‘รอดูอาการ’ เพียงคำเดียว จิตใจทุกคนที่ได้ฟังก็หนักอึ้งทันที แต่ไรมาพระชายารัชทายาทก็ทำให้ทุกคนรู้สึกปลอดภัย นางกระทั่งไม่ได้เอ่ยคำพูดแง่บวกสักคำ ทุกคนก็รู้อยู่แก่ใจแล้ว
ไท่ซ่างหวงรู้สึกว่าทรวงอกมีคาวเลือดทะลักขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เรื่องที่ผ่านมากับฉู่เสี่ยวอู่ในชีวิตนี้แวบออกมาจากหัวสมองแบบพร่าเบลอ ยังจำคำพูดนั้นที่เขาเอ่ยขึ้นในค่ำคืนนั้นได้ ชาตินี้จะอยู่กับเจ้าหกทำเพื่อเป่ยถังจนลมหายใจสุดท้าย
อายุน้อยๆ ก็มีความรู้โดดเด่น อย่างไรก็ใช้ชาตินี้และชีวิตนี้กับเป่ยถัง
คำพูดลางร้าย ความเจ็บปวดทุกข์ทนปรากฏในหัวใจ เขาใช้กำลังทั้งหมดที่มีกลั้นเลือดสดนี้ไว้ “ส่งฮ่องเต้ออกไป!”
เมื่อเอ่ยออก ความระทึกไม่ด้อยไปกว่า ‘รอดูอาการ’ คำนั้นของหยวนชิงหลิงเลย ทุกคนไม่กล้าเงยหน้ามองฮ่องเต้หมิงหยวน มีแต่มู่หรูกงกงที่เดินขึ้นหน้าเล็กน้อย ยื่นมือประคองฮ่องเต้หมิงหยวนที่อ่อนเปลี้ยทั้งตัวให้ลุกขึ้น แต่ฝีเท้าของเขากลับทรุดลงเล็กน้อย แทบยืนไม่ติด
“เสด็จพ่อ!” หยู่เหวินเห้ารีบรุดเข้าไปประคองร่วมกับมู่หรูกงกง
ฮ่องเต้หมิงหยวนมองมือที่เขาแตะมา ในใจมีอารมณ์ซับซ้อนปนเป เจ็บปวด ลังเล ตื่นตระหนก และยังเจือโทสะที่ไม่อาจเมินได้เล็กน้อย
สุดท้ายเขาก็ผลักมือของหยู่เหวินเห้าออก เดินโซเซราวกับเอ็นกระตุกทั้งตัว
หยู่เหวินเห้าตะลึงงัน มองเซียวเหยากง เรื่องทั้งหมดเกรงว่าเขาจะรู้ดีที่สุด แต่เขาในเวลานี้ก็ราวกับสติแตก นั่งด้วยนัยน์ตาที่ว่างเปล่า
เซียวเหยากงเข้มแข็งมากว่าครึ่งชีวิต แต่กลับไม่รู้ว่าตอนนี้ทำอะไรได้ ได้แต่พึมพำเอ่ยมาประโยคหนึ่ง “ข้าว่า คนที่ตายก่อนนั่นแหละถึงไม่ต้องทนทุกข์!”
เป็นลางร้ายอีกแล้วหรือ? เขาไม่ต้องการนะ!
แต่เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้ได้? ตอนจบของพวกเขาสามเฒ่าน่าจะเป็นหลังจากช่วงท้ายของชีวิต ที่ควรได้ก็ได้มาแล้ว ที่ควรเสพสุขก็เสพสุขแล้ว จากนั้นก็นอนบนเตียงอย่างสงบ อำลากับทุกคนที่ใส่ใจ แล้วจากโลกนี้ไปท่ามกลางสายตาอาลัยอาวรณ์ของพวกเขา
ไม่ควรเป็นเช่นนี้เด็ดขาด
เขาชายตาขึ้น มองทางโสวฝู่ฉู่ ดวงตาไร้ความร้อนรุ่ม เอ่ยพึมพำ “ฉู่เสี่ยวอู่ ประโยคสุดท้ายที่ท่านพูดคืออะไรนะ? ข้าจำไม่ได้แล้ว”
การพลังทลายของผู้อ่อนแอมักไม่ทำให้ผู้อื่นหวั่นไหว เพราะราวกับเป็นเรื่องปกติ
มีเพียงผู้ที่แน่วแน่อดกลั้นเท่านั้น ที่พอพังทลายแล้ว ก็ทำให้คนไม่อาจมอง มองแล้วเป็นต้องหลั่งน้ำตา
หยวนชิงหลิงรีบเบือนสายตาหนีอย่างรวดเร็ว ไม่กล้ามองใบหน้าของเซียวเหยากง อย่าว่าแต่เซียวเหยากง แม้แต่นางก็ไม่รู้ว่าเวลามีอะไรที่พอจะทำได้บ้าง
อาการบาดเจ็บของโสวฝู่โดยรวมก็แน่ชัดได้ว่ากะโหลกร้าว รู้ได้จากการที่มีเลือดออกจมูกและหู แต่สภาพการณ์เลือดออกหนักแค่ไหน ความดันภายในจะสูงเท่าไร ดัชนีภาวะช็อกจะลดได้หรือไม่ ทั้งหมดนี้นางไม่อาจตัดสินได้อย่างแน่ชัด
กระทั่งอารมณ์ของทุกคนสงบลงแล้ว หยวนชิงหลิงจึงเอ่ยถามเสียงเบา “ท่านโสวฝู่เคยได้รับบาดเจ็บตอนอยู่ในสนามรบหรือไม่? ท้ายทอยเขา เคยถูกกระแทกแรงหรือไม่?”
“เคย!” อารมณ์ของเซียวเหยากงค่อยๆ กลับคืนมา ตอบคำถามของหยวนชิงหลิง “เคยถูกโล่ของศัตรูทุบ แต่ตอนนั้นไม่สาหัส ใช้ยาขจัดเลือดคลั่งแล้ว ปวดหัวบ้าง ไม่หนักหนาอะไร”
สีหน้าหยวนชิงหลิงเคร่งเครียดขึ้นอีก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน
สองขาของหยู่เหวินเห้าก็คดงอคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิดว่า “ลูกยินดียอมรับโทษทัณฑ์ที่เหลือของเสด็จพ่อ ชอบข้อความบทนี้ตลกดีคะพระเอก ตอน 394...
1...
1...
เพิ่งอ่านได้ 2ร้อยกว่าหน้า สนุกน่าติดตามมาก แต่ทั้งเรื่องมี2พันกว่าหน้า ทำไงจะอ่านจบ...
ขอบคุณผู้แต่ง และ novelones มากๆค่ะ ดีที่สุด อ่านรอบที่ 4 แล้วก็ยังสนุกครบรส ❤️...
เรื่องนี้ถือว่าสมบูรณ์มากสนุกต้นถึงจบ อยากให้เป็นซีรี่ย์...
สนุก ตลกดี เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่คำผิดเยอะไปหน่อยค่ะ...