เพราะพลังเหนือธรรมชาติที่สามารถปล่อยไฟได้ ตั้งแต่เล็กก็ไม่เคยเผยความรู้สึกออกมาทางสีหน้า นี่เป็นเพียงเปลือกนอก ส่วนความรู้สึกภายใน นางก็ต้องสะกดกลั้นเอาไว้ ไม่เช่นนั้นจะไม่สามารถควบคุมไฟได้ หลังจากติดตามอาจารย์แล้ว อาจารย์ก็ยิ่งกำชับหนักหนา ทางที่ดีที่สุดอย่าได้มีจุดอ่อน เพราะว่าอารมณ์จะเผยให้เห็นช่องว่าง หลายสิ่งหลายอย่างก็จะไม่สามารถควบคุมได้อย่างดีที่สุด
ฉะนั้น ไม่ว่านางจะอยู่ต่อหน้าใคร ล้วนรักษาท่าทีเรียบเฉยเช่นนั้นอยู่เสมอ และพยายามมองทุกสิ่งอย่างเรียบง่าย ก็เพราะไม่อยากจะไปแตะอารมณ์ความรู้ส่วนลึกที่อยู่ในใจ
แต่การตายของคนมากมายในชั่วพริบตานี้ ทำให้นางไม่สามารถสงบใจได้
น้องฟีนิกซ์กางปีกออก โอบกอดนางเอาไว้ในอ้อมอกเป็นการปลอบโยน
หลายปีมานี้พวกนางคอยสนับสนุนคอยเป็นเพื่อนและเติบโตขึ้นมาพร้อมกัน รู้ว่าต้องปลอบใจอีกฝ่ายอย่างไร
ฉะนั้น เมื่อเจ๋อหลานออกไปอีกครั้ง ใบหน้าของนางยังคงเป็นสีหน้าที่เรียบเฉยไร้ความตื่นตระหนก
แม้แต่อ๋องเว่ยกับอ๋องอันที่มองเห็นความนิ่งสงบของหลานสาวคนนี้แล้ว ก็ค่อนข้างตกใจ เด็กอายุแปดขวบ สามารถทำเช่นนี้ได้อย่างไร ธรรมชาติของเด็กเล่า
พวกเขาไม่รู้เลยว่าเจ๋อหลานจะมีความเป็นธรรมชาติของเด็กไม่ได้เลยแม้แต่น้อย หลังจากที่นางเกิด และเริ่มเข้าใจอะไรเล็กน้อย ก็ไม่สามารถที่จะไม่รีบทำตัวให้เติบโตได้ รู้ความ ราวกับคนแก่ที่เข้าใจโลก ไปเผชิญกับทุกเรื่องที่เกิดขึ้นบนโลกใบนี้
ที่จริงนางค่อนข้างชอบที่จะอยู่ข้างกายท่านพ่อ เพราะว่าจนป่านนี้แล้ว ท่านพ่อยังคงเห็นว่านางเป็นเด็กอายุขวบสองขวบเท่านั้น ทั้งรักและเอ็นดู ไม่มีการร้องขอหรือตั้งความหวังใดๆกับนางทั้งสิ้น และเพราะว่าเขาไม่ค่อยเข้าใจเรื่องพลังเหนือธรรมชาติ ฉะนั้น เขาไม่เหมือนท่านแม่ ที่คอยสอดส่องพฤติกรรมของพวกเขาอยู่อย่างอกสั่นขวัญแขวน
ต่อหน้าท่านพ่อ นางไม่มีแรงกดดันที่ต้องเสแสร้ง
ฉะนั้น หลังจากที่เมืองโร่ตูเป็นระเบียบเรียบร้อยแล้ว นางจะกลับไปอยู่เป็นเพื่อนท่านพ่อ
การมาเมืองโร่ตูครั้งนี้ เป็นการฝึกประสบการณ์ของนางอย่างแท้จริง ไม่ใช่การเที่ยวเล่น ที่นี่สามารถฝึกฝนความตั้งใจและอารมณ์ของนางได้ และในความเป็นจริง หลังจากที่นางมาแล้ว ก็ได้เปิดโลกทัศน์ไม่น้อย มีประสบการณ์เพิ่มขึ้นมากมาย
ระหว่างที่ยังคงให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย ห่างจากวันที่เกิดแผ่นดินไหวสามวันแล้ว ได้ช่วยเหลือผู้รอดชีวิตออกมามากมาย แต่ก็ขุดเจอร่างของผู้เคราะห์ร้ายออกมาไม่น้อย
หูหมิงกับแม่นางโจวสั่งการให้มีการนับจำนวนคน ตอนนี้ที่มีชีวิตอยู่รวมถึงคนที่ได้รับบาดเจ็บ มีจำนวนสองแสนเจ็ดหมื่นคน นั่นก็เท่ากับว่ามีคนอีกห้าหมื่นกว่าคนที่ยังคงสูญหายอยู่
ตอนที่เกิดเหตุแผ่นดินไหว เพราะมีพวกหูหมิงคอยตีกลองป่าวประกาศ แม้ว่าคนจำนวนมากจะกลับไปยังบ้านเรือนของตนเอง แต่ว่า ประชาชนต่างก็ตื่นอยู่ ตอนที่เกิดแผ่นดินไหว มีคนจำนวนมากหนีรอดออกมาได้
ถ้าหากไม่มีการแจ้งเตือนล่วงหน้าในครั้งนี้ เกิดแผ่นดินไหวขณะที่กำลังนอนหลับ ก็ไม่รู้ว่าจะมีคนตายสักเท่าไหร่
การรักษามีความเร่งด่วนมาก คนที่ได้รับบาดเจ็บมีจำนวนมาก ได้ทำการส่งตัวไปยังจวนเจียงเป่ยและหัวเมืองอื่นๆทั้งสี่อย่างต่อเนื่อง แต่ว่า ก็ยังไม่สามารถคลี่คลายความกดดันได้ ผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมากไม่ได้รับการรักษา ถูกขุดขึ้นมาไม่ถึงสองวันก็ตายแล้ว
ราชสำนักรับทราบเรื่องเหตุแผ่นดินไหวหลังเหตุการณ์ผ่านไปสามวัน เป็นจดหมายที่อ๋องเว่ยให้นกพิราบสื่อสารนำไปส่ง หยู่เหวินเห้าได้จัดตั้งกลุ่มข้าหลวงแทนพระองค์ขึ้นอย่างรวดเร็ว ให้หงเย่คิดหาวิธีการขนส่งทรัพยากรจากเมืองที่อยู่ใกล้เคียงไปให้
หยวนชิงหลิงรู้ว่าเจ๋อหลานไม่เป็นไร ก็โล่งใจเล็กน้อย นางเองก็มีราชโองการ ให้ติดต่อนักเรียนที่เคยเรียนในโรงเรียนแพทย์ โดยมีนางเป็นผู้นำพาไปยังเมืองโร่ตู จากนั้นก็ติดประกาศไปทั่วทุกเมือง ระดมหมอไปช่วยเหลือภัยพิบัติ
คุณย่าหยวนเป็นหัวหน้าผู้ควบคุมโรงหมอหุ้ยหมิง ได้รวบรวมสมุนไพรสั่งให้คนส่งไปยังเมืองโร่ตู
เดิมทีหยู่เหวินเห้าไม่เห็นด้วยที่ยายหยวนจะไปเมืองโร่ตูด้วยตนเอง แต่ภัยพิบัติที่อ๋องเว่ยรายงานกลับมานั้นรุนแรงมาก คงขาดแคลนเรื่องการรักษาเป็นอย่างยิ่ง ไม่สามารถที่จะไม่ส่งกองทัพหมอไปช่วยเหลือได้ ยายหยวนมีกำลังในการเรียกระดมคน นางไปเอง หมอของแต่ละเมืองต้องตอบรับแน่
บวกกับเขาเองก็มีความคิดที่เห็นแก่ตัวเองอยู่บ้าง เมืองโร่ตูเป็นเมืองของกวากวา ราชสำนักออกหน้าช่วยเหลือ สามารถลดความเป็นอริของคนในเมืองโร่ตูได้ ภายหน้าจะทำการปกครองก็ไม่ยุ่งยากแล้ว
“ท่านแม่”ได้ยินเสียงของลูกสาวที่ส่งมาจากกลุ่มคน สายตาของหยวนชิงหลิงก็จ้องมองอย่างแน่วแน่ไปยังเงาร่างที่วิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว นางรีบลงจากหลังม้า วิ่งไปทางเจ๋อหลาน
เจ๋อหลานโผเข้าไปในอ้อมกอดของแม่ ห้ามน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ เรื่องราวที่ประสบพบเจอในช่วงหลายวันนี้ ช่างสะเทือนจิตใจมาก ในหัวใจนางก็มีจุดที่บอบบางอยู่
ท่านแม่มาแล้ว ชั่วขณะนั้นนางสะกดกลั้นไว้ไม่อยู่
“ท่านแม่ คนตายไปเยอะมาก คนตายไปเยอะจริงๆ ”เจ๋อหลานพูดทั้งน้ำตา
“มาแล้ว”เจ๋อหลานเงยหน้าเล็กๆมองท่านแม่ ทั้งดวงตาและใบหน้าเต็มไปด้วยหยดน้ำตา “พวกพี่ชายยังคงช่วยคนอยู่ แต่ที่ช่วยออกมาได้สองวันนี้ ล้วนเสียชีวิตแล้ว”
หยวนชิงหลิงเองก็รู้สึกเสียใจมาก“อืม แม่รู้แล้ว พวกเราเข้าไปดื่มน้ำกันก่อน แล้วจะไปช่วยรักษาคนบาดเจ็บทันที ไป พวกเราจะเสียเวลาไม่ได้”“ได้ รู้แล้ว”เจ๋อหลานจูงมือของแม่ เดินกลับไป
อ๋องเว่ยกับอ๋องอันรู้ว่านางมาถึงแล้ว และเห็นประชาชนแห่กันไป กลัวว่าจะเกิดเรื่อง ฉะนั้นจึงรีบตามไปหวังว่าจะช่วยรักษาความเป็นระเบียบเรียบร้อย แต่เห็นประชาชนต่างก็มีระเบียบมีมารยาทกันมาก ได้แต่มองฮองเฮาอย่างเงียบๆ พวกเขาจึงคลายใจได้เปลาะหนึ่ง
สายตาของฮองเฮามองมาในกลุ่มคน ทันใดนั้นพวกเขาสองคนก็นั่งลง มองไม่เห็นข้า มองไม่เห็นข้า มองไม่เห็นข้า
แม้ว่าหยวนชิงหลิงจะรู้สึกตลก แต่พอเห็นสีหน้าไร้ที่พึ่งของประชาชนแล้ว นางก็ยิ้มไม่ออก จิตใจหนักอึ้งมาก พากองทัพหมอไปดื่มนางและกินอะไรเล็กน้อยในจวน จากนั้นก็เริ่มทำงานทันที
ตลอดการเดินทาง เป็นไปได้พวกเขาก็จะไม่หยุดพัก ทุกคนต่างก็เหน็ดเหนื่อยมาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน
OMG ไม่คิดว่าจะอ่านจบ 2105 หน้าสุดปัง เรื่องสนุกมาก ดำเนินเรื่องได้น่าติดตาม มีความเรียลจนบางตอนมีน้ำตาซึมตามเพีาะความประทับใจ สนุกมากจริงๆทอยากให้มีภาคลูกไปบ้าง...
กลับมาอ่านอีกครั้ง สนุกจริง...
สนุกมากค่ะ มีต่อไหมคะ...
สองขาของหยู่เหวินเห้าก็คดงอคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิดว่า “ลูกยินดียอมรับโทษทัณฑ์ที่เหลือของเสด็จพ่อ ชอบข้อความบทนี้ตลกดีคะพระเอก ตอน 394...
1...
1...
เพิ่งอ่านได้ 2ร้อยกว่าหน้า สนุกน่าติดตามมาก แต่ทั้งเรื่องมี2พันกว่าหน้า ทำไงจะอ่านจบ...
ขอบคุณผู้แต่ง และ novelones มากๆค่ะ ดีที่สุด อ่านรอบที่ 4 แล้วก็ยังสนุกครบรส ❤️...
เรื่องนี้ถือว่าสมบูรณ์มากสนุกต้นถึงจบ อยากให้เป็นซีรี่ย์...
สนุก ตลกดี เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่คำผิดเยอะไปหน่อยค่ะ...