บัลลังก์หมอยาเซียน นิยาย บท 1521

กลุ่มคนทั้งหมดไม่ปล่อยให้เวลาผ่านไปเปล่า ๆ รีบกลับเมืองหลวงทันที

อ๋องชินเฟิงอันสามีภรรยาขึ้นยอดเขาหมาป่าหิมะไปด้วยตัวเอง บอกท่านชายสี่ว่า เขาสามารถพาเหลิ่งเฟิ่งชิงกลับไปได้แล้ว

หยวนชิงหลิงกลับถึงตำหนัก เมื่อหยู่เหวินเห้ารู้ว่านางกลับมาแล้ว ก็ทิ้งขุนนางที่คุยงานราชการไว้ข้างหลัง รีบวิ่งกลับไปที่ตำหนักเสี้ยวเยว่ทันที

ทันทีที่เขาเข้าไปในห้องโถง หยวนชิงหลิงก็พุ่งเข้าไปในอ้อมแขนของเขา หยู่เหวินเห้ากอดนางแน่นโดยไม่รู้ตัว กระชับอ้อมกอด แล้วพูดน้ำด้วยเสียงแหบพร่าว่า “เจ้าหยวน กลับมาก็ดีแล้ว!”

หยวนชิงหลิงร้องไห้อยู่ในอ้อมแขนของเขาเป็นเวลานาน!

เมื่อได้เห็นความน่าเวทนาของเหลิ่งเฟิ่งชิงด้วยตาตัวเอง นางก็รู้ว่าความสุขไม่ใช่สิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้

หยู่เหวินเห้าปล่อยให้นางร้องไห้เงียบ ๆ ในใจของเขาก็โศกเศร้ามากเช่นกัน เป็นสามีภรรยากันมาหลายปี เขารู้ว่านางต้องประสบความสำเร็จแล้ว ถึงจะสามารถทนรับความเจ็บปวดที่มันลุกลามใหญ่โตแบบนี้ได้

ถ้ามันไม่สำเร็จ นางจะต้องคิดหาวิธีอื่นแน่

รอจนนางร้องไห้เสร็จ หยู่เหวินเห้าก็ค่อย ๆ เช็ดน้ำตาให้นาง แล้วถามเบา ๆ ว่า "ทุบหินญาณสวรรค์แตกแล้วรึ? สำเร็จแล้วใช่หรือไม่?"

หยวนชิงหลิงพยักหน้า สองตาแดงก่ำ ทั้งแก้มทั้งจมูกแดงเห่อไปหมด นางมองหยู่เหวินเห้า แล้วพูดด้วยเสียงเจือสะอื้นว่า "พวกเขาสองคนแม่ลูก เขาสามารถกลับมาอยู่ร่วมกันได้อย่างแท้จริงแล้ว ท่านชายสี่ก็สามารถกลับไปแก้แค้นได้แล้วเหมือนกัน"

หยู่เหวินเห้าสวมกอดนางไว้ในอ้อมแขนอีกครั้ง ฝืนอดทนต่อความโศกเศร้า แล้วพูดว่า "เจ้าหยวน เจ้ายอดเยี่ยมมากแล้ว"

หัวใจของหยวนชิงหลิงเหมือนขึ้นไปลอยค้างอยู่กลางอากาศ รู้สึกไม่มั่นคง กลับไปครั้งนี้ นางใช้ความสามารถพิเศษบางส่วน ตอนที่ทำเรื่องนั้น นางไม่ได้คิดเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้เลย แต่พอตอนนี้กลับมาแล้ว ย้อนคิดถึงเรื่องที่ตัวเองใช้ความสามารถพิเศษพวกนั้น ก็รู้สึกไม่สบายใจมาก

นางแตกต่างจากพวกเด็ก ๆ พวกเด็ก ๆ เกิดมาก็เป็นอย่างนี้แล้ว ส่วนนางเป็นคนธรรมดามานานหลายปี ไม่สามารถเปลี่ยนความคิดกลับมาได้รวดเร็วขนาดนั้น

บนยอดเขาหมาป่าหิมะ อ๋องชินเฟิงอันสามีภรรยาได้ขึ้นไปด้วยตัวเอง ทั้งยังบอกท่านชายสี่เรื่องที่หยวนชิงหลิงกลับไปทุบหินญาณสวรรค์จนแตกให้เขารู้ด้วย

ท่านชายสี่สามารถพาเหลิ่งเฟิ่งชิงกลับมาได้แล้ว อย่างน้อยก็ในส่วนนี้ ทุกสิ่งที่เขาเห็นก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไป

ท่านชายสี่สั่งคนให้กลับไปหาหรงเยว่ก่อน หลังจากบอกหรงเยว่แล้ว ก็ให้หรงเยว่ไปที่จวนแล้วบอกเรื่องนี้กับองค์หญิง เพื่อที่องค์หญิงจะได้สั่งคนให้ทำความสะอาดเรือนแยก จัดเตรียมที่พักไว้ให้ท่านแม่

องค์หญิงไม่เคยรู้เรื่องของเหลิ่งเฟิ่งชิงมาก่อน นางเพิ่งคลอดลูกได้ไม่นาน ไม่ควรร้องไห้ ดังนั้น จึงบอกนางแค่ไปทำธุระที่ยอดเขาหมาป่าหิมะ องค์หญิงเองก็มีน้ำใจกว้างขวาง ไม่ถามไถ่อะไรให้มากความ เพราะอย่างไร สามีก็ช่วยสะสางธุระการงานให้พี่ห้าด้วย

เมื่อหรงเยว่เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้องค์หญิงฟัง แน่นอนว่านางปกปิดเรื่องส่วนที่หยวนชิงหลิงกลับไปที่นั่น เพราะส่วนนั้นหรงเยว่เองก็ไม่รู้

องค์หญิงกอดหรงเยว่ ร้องไห้ในสภาพที่ทนรับไม่ไหวจริง ๆ นางสงสารท่านชายสี่ รวมทั้งสงสารแม่สามีเหลือเกิน

“ใต้หล้าแห่งนี้ ทำไมถึงได้มีคนที่ชั่วร้ายโหดเหี้ยมถึงขนาดนี้นะ? ท่านแม่สามีน่าสงสารเหลือเกิน สามีก็น่าสงสารเหลือเกิน!”

หรงเยว่ก็ร้องไห้ไปรอบหนึ่งเหมือนกัน แต่ก็พยายามระงับความเศร้าโศก แล้วพูดปลอบใจองค์หญิง เพื่อไม่ให้ส่งผลด้านลบต่ออารมณ์มากเกินไป จนเป็นผลร้ายต่อร่างกายนาง

นางเช็ดน้ำตาให้องค์หญิง พูดด้วยเสียงเจือสะอื้นว่า “อย่าร้องไห้อีกเลยนะ ท่านป้าที่ต้องทนทุกข์มาสามสิบหกปียังผ่านมาจนได้ มาตอนนี้นางมีทั้งลูกชาย ลูกสะใภ้ รวมถึงหลานชายอีก นับจากนี้ไปนางจะต้องมีความสุขแน่ "

องค์หญิงจับมือหรงเยว่ ช้อนดวงตาคู่งามที่ตอนนี้เป็นสีแดงก่ำ แต่ก็ยังอดร้องไห้ออกมาอีกครั้งไม่ได้ พูดว่า “วันหน้าข้าจะกตัญญูต่อท่านผู้อาวุโสอย่างแน่นอน จะไม่ปล่อยให้นางต้องได้รับความน้อยเนื้อต่ำใจอะไรอีกแม้แต่น้อย"

หรงเยว่พูดด้วยน้ำเสียงแหบพร่าว่า “ข้ารู้ว่าองค์หญิงจะทำได้แน่ ต้องทำได้แน่ ๆ ดังนั้น ท่านป้าเองก็นับว่าเป็นคนที่ได้รับพรเหมือนกันนะ อย่าร้องไห้อีกเลย รีบไปสั่งคนให้เร่งทำความสะอาดเรือนแยกเถอะ จะได้รอต้อนรับนาง”

องค์หญิงรีบเช็ดน้ำตา นางตั้งใจว่าจะไปทำเรื่องนี้ด้วยตัวเอง

เมื่อถึงช่วงพลบค่ำ ท่านชายสี่ก็พาเหลิ่งเฟิ่งชิงชิงกลับมาถึงจวนเหลิ่ง

เขาจับมือนาง ประคองให้ลงจากรถม้า ก้าวเดินไปบนขั้นบันไดหินทีละก้าว ๆ ทั้งสองด้าน มีคนจากสำนักเหลิ่งหลังชักแถวรอต้อนรับ ท่วงท่าน่าเกรงขาม เหมือนกับมีกำแพงสองฟาก ที่ตั้งตระหง่านเฝ้าดูแลคุ้มครองสองแม่ลูกในทุก ๆ ย่างก้าว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน