บัลลังก์หมอยาเซียน นิยาย บท 130

อ๋องหวยยังไม่ตื่น หยวนชิงหลิงถามคนรับใช้ที่อยู่ดูแลอ๋องหวยเมื่อคืนนี้ที่ด้านนอก คนรับใช้บอกว่าเมื่อคืนเขายังมีอาการไอเป็นเลือดอยู่บ้าง แต่เห็นได้ชัดว่าไอน้อยลงกว่าเมื่อก่อนมากจริงๆ

แม่นมสี่มารายงานเรื่องการกินยา หลังอาหารเย็นกินไปหนึ่งมื้อ ตื่นมาไอเป็นเลือดเมื่อกลางดึกก็กินอีกมื้อ แต่เช้าวันนี้ยังไม่ได้กิน

หยวนชิงหลิงพยักหน้า "ลำบากแม่นมสี่แล้ว ไปนอนสักครู่เถอะ กลางวันข้าคอยดูแลให้เองก็ได้"

แม่นมสี่ส่ายหน้าแล้วพูดว่า "ไม่ต้องหรอกเพคะ เมื่อคืนข้าน้อยก็ได้นอนหลับไปบ้างเหมือนกัน แต่ข้าน้อยลุกไปป้อนยาเมื่อกลางดึก ส่วนเวลาที่เหลือ ล้วนเป็นคนรับใช้พิเศษที่หลู่เฟยส่งมาให้ จึงไม่ต้องให้ข้าน้อยปรนนิบัติเพคะ"

"ดี หลู่เฟยประทับอยู่ที่ไหนรึ?" หยวนชิงหลิงถาม

"นอนหลับไปแล้วเพคะ เมื่อคืนนางคอยดูแลอยู่ที่นี่ทั้งคืน"

หยวนชิงหลิงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย วันนี้หลู่เฟยไม่ค่อยมาจับตาดูนางแล้วรึ

แม้ว่าเมื่อวานนี้ หลู่เฟยจะแสดงความเอาแต่ใจไปบ้าง แต่หยวนชิงหลิงก็รู้ดีว่านางไม่ได้รู้สึกไว้วางใจต่อตนเองอย่างสมบูรณ์

คิดๆ ดูแล้ว น่าจะเป็นเพราะว่าเมื่อคืนอาการของอ๋องหวยเริ่มดีขึ้น นางจึงเริ่มเปลี่ยนความอคติที่มีลงไปได้บ้าง

อ๋องหวยยังไม่ตื่น แต่เพราะได้ยินเสียงพูดเบาๆ ของหยวนชิงหลิงที่กำลังคุยกับแม่นมสี่อยู่ข้างนอก เขาก็ตื่นขึ้นมาไอสองครั้ง คนรับใช้จึงรีบเข้าไปดูแลเขา

ทั้งช่วยปรนนิบัติให้ล้างหน้า บ้วนปาก หวีผม และยกโจ๊กมาให้ คนรับใช้ของเขาดูแลได้ดีไม่มีขาดตกบกพร่องจริงๆ

หยู่เหวินหลิงเดินเข้าไปพร้อมใส่หน้ากากป้องกัน "พี่หก พี่สะใภ้ห้ามาแล้ว รออยู่ด้านนอกนี้เอง"

อ๋องหวยยิ้มพลางหันไปมองหยู่เหวินหลิง "เข้าใจแล้ว แม่ตัวดี ทำไมวันนี้เจ้ามาเช้านักล่ะ"

"ข้ามาอยู่ในจวนนี้มาหลายวันแล้ว ท่านไม่รู้เลยรึ" หยู่เหวินหลิงขมวดคิ้ว

"หรือ" อ๋องหวยตกใจ หันไปมองนางด้วยรอยยิ้มเก้อเขิน "เจ้าไม่กลัวท่านแม่เสียนตำหนิเจ้าหรอกหรือ?"

"ท่านแม่ก็ชอบเป็นกระต่ายตื่นตูมเช่นนั้นเอง ข้าถามเสด็จพ่อแล้ว ท่านก็ทรงอนุญาต" นางนั่งลงแล้วหันไปพูดกับคนรับใช้ว่า "ไปเชิญพระชายาฉู่มาเถอะ"

คนรับใช้รับคำสั่งออกมาเชิญคน

หยู่เหวินหลิงแลบลิ้นออกมา แต่นึกขึ้นได้ว่าตัวเองสวมหน้ากากอยู่ ลิ้นจึงไปติดอยู่ที่หน้ากาก "ข้าอยากดูพี่สะใภ้ห้ารักษาท่านที่นี่ได้หรือไม่?"

"รักษาโรคมีอะไรน่าดูกัน ห้ามดูๆ ออกไปซะ" อ๋องหวยมองน้องสาวด้วยความเอ็นดู

"ท่านไม่ต้องห่วงหรอกน่า พี่สะใภ้ห้าบอกแล้วว่า ถ้าเราสวมหน้ากากนี้ ก็จะไม่ติดเชื้อง่ายๆ" หยู่เหวินหลิงพูดอย่างดื้อรั้น

อ๋องหวยรู้ดีว่าเขาไม่สามารถต่อต้านน้องสาวคนนี้ได้ จึงตัดสินใจหยุดพูด พอเงยหน้าขึ้นก็เห็นหยวนชิงหลิงเข้ามาพร้อมกับแม่นมสี่พอดี

แต่กลับไม่เห็นพี่ห้ามาด้วย

วันนี้ตอนที่หยวนชิงหลิงออกไป ก็ได้นำกล่องยาออกมาแล้วถือมันไว้กับตัวตลอด เมื่อเดินเข้าห้องไปแล้วเห็นว่า อ๋องหวยเอาแต่มองไปด้านหลังนางไม่วางตา ก็รู้ว่าเขากำลังมองหาหยู่เหวินเห้า จึงพูดว่า "ท่านอ๋องอย่าดูอีกเลยเพคะ พี่ห้าของเจ้าไม่ได้มาด้วยหรอก ได้ยินว่าเกิดคดีอุกฉกรรจ์ในเมืองหลวง เขาจึงไปสอบสวนคดีนี้แล้ว"

นี่คือสิ่งที่กู้ซือเล่าให้นางฟังเมื่อครู่นี้ ตอนที่กำลังเดินทางมาที่นี่

จากนั้นจู่ๆ นางก็พบว่าจริงๆ แล้วนางรู้เรื่องราวเกี่ยวกับงานของหยู่เหวินเห้าเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ทั้งยังใส่ใจกับมันน้อยมาก

อ๋องหวยได้ยินว่าเกิดคดีอุกฉกรรจ์ในเมืองหลวงจึงพูดว่า "ช่วงนี้พี่ห้าคงต้องยุ่งมากเป็นแน่"

"ใช่เพคะ รอเขาจัดการธุระเสร็จแล้ว เขาจะต้องมาหาท่านอ๋องเป็นแน่" หยวนชิงหลิงพูดปลอบใจ

นางเปิดกล่องยา หยิบหูฟังออกมาแล้วพูดกับคนรับใช้ว่า "มาช่วยเปิดเสื้อของท่านอ๋องขึ้นให้ข้าหน่อย ข้าจะฟังเสียงหัวใจกับปอดสักครู่"

คนรับใช้หนุ่มคนนี้เคยได้พบกับนางมาแล้วเมื่อวาน ดังนั้นวันนี้เขาจึงถอดเสื้อออกได้อย่างชำนาญขึ้น เปิดเผยตำแหน่งบริเวณหัวใจ หลังจากที่หยวนชิงหลิงฟังแล้ว เขาก็ช่วยพลิกตัวอ๋องหวยให้หันหลัง เพื่อให้นางสามารถฟังเสียงปอดของเขาได้

หลังจากฟังเสร็จเรียบร้อยแล้ว หยวนชิงหลิงก็พูดว่า "เสียงรบกวนยังมีอยู่ไม่น้อย แต่ก็ดีขึ้นกว่าเมื่อวานบ้างแล้ว นี่นับว่าเป็นสัญญาณที่ดีเพคะ"

ดีแล้วที่คนโบราณไม่เคยใช้ยาปฏิชีวนะ เพราะทันทีที่ยาเข้าสู่ร่างกาย มันจะเห็นผลได้รวดเร็วมาก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน