บัลลังก์หมอยาเซียน นิยาย บท 1200

องค์หญิงฮุ่ยผิงโมโหมาก ดวงตาหรี่ยาวยิ่งดูโหดร้ายมากขึ้น และไม่สนใจอะซี่ มองไปทางหยวนชิงหลิงและพูดว่า “ข้ามาหาเจ้า เพราะมีเรื่องอยากจะคุยกับเจ้า เจ้าให้คนที่ไม่เกี่ยวข้องออกไปให้หมด”

“ในจวนอ๋องฉู่ไม่มีคนที่เกี่ยวข้อง ”หยวนชิงหลิงเอ่ยด้วยสีหน้าเย็นชา

องค์หญิงฮุ่ยผิงเชิดหน้าขึ้น หัวเราะเสียงเย็น “ได้ ในเมื่อเป็นที่ที่ไร้กฎระเบียบ เช่นนั้นข้าก็ขอพูดตรงๆแล้วกัน รัชทายาทจะสร้างโรงหมอหุ้ยหมิงเพิ่ม เป็นความคิดของเจ้าหรือไม่”

“เรื่องในราชสำนัก ข้าไม่เคยถาม”หยวนชิงหลิงพูด

องค์หญิงฮุ่ยผิงพูดเสียงเย็นว่า “อย่าคิดจะไม่ยอมรับเลย ใครๆต่างก็รู้ว่าเจ้าเปิดโรงเรียนอะไร เจ้ารู้หรือไม่ว่าเจ้าได้หาเรื่องที่เป็นภัยอย่างใหญ่หลวงแล้ว ใช้เวลาแค่สองสามปีก็สามารถสร้างหมอได้คนหนึ่งแล้วหรือ มีหมอคนไหนในเป่ยถังบ้างที่ไม่ติดตามรับใช้อย่างตั้งใจอยู่ข้างกายอาจารย์ตั้งแต่เด็ก ถ้าไม่ใช้เวลาเป็นสิบปีแปดปี ไหนเลยจะสามารถเรียนสำเร็จได้ หมอที่ออกมาจากโรงเรียนของเจ้า เป็นไม่ได้แต่หมอที่ฝีมือด้อยด้วยซ้ำไป ถ้าหากรักษาคนจนตายเจ้าจะรับผิดชอบหรือ”

หยวนชิงหลิงรู้ว่าที่นี่ใช้การคำนับอาจารย์เพื่อเรียนหมอ ติดตามอยู่ข้างกายอาจารย์ตั้งแต่อายุยังน้อย ใช้เวลาหลายปีในการเก็บยาสมุนไพรบดยาตากยา ใช้เวลาหลายปีในการหยิบจับยาชั่งตวงยากลั่นยา นอกจากเรื่องพวกนี้ ยังต้องคอยปรนนิบัติรับใช้ทุกอย่างในบ้านของอาจารย์ รอให้อายุพอสมควรแล้ว จึงเริ่มทำการสอนเรื่องการแพทย์

แต่นักเรียนในโรงเรียนนั้น ในช่วงเวลาสามปี ไม่จำเป็นต้องเรียนรู้เรื่องอื่น และไม่จำเป็นต้องทำเรื่องอื่น มีเพียงเรื่องเดียวที่ต้องทำก็คือการเรียนเท่านั้น และตอนนี้คุณย่าได้เปิดรักษาคนไข้ ลูกศิษย์ในโรงเรียนจะหมุนเวียนสับเปลี่ยนกันเพื่อติดตามและศึกษาอยู่ข้างๆ แยกแยะอาการ เพิ่มประสบการณ์ในการวินิจฉัยและรักษา นางมั่นใจว่า นักเรียนของนาง เมื่อเทียบกับหมอที่เพิ่งจบจากอาจารย์เหล่านั้น ห่างกันไม่มากนัก

ฉะนั้น หลังจากได้ยินคำพูดขององค์หญิงฮุ่ยผิงแล้ว “เรื่องเหล่านี้ไม่ใช่สิ่งที่องค์หญิงควรจะเป็นกังวล เพิ่มโรงหมอหุ้ยหมิงเพื่อการรักษา เป็นเรื่องดีที่มีประโยชน์ต่อทั้งประเทศและประชาชน และเป็นเรื่องการเมือง ไม่ว่าท่านหรือข้าก็ก้าวก่ายไม่ได้”

รู้ถึงเจตนาที่มาแล้ว ก็คร้านจะทำพอให้เป็นพิธี นางยืนขึ้น “ส่งแขก”

“หยวนชิงหลิง เจ้าถึงกับกล้าไม่เห็นข้าอยู่ในสายตาอย่างนั้นหรือ”องค์หญิงฮุ่ยผิงโมโหมาก คิดไม่ถึงเลยว่าหยวนชิงหลิงจะไม่ให้หน้านางเลยสักนิด ยังอวดดีต่อหน้านางถึงขั้นนี้

หยวนชิงหลิงแววตาขึงขังจริงจัง ทันใดนั้นก็เกิดความน่าเกรงขามของการเป็นพระชายารัชทายาทขึ้นมา “องค์หญิง ถ้าหากท่านมาพูดจากับข้าดีๆ ข้าสามารถแจกแจงอธิบายให้ท่านฟังได้ แต่ท่านมาถึงก็วางมาดข่มขู่ ตีบ่าวรับใช้ในจวนข้า คนในจวนข้าถึงแม้จะทำผิด ก็มีข้าเป็นผู้ดูแลสั่งสอน ไม่ต้องให้ถึงมือคนนอกมาคอยชี้นิ้วสั่งการ เห็นแก่ท่านที่เป็นผู้อาวุโส ข้าไม่ถือสาท่าน แต่ไม่มีครั้งหน้าแน่นอน เชิญ ไม่ส่งแล้ว”

หยวนชิงหลิงพูดจบ หมุนตัวเดินออกจากประตูไปทันที

ได้ยินเสียงขององค์หญิงที่ฮุ่ยผิงเอ็ดตะโรจากไกลๆ บอกว่าจะรอให้หยู่เหวินเห้ากลับมาและถามเขา ว่ารู้เห็นเป็นใจที่ภรรยาไม่เห็นผู้อาวุโสอยู่ในสายตาหรือไม่

อะซี่เดินตามนางออกไป ได้ยินแล้วก็เข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน“มากเกินไปแล้ว ทำไมจึงได้อวดดีถึงเพียงนี้ อยากจะเอาไม้เท้าฟาดนางจริงๆ ”

หยวนชิงหลิงหัวเราะออกมา “อะซี่ เจ้ามีสิทธิ์ใช้ไม้เท้าที่ไหนกัน ไม่ต้องสนใจนาง วันหน้าถ้านางมาอีก ก็ให้อยู่ข้างนอก ไม่ให้เข้าจวนก็พอ”

อะซี่บอกว่า “ใช่ ไม่ให้นางมา ดูสิว่านางจะไปอวดดีถึงที่ไหน”

เข้าไปในเรือนด้านข้าง ฉี่หลอไม่ร้องไห้แล้ว แม่นมฉีได้ช่วยนางทำแผลน้ำร้อนลวกเสร็จแล้ว ดีที่จัดการได้ทันเวลา ไม่น่าจะเกิดเป็นตุ่มน้ำขึ้นมา

หยวนชิงหลิงมองดวงตาที่แดงก่ำของฉี่หลอ พูดว่า “ลำบากเจ้าแล้ว”

“ข้าน้อยไม่เป็นไร ”ฉี่หลอส่ายหน้า หลายปีที่อยู่ในจวน พระชายารัชทายาทมีเมตตา ปฏิบัติต่อบ่าวรับใช้อย่างดี เป็นเวลานานแล้วที่ไม่เคยต้องได้รับความลำบากเช่นนี้ จึงรู้สึกน้อยใจขึ้นมาในชั่วขณะเท่านั้น

อะซี่เอ่ยว่า “พี่หยวนได้ช่วยเจ้าออกหน้าแล้ว ไล่นางออกไปด้วย”

แม่นมฉีได้ยินคำพูดนี้ ก็เอ่ยอย่างเป็นกังวลว่า “แต่ไม่ว่าอย่างไรองค์หญิงฮุ่ยผิงก็เป็นลูกสาวของไท่ซ่างหวง ทำกับนางเช่นนี้ ไท่ซ่างหวงจะไม่พอใจหรือไม่ นางจะเข้าวังไปฟ้องหรือไม่”

ฉี่หลอสีหน้าซีดลงอย่างฉับพลัน “แล้ว แล้วจะทำอย่างไรดี ให้ข้าน้อยตามไปขอโทษนางดีหรือไม่”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน