“เจ้า.......” ไท่ซ่างหวงจ้องมองนาง ยังแทบจะคิดว่าตัวเองตาลาย ขยี้ตา แต่กลับเห็นหยวนชิงหลิงผลักประตูเข้ามาแล้ว เขายืนขึ้นทันที และก็นั่งลงไปอีกทันที รอยยิ้มแห่งความดีใจและแปลกใจย้อมขึ้นไปที่มุมปากเช่นนี้แล้ว
“โอ้ พระชายารัชทายาท? ท่านไม่เป็นไรแล้ว?” เซียวเหยากงก็เห็นแล้ว เคลื่อนสายตาจากโทรทัศน์แล้วชำเลืองมองนางแวบหนึ่ง และก็จ้องมองโทรทัศน์ต่อ
โสวฝู่เงยหน้าขึ้นเล็กน้อย ปริยิ้มออก “พระชายารัชทายาทกลับมาแล้ว!”
โสวฝู่ผ่าตัดเสร็จสิ้นสองสามวันมานี้ มีการพัฒนาดีขึ้นมาก แม้ว่าจะยังพันศีรษะไว้ แต่ทั้งคนดูแล้วก็มีชีวิตชีวามาก
ด้านนอกไม่มีคน หยวนชิงหลิงก็โน้มตัวทำความเคารพต่อพวกเขาตามระเบียบประเพณี เมื่อเห็นมารยาทการปฏิบัติเช่นนี้ ทั้งสามก็มีความรู้สึกเหมือนอยู่คนละโลก
ไท่ซ่างหวงดึงนางนั่งลง จ้องมองนาง โทรทัศน์ก็ไม่ดึงดูดแล้ว มองสำรวจตั้งแต่หัวจรดเท้ารอบหนึ่ง จึงถามขึ้นว่า“หายแล้วหรือ?”
“เพคะ ไม่เป็นไรแล้ว” หยวนชิงหลิงมองดูเขา ความรู้สึกนับร้อยผสมปนเปกัน ทิ้งพวกเขาไว้สองสามวันมานี้ รู้สึกผิดจริงๆ
ดวงตาของไท่ซ่างหวงเปล่งประกาย “หายแล้วก็พอแล้ว”
โสวฝู่ใช้ข้อศอกค้ำไว้แล้วเงยหน้าขึ้นอีกเล็กน้อย มองดูนาง รู้สึกอิจฉาเล็กน้อย “พระชายารัชทายาท ท่านหาหมอคนไหนมาทำการผ่าตัดให้หรือ? ทำไมท่านจึงสามารถหายได้รวดเร็วเพียงนี้? ข้านี่ยังต้องใช้เวลาอีกสองสามวันจึงจะสามารถเดินได้น่ะ อีกทั้งยังบอกว่าหลังจากออกจากโรงพยาบาลแล้ว ยังจำเป็นต้องพักฟื้นและบำรุงอีกเป็นเวลานาน”
หยวนชิงหลิงยิ้มแล้วกล่าว“นั่นเป็นเพราะอายุของท่านมากกว่าข้า สุขภาพร่างกายไม่ได้แข็งแรงเท่าข้า รอจนท่านออกจากโรงพยาบาลแล้ว ต้องบำรุงร่างกายให้ดี ออกกำลังกายหน่อยจึงจะได้”
“ใช่แล้ว เคราะห์ใหญ่ครั้งนี้ไม่ตาย ตามหลักก็สมควรที่จะทะนุถนอมร่างกายให้ดี สามารถอยู่ร่วมกับคนที่ใส่ใจกันได้วันหนึ่ง ก็เป็นความโชคดีอีกวันหนึ่ง” หายได้ยากที่โสวฝู่มีคารมปลุกใจได้สักครั้ง
ทีแรกเซียวเหยากงกำลังดูโทรทัศน์อยู่ ได้ยินคำพูดนี้ก็หันกลับมามองเขาแวบหนึ่ง กล่าวว่า“คำพูดนี้เจ้าพูดซะจน เหมือนว่าชาติหน้าพวกเราจะไม่ได้พบเจอกันอีกเช่นนั้นรึ? ชาตินี้ไม่ว่าใครไปก่อน ชาติหน้าก็ต้องอยู่ด้วยกัน”
ไท่ซ่างหวงพยักหน้าอย่างแรง “ครั้งนี้น้องสิบแปดพูดถูก”
แม้แต่ไท่ซ่างหวงก็พูดประโยคนี้อย่างจริงจัง ดูท่าคงเป็นเพราะดูละครมากไปแล้ว ปลุกอารมณ์คนขึ้นมาโดยไร้สาเหตุ
“พระชายารัชทายาท สมองของท่านยังเจ็บปวดอีกหรือไม่?” โสวฝู่ถามด้วยความเป็นห่วง ท่าทางเหมือนคนประสบเคราะห์กรรมเหมือนกัน ตั้งใจจะถ่ายทอดประสบการณ์ให้หน่อย “หากว่าศีรษะยังรู้สึกเจ็บอยู่ เวลาท่านนอนหนุนหมอน ก็ใช้หมอนที่นุ่มๆสักหน่อย เคลื่อนตำแหน่งของบาดแผลออกไปเล็กน้อย อย่าให้โดนหมอน”
หยวนชิงหลิงนั่งบนเตียงด้านข้าง อมยิ้มมองดูท่านผู้เฒ่าด้วยความสงสาร “ไม่เจ็บแล้ว อาการบาดแผลของข้าฟื้นฟูสู่สภาพเดิมค่อนข้างดี”
“ท่านถอดหมวกออกดูรอยแผลเป็นหน่อย?” เซียวเหยากงกล่าว
ไท่ซ่างหวงตำหนิทันที “ห้าม ห้ามถอดออก เจอลมเย็นแล้วหลังจากนี้จะปวดหัวง่าย ปิดให้ดี คลุมให้มิดชิด ควรคลุมด้วยเสื้อคลุม เสื้อผ้าของที่นี่ก็คือไม่ดี คับมาก ไม่ค่อยสบายตัว เจ้าควรเปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าของพวกเราทางนั้น”
หยวนชิงหลิงยื่นมือเข้าไป จับหลังมือของไท่ซ่างหวงเบาๆ “ข้าไม่เป็นไรเพคะ หายดีแล้ว ข้ากับโสวฝู่ไม่เหมือนกัน บาดแผลเล็กมาก ใหญ่เพียงแค่เล็บนิ้วมือเท่านั้นเพคะ”
แต่ไหนแต่ไรเขาก็ไม่ใช่คนที่ละเอียดลออใส่ใจในการใช้ชีวิต แต่ว่า ตลอดมานี้ก็มักจะเหมือนคุณปู่แท้ๆเช่นนั้น มีความห่วงใยใส่ใจนางทุกอย่างมากๆ มากกว่าปฏิบัติต่อตัวเองซะอีก
“พระชายารัชทายาท จะว่าไปที่นี่คือไหนกันแน่? ตาแก่นั่นบอกว่าเป็นพ่อแท้ๆของท่าน นี่เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่? สมองเขาไม่ดีใช่หรือไม่?” เซียวเหยากงถาม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน
สองขาของหยู่เหวินเห้าก็คดงอคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิดว่า “ลูกยินดียอมรับโทษทัณฑ์ที่เหลือของเสด็จพ่อ ชอบข้อความบทนี้ตลกดีคะพระเอก ตอน 394...
1...
1...
เพิ่งอ่านได้ 2ร้อยกว่าหน้า สนุกน่าติดตามมาก แต่ทั้งเรื่องมี2พันกว่าหน้า ทำไงจะอ่านจบ...
ขอบคุณผู้แต่ง และ novelones มากๆค่ะ ดีที่สุด อ่านรอบที่ 4 แล้วก็ยังสนุกครบรส ❤️...
เรื่องนี้ถือว่าสมบูรณ์มากสนุกต้นถึงจบ อยากให้เป็นซีรี่ย์...
สนุก ตลกดี เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่คำผิดเยอะไปหน่อยค่ะ...