้แต่กองขี้เถ้าก็ไม่หลงเหลืออยู่

เย่จายซิงถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่

วิญญาณเมื่อครู่นี้เหล่านั้น ก็ไม่แน่ว่าจะเป็นวิญญาณร้ายทั้งหมด เพียงแต่ว่าหลับใหลอยู่สถานที่แห่งนี้มาเป็นเวลานานปีจนนับไม่ถ้วน จนสุดท้ายก็ได้กลายมาเป็นผีเด็ก ไม่มีทางไปเกิดใหม่ได้ชั่วนิรันดร

โม่เสิ่นยวนกุมมือของนางเอาไว้แน่น แล้วมอบพลังให้แก่นาง ราวกับว่ากำลังปลอบโยนนางอยู่ ทำให้นางไม่ต้องกลัว

นางก็กุมมือของเสด็จอาเอาไว้แน่นเช่นกัน แต่ก็ถามขึ้นมาอย่างสงสัย

"น่าแปลกยิ่งนัก ภายในนี้ไม่มีสถานที่ที่จะสามารถซ้อนตัวอยู่ได้ เด็กผีเมื่อครู่ปรากฏออกมาจากที่ใดกันแน่?"

เด็กผีสามารถอำพรางตัวได้ แต่ทว่าซากศพขององครักษ์ผู้นั้นยากที่จะซ่อนเอาไว้ได้

"โลงศพ"

โม่เสิ่นยวนกล่าวขึ้น แล้วยื่นมือออกไป กระบี่บนกำแพงก็บินไป พุ่งเข้าไปโจมตีเข้ากับโลงศพหิน

โลงศพหินแตกเป็นเสี่ยงๆ อย่างรวดเร็ว ทางเข้าแคบๆ ทางหนึ่งถูกเผยขึ้นที่จุดใต้สุดนั้น เพียงพอที่จะให้คนหนึ่งลอดผ่านไปได้พอดี

“ข้าลงไปดูก่อนแล้วกัน”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์ชายาหมอเทวดา