ความผิดหวังของหงเย่ปรากฏให้เห็นเพียงครู่เดียว แล้วจึงเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มอ่อนโยนขึ้นมาอีกครั้ง แต่รอยยิ้มครั้งนี้ สามารถมองเห็นความเย็นชาที่แฝงอยู่ในก้นบึ้งดวงตาของเขาได้ด้วย "ดี ดีแล้วล่ะ"
หยวนชิงหลิงถอนหายใจเฮือก ครั้งต่อไปที่มา อย่างไรก็ต้องมากับเจ้าห้าถึงจะดีที่สุด
นางคิดหนักว่า ครั้งนี้จะบอกเรื่องที่เกิดขึ้นกับเจ้าห้าดีหรือไม่ ถ้านางบอก เขาจะต้องเอาชีวิตเข้าแลกเพื่อตามคิดบัญชีกับอะโฉ่วแน่ แต่ถ้านางไม่บอก แต่ไหนแต่ไรมาความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาล้วนเปิดเผยจริงใจ ไม่เคยมีความลับต่อกัน ดังนั้นจึงไม่อาจทำเรื่องที่อาจกลายเป็นเยี่ยงอย่างเช่นนี้ขึ้นมาได้
อะซี่ก้าวขึ้นมาข้างหน้าเพื่อห่มผ้าห่มให้นาง รู้สึกหวั่น ๆ ในใจไม่หาย "มาที่นี่ตอนกลางดึกไม่พอ ยังมาพูดจาไม่ถูกทำนองคลองธรรมไม่อายฟ้าดินได้หน้าตาเฉย พี่หยวน พรุ่งนี้เช้าพวกเรารีบกลับกันเลยเถอะ น่ากลัวเกินไปแล้ว"
อะซี่รู้ว่าถ้าหงเย่เกิดเล่นลูกไม้อะไรขึ้นมา ตัวเองย่อมไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาอย่างแน่นอน ดังนั้นจึงเป็นการดีกว่าถ้าจะยั่วยุเขาให้มันน้อย ๆ หน่อย
“ได้ พรุ่งนี้พวกเรากลับกันเลย” หยวนชิงหลิงก็กลัวความคลุมเครือไม่ชัดเจนนี้ ระหว่างการเดินทางครั้งนี้ หงเย่ทำตัวแปลกประหลาดเกินไปจริง ๆ ดูพยายามเอาอกเอาใจจนผิดปกติ ทั้งยังลมพัดลมเพเอาแน่เอานอนไม่ได้ ราวกับว่าอยู่ ๆ นิสัยของเขาถูกฉีกออกเป็นจนเป็นโพรงไปทั่วอะไรแบบนั้น
ในวันรุ่งขึ้นท้องฟ้าเพิ่งเริ่มสว่าง อะซี่ก็เข้ามามาเก็บกวาดข้าวของ พูดว่า "รถม้าถูกขับออกมาเตรียมไว้แล้ว ท่านเดินไหวหรือไม่? ถ้าเดินไม่ไหวข้าแบกท่านลงไปก็ได้นะ"
หยวนชิงหลิงพยายามจะลงไปที่พื้น ใช้ไม้ค้ำของหงเย่พยุงเดินไปได้หลายก้าว ก็พูดว่า: "ไม่ต้องแบกข้าหรอก ตอนข้าลงไปข้างล่างเจ้าแค่ช่วยพยุงข้าก็พอ"
วันนี้เท้าของนางบวมขึ้นมาแล้ว บวมขึ้นกว่าเมื่อวานไม่น้อย ทั้งยังเจ็บมากขึ้นด้วย นางต้องกลับไปดู ๆ หน่อยว่า พอจะใส่เฝือกแข็งหรือพอจะดามขาได้หรือไม่ ไม่อย่างนั้น มันคงจะไม่เอื้อต่อการฟื้นตัวเท่าไหร่แน่ ๆ
หลังจากลงบันไดไปอย่างยากลำบาก จนมาถึงโถงหน้าระหว่างรออะซี่จ่ายเงิน หยวนชิงหลิงกับซาลาเปาก็มานั่งรอที่เก้าอี้ ซาลาเปายังมีท่าทีง่วงงุนสะลึมสะลือ มีหมาป่าหิมะนอนหมอบอยู่ที่ปลายเท้าของเขา ดูสะลึมสะลือไม่ต่างกันเท่าไหร่นัก
หงเย่กับอะโฉ่วก็ลงมาด้วยเช่นกัน หยวนชิงหลิงมองไป ก็เห็นว่าอะโฉ่วเดินขากะเผลก ๆ ไปข้างหนึ่ง แล้วใช้สายตาที่มาดร้ายไม่ต่างจากอสรพิษมองมาที่นางอย่างเคียดแค้นชิงชัง เหมือนแทบจะอดใจไม่ไหว อยากจะฆ่านางให้ตายไปให้พ้น ๆ อยู่ตลอดเวลา เป็นสายตาที่ทำให้หัวใจของหยวนชิงหลิงสั่นสะท้านไม่หยุด
หงเย่เดินเข้ามา พูดอย่างราบเรียบว่า: "ข้าล้างแค้นให้เจ้าแล้วนะ"
หยวนชิงหลิงไม่รู้จะพูดอะไรดี จึงทำได้เพียงแค่พยักหน้าเล็กน้อย อันที่จริง นางรู้สึกว่าสิ่งที่เขาพูดนั้นไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง ทำอะไรลงไปก็เงียบ ๆ ไว้ไม่ได้หรืออย่างไรกัน? ทำไมกลับต้องมาพูดต่อหน้าอะโฉ่วแบบนี้ด้วย? นี่ไม่เท่ากับว่ายิ่งไปเพิ่มความเคียดแค้นชิงชังให้นางหรอกรึ?
คนที่เก่งกาจในการวางแผน จำเป็นต้องเก่งกาจในการไตร่ตรองจิตใจคนด้วย ถ้าเขาไม่ได้ตั้งใจจริง ๆ ก็หมายความว่า เขาคิดว่าตัวเองสามารถควบคุมอะโฉ่วได้อย่างสมบูรณ์แบบ
แต่อย่างไรก็ตาม ผู้หญิงเป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่อาจควบคุมได้ ไม่แน่ว่าหงเย่อาจไม่รู้ในจุดนี้
ในใจของหยวนชิงหลิงรู้สึกซับซ้อนมาก คิดแค่อยากจะไปจากที่นี่ให้เร็วขึ้นอีกหน่อย
“ระหว่างทาง พวกเจ้าก็ระวังตัวกันหน่อยล่ะ ข้าคงไม่ได้ไปส่งพวกเจ้ากลับเมืองหลวงนะ ” หงเย่พูดต่อ
“ลุงหงเย่ เจ้าจะไปไหนรึ?” ในเวลานี้ซาลาเปายังไม่รู้ว่าหยวนชิงหลิงตั้งป้อมระวังหงเย่อยู่ เขาคิดแค่ว่าได้เดินทางต่อมันสนุกดี อันที่จริง เขาไม่ค่อยเต็มใจจะกลับไปเมืองหลวงเท่าไหร่นัก ไม่ง่ายเลยกว่าจะได้ออกมาข้างนอกสักครั้ง
หงเย่หันกลับไปมองซาลาเปา แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า: "ไปทะเลสาบจิ้ง"
“ข้าก็อยากไปเหมือนกัน” ซาลาเปากระโดดแผล็ว “เดิมทีพวกเราก็กำลังจะไปทะเลสาบจิ้งล่ะ”
หงเย่อุ้มเขาขึ้นมาด้วยมือข้างหนึ่ง "ได้ ถ้าอย่างนั้นข้าจะพาเจ้าไปที่นั่นเอง"
หยวนชิงหลิงรีบพูดขึ้นทันทีว่า: “ไปไม่ได้ กลับเมืองหลวง”
ซาลาเปาพูดอย่างน้อยเนื้อต่ำใจ: “ทำไมถึงไปไม่ได้ล่ะ ลุงหงเย่จะส่งข้ากลับไปเองแหล่ะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน
สองขาของหยู่เหวินเห้าก็คดงอคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิดว่า “ลูกยินดียอมรับโทษทัณฑ์ที่เหลือของเสด็จพ่อ ชอบข้อความบทนี้ตลกดีคะพระเอก ตอน 394...
1...
1...
เพิ่งอ่านได้ 2ร้อยกว่าหน้า สนุกน่าติดตามมาก แต่ทั้งเรื่องมี2พันกว่าหน้า ทำไงจะอ่านจบ...
ขอบคุณผู้แต่ง และ novelones มากๆค่ะ ดีที่สุด อ่านรอบที่ 4 แล้วก็ยังสนุกครบรส ❤️...
เรื่องนี้ถือว่าสมบูรณ์มากสนุกต้นถึงจบ อยากให้เป็นซีรี่ย์...
สนุก ตลกดี เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่คำผิดเยอะไปหน่อยค่ะ...