บัลลังก์หมอยาเซียน นิยาย บท 1117

ลูกธนูเคลือบด้วยน้ำมันก๊าด ธนูไฟที่หยู่เหวินเห้าสกัดไว้ไม่ทันตกลงบนเรือ เปลวไฟลุกไหม้อย่างรวดเร็ว

ภรรยาเจ้าของเรือกรีดร้องเสียงดังลั่น “เรือของข้า! เรือของข้า!”

นางทำท่าจะกระโจนออกไป หยวนชิงหลิงรีบคว้าตัวนางไว้แล้วพูดอย่างร้อนใจว่า: "เจ้าอย่าออกไป มันอันตราย!"

ภรรยาเจ้าของเรือถูกหยวนชิงหลิงดึงไว้ ทำได้แค่เบิกตามองลูกธนูไฟดอกแล้วดอกเล่า ลอยมาตกลงบนเรือที่นางใช้ทำมาหาเลี้ยงชีพ ในใจทุกข์ทรมานอย่างสุดจะพรรณนา นางผลักหยวนชิงหลิงออกไปอย่างโกรธแค้น จากนั้นก็โถมตัวเข้าไปทุบตีไม่ยั้ง ด่าทอสาปแช่งดังลั่น: “ทั้งหมดเป็นเพราะเจ้า พวกเจ้ามันตัวซวย รีบไปเลยนะ ถ้าพวกเจ้าไปให้พ้น ๆ พวกนั้นก็คงจะปล่อยพวกเราไปแน่”

มือของนางแรงเยอะมาก นางตบหน้าหยวนชิงหลิงฝ่ามือแล้วฝ่ามือเล่า หยวนชิงหลิงหลบไม่พ้นจริง ๆ จึงทำได้แค่ใช้มือข้างหนึ่งผลักนางออกไป

ภรรยาเจ้าของเรือล้มลงกับพื้น ส่งเสียงร้องไห้คร่ำครวญดังลั่น

เมื่อเจ้าของเรือเห็นว่าภรรยาถูกหยวนชิงหลิงผลักจนล้มลงไปกับพื้น ชั่วขณะนั้นก็โกรธจัด จึงยกไม้พายขึ้นฟาดเข้าใส่ เดิมทีห้องโดยสารนั้นก็เล็กอยู่แล้ว ไม้พายมีขนาดยาวและใหญ่มาก เมื่อเขาฟาดลงมา หยวนชิงหลิงก็ไม่มีที่ให้หลบซ่อน จึงถูกเขาตีเข้าที่หัว ชั่วพริบตานั้นโลกก็หมุนติ้ว ตรงหน้าพลันเปลี่ยนเป็นดำมืดสนิท

เจ้าของเรือด้วยความที่กำลังโกรธ พอตีนางไปทีหนึ่ง ก็กระชับไม้ในมือพยายามจะตีนางอีกครั้ง หยวนชิงหลิงกลัวว่าเจ้าห้าจะเสียสมาธิ จึงไม่มัวสนใจแล้วว่าจะทำให้ครอบครัวเจ้าของเรือขุ่นเคืองใจ มือหนึ่งคว้าจับไม้พายในมือเจ้าของเรือไว้ อันที่จริงนางไม่มีพลังภายใน แต่ภายใต้สถานการณ์คับขัน กลับมีพลังอันแข็งแกร่งผุดออกมาไม่น้อยถึงขั้นลากตัวเจ้าของเรือจนล้มลงไปกับพื้นได้ตรง ๆ เลยทีเดียว

ภรรยาเจ้าของเรือเพิ่งจะยืนได้อย่างมั่นคง เมื่อเห็นผู้ชายของตัวเองล้มลงไป จึงคิดว่าถูกลูกธนูยิงโดน นางกรีดร้องแล้ววิ่งถลาออกไปทันที

หยวนชิงหลิงหันหน้าไปเห็นธนูลอยเข้ามาหา จึงตกใจมาก รีบกระโจนเข้าไปผลักภรรยาเจ้าของเรือจนล้มลงไปกับพื้น เพื่อหลบให้พ้นลูกธนู

แต่ภรรยาเจ้าของเรือกลับหันมายกขาข้างหนึ่งขึ้น แล้วถีบนางออกไปเต็มแรง พยายามคลานจนสุดชีวิตไปทางเจ้าของเรือ ยืนขึ้นอย่างโซซัดโซเซ หยวนชิงหลิงมองดูลูกธนูที่ถูกยิงมาไม่หยุด ในใจตื่นตระหนกจนไม่มีเวลาให้กรีดร้อง ทันใดนั้นลูกธนูดอกหนึ่งก็พุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว ตรงเข้าแทงทะลุท่อนแขนของภรรยาเจ้าของเรือ ปักติดอย่างแน่นหนา

ภรรยาเจ้าของเรือล้มลงกับพื้น เจ้าของเรือร้องตะโกนอย่างบ้าคลั่ง ยกไม้พายขึ้นฟาดลูกธนูที่ลอยมาใจคิดอยากเข้าไปช่วยพยุงนางให้ลุกขึ้น

แต่หยวนชิงหลิงไปลากภรรยาเจ้าของของเรือกลับเข้าไปในห้องโดยสารแล้ว เพิ่งจะหยิบกล่องยาออกมา กลับพบว่าหลังคาเรือถูกไฟไหม้ เปลวไฟก็เริ่มลุกลามอย่างรวดเร็ว

นางไม่มีเวลาสนใจอะไรมากนัก เอาผ้าพันแผลออกมาเป็นอันดับแรก แล้วพันไว้ที่แผลเหนือลูกธนูเพื่อหยุดเลือดที่กำลังไหล

เจ้าของเรือก็วิ่งเข้ามาด้วย ปากก็ส่งเสียงแผดร้องตะโกนอย่างคลุ้มคลั่ง ใช้มือตัวเองทุบตีหยวนชิงหลิงอย่างรุนแรงกราดเกรี้ยว มือของผู้ชายที่ทำมาหากินอยู่กับสายน้ำมานาน ทุบตีใส่นางไม่ยั้ง หยวนชิงหลิงรู้สึกว่าที่จมูกกับปากแตกมีเลือดไหลแล้ว แทบจะไม่สามารถทรงตัวได้ไหว

นางร้องบอกให้เขาหยุด แต่เจ้าของเรือเห็นภรรยามีเลือดไหลอาบเต็มตัว จึงตกใจมากจนคุมสติไม่อยู่ รู้แค่ว่าเป็นเพราะหยวนชิงหลิง จึงเอาแต่ทุบตีนางอย่างสะเปะสะปะ

ในระหว่างที่เจ้าห้าต่อสู้พัวพัน หันกลับมาเห็น ชั่วขณะนั้นก็โกรธจัด รีบพุ่งเข้ามาเตะเจ้าของเรือออกไป โอบตัวหยวนชิงหลิงมาดู เห็นว่าจมูกกับปากของนางเต็มไปด้วยเลือด ตัวคนก็ดูสับสนมึนงง ดวงตาจึงแดงก่ำด้วยความโกรธแค้น แทบยั้งตัวเองไม่หยุดเกือบจะพลั้งมือฆ่าเจ้าของเรือตรงนั้นแล้ว

เจ้าของเรือถูกหยู่เหวินเห้าเตะไปทีหนึ่ง ก็เริ่มมีสติมากขึ้นมาหน่อย เมื่อเห็นว่าภรรยายังเคลื่อนไหวได้ ทั้งส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวด จึงรู้ว่าภรรยายังไม่ตาย ก็ร้องไห้พลางคลานกลับมาหา

ในเวลานี้ องครักษ์ลับผีได้เข้าควบคุมสถานการณ์แล้ว ธนูไฟก็หยุดยิงมาแล้ว แม้ว่าเสียงของการต่อสู้จะยังดำเนินต่อไป แต่มันก็ไม่ได้คุกคามพวกเขาในเวลานี้อีก

ผู้ช่วยคนนั้นก็คืนสติแล้วเช่นกัน เมื่อเห็นว่าไม่มีการคุกคามจากธนูไฟ เขาก็รีบตักน้ำมาดับไฟ จ้วงน้ำในทะเลสาบมาสาดลงบนห้องโดยสาร ไฟก็ดับลง มีเพียงกลุ่มควันหนาทึบลอยออกมา

“หยวน! หยวน!” หยู่เหวินเห้ากอดนางที่มีสภาพเหมือนคนไม่มีสติไปชั่วขณะ ตะโกนเรียกอย่างกังวลจนคิ้วขมวดมุ่น

หยวนชิงหลิงเริ่มมีสติขึ้นบ้างแล้ว จับมือเขา แล้วพยายามเงยหน้าขึ้น "เจ้าห้า เจ้าไม่เป็นไรใช่หรือไม่?"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน