หยวนชิงผิงเห็นว่าตัวเองเป็นใคร? เขาต้องเป็นบ้าไปแล้วที่ไปหลงชอบนาง โชคดีที่ยังไม่ทันได้พูดกับท่านแม่
กู้ซือคิดอยู่อย่างไม่พอใจ เพื่อหัวใจลูกผู้ชายที่บอบบางของตนเอง
ส่วนหยวนชิงผิงแสดงสีหน้างงงวย คนคนนี้เป็นอะไรหรือ? ถามว่าเขาเป็นใครก็ไม่ตอบ ยังดูเหมือนจากไปพร้อมกับโกรธ ทำไม? ถามก็ไม่ได้หรือ?
หยวนชิงหลิงถามขึ้นว่า “กู้ซือเป็นอะไรหรือ? ดูเหมือนกำลังโกรธ”
หยวนชิงผิงพูดขึ้นอย่างแปลกใจว่า “กู้ซื้อ? เขาก็คือกู้ซือหรือ? รองผู้บัญชาการมหาดเล็ก?”
“รอง พวกเจ้าเคยเจอกันนี่ ก่อนหน้านี้ตอนที่เจ้ามาจวนอ๋อง เขาก็เคยมา”
หยวนชิงผิงค่อยนึกขึ้นได้ว่าเคยเจอกันแล้วจริง
แต่ว่าตอนนั้นตนเองหงุดหงิดกระวนกระวาย จำอะไรได้ที่ไหนกัน?
แต่ว่าคนคนนี้ก็ขี้น้อยใจไปหน่อย ก็แค่จำไม่ได้ว่าเขาเป็นใคร ถึงกับต้องโกรธเลยหรือ?
เห็นที ผู้ชายก็เหมือนกันทุกคน นึกว่าตนเองสำคัญ แล้วทุกคนก็ต้องรู้จักเขาหรือ
รถม้ากลับมาถึงจวนอ๋อง ภายใต้การเฝ้าดูของลู่หยากับมามา หยวนชิงหลิงทานข้าว แล้วก็นอนหลับ
จวนอ๋องมีไว้สำหรับเลี้ยงหมู ตอนนี้นางเป็นหมูในกำมือหยู่เหวินเห้า
เรื่องที่เกิดขึ้นนอกเมือง หลังจากหยู่เหวินเห้าควบคุมสถานการณ์เบื้องต้นได้แล้ว ก็เข้าวังไปทูลรายงานฮ่องเต้หมิงหยวน
พอดี โสวฝู่ฉู่ก็อยู่ในห้องทรงพระอักษร ได้ยินว่าฉู่หมิงชุ่ยจัดซุ่มแจกโจ๊กแล้วเกิดปัญหา สีหน้าโสวฝู่ฉู่บึ้งตึงอยู่เนิ่นนาน
ฮ่องเต้หมิงหยวนพูดขึ้นว่า “จัดการผู้บาดเจ็บให้เรียบร้อยก่อน ค่อยสืบหาความจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้ ควรที่จะทำยังไงก็ทำอย่างนั้น”
หยู่เหวินเห้าพูดขึ้นว่า “ขอรับ”
หยู่เหวินเห้าทูลลากลับไป โสวฝู่ฉู่ก็ตามออกไป
“ท่านอ๋อง”โสวฝู่ฉู่เดินมาพร้อมกับเขา
“ฝู่ฉู่มีธุระหรือ?”หยู่เหวินเห้าถามขึ้น
โสวฝู่ฉู่ถอนหายใจเบา “เกิดเรื่องแบบนี้ ในใจข้าก็โกรธยิ่งนัก พระชายาฉีทำอะไรได้ไม่ดีเลย”
หยู่เหวินเห้าพูดว่า “อุบัติเหตุยากที่จะควบคุม แต่ถึงแม้จะเป็นความหวังดี ก็ต้องเตรียมการให้รอบคอบ อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ที่จริงสาเหตุหลักก็คือไม่ได้ควบคุมเวลาให้ดี ให้คนมาต่อคิวรออยู่แต่เช้า โจ๊กก็ต้มเสร็จแล้ว ทุกคนรออยู่อย่างหิวโหย เมื่อต้องรอนานๆ ก็จะก่อให้เกิดความวุ่นวายได้ง่าย อีกอย่าง ในที่เกิดเหตุก็ไม่มีคนมากเพียงพอที่จะจัดการลำดับขั้นตอนต่างๆ”
โสวฝู่ฉู่พูดว่า “ท่านอ๋องรู้จักนิสัยของนางดี นางหวังดีมีจิตใจเมตตา แต่เสียดายที่ไม่มีประสบการณ์อะไร”
“ใช่”หยู่เหวินเห้าแสดงสีหน้าท่าทียังดูไม่ออกว่าคิดอย่างไร
โสวฝู่ฉู่ขมวดคิ้วพร้อมถอนหายใจพูดขึ้นว่า “เดิมเป็นเรื่องที่ดี ทำไมถึงทำให้กลายเป็นเช่นนี้ ช่างเป็นความหวังดีที่กลายเป็นเรื่องร้าย ในเมื่อท่านอ๋องได้รับราชโองการให้ตรวจสอบเรื่องนี้ งั้นก็ขอให้ท่านอ๋องตรวจสอบอย่างดีเถอะ ยังไงก็กระทำผิดจนก่อให้เกิดความวุ่นวาย เพียงแต่ท่านเองก็รู้อยู่แล้วว่า นางหวังดีจริงๆ”
หยู่เหวินเห้าพยักหัว พร้อมพูดว่า “อืม”
โสวฝู่ฉู่เห็นว่าพูดจนถึงขนาดนี้แล้ว เขาก็ยังไม่แสดงท่าทีอะไร ก็รู้แล้วว่าพูดอะไรมากไปก็ไม่มีประโยชน์ จึงพูดขึ้นว่า “ท่านอ๋อง ข้ายังมีธุระ ขอตัวก่อน”
“ฝู่ฉู่ตามสบาย”หยู่เหวินเห้าพูดขึ้น
โสวฝู่ฉู่เดินไปได้สองก้าว แล้วก็ยืนนิ่งหันกลับมามองดูหยู่เหวินเห้า สายตาลึกๆฉายแววเรียบเฉย และพูดขึ้นว่า “ท่านอ๋อง มิตรภาพในวัยเยาว์ มีความสำคัญอย่างยิ่ง ข้ารู้ว่าท่านอ๋องเป็นคนที่มีน้ำใจต่อเพื่อนพ้องญาติมิตร สิ่งที่ติดค้าง ความรับผิดชอบที่ติดค้าง ยังไงก็ต้องคืน ต่อไปจะได้ไม่โกรธเกลียดซึ่งกันและกัน”
โสวฝู่ฉู่พูดประโยคแบบนี้ออกมา หยู่เหวินเห้าประหลาดใจ
พูดว่านางเป็นคนดีก่อน แล้วก็พูดเตือนถึงมิตรภาพในวัยเยาว์ แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจอย่างชัดเจน เป็นการขอร้องเพื่อฉู่หมิงชุ่ย
ต่อให้สวีอีจะเป็นคนหัวสมองทื่อ แต่ก็รู้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ค่อนข้างส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวง อ๋องฉีกลับยังจะให้เขาพูดปลอบคนที่เป็นคนร้ายคนสำคัญ
อ๋องฉี นี่ท่านไร้เดียงสาหรือโง่กันแน่?
หยู่เหวินเห้าพูดว่า “ข้ามาเพื่อถามไม่กี่คำถาม ส่วนนางสำนึกผิดหรือเสียใจ ข้าก็ปลอบไม่ได้ เพราะยังไงเรื่องก็เกิดขึ้นแล้ว คิดหาวิธีแก้ไขก็พอ”
“คำพูดของพี่ห้า ทำไมข้าฟังดูแล้วได้แล้งน้ำใจขนาดนั้น?” อ๋องฉีพูดขึ้นอย่างค่อนข้างไม่เข้าใจว่า “ก่อให้เกิดเรื่องแบบนี้ นางก็ไม่ได้ตั้งใจ นางเสียใจและทรมานยิ่งกว่าทุกคน และตัวนางเองก็ได้รับบาดเจ็บแล้ว”
“ดังนั้น พวกเราจึงต้องคิดหาวิธีแก้ไข”หยู่เหวินเห้าพูดเน้น
“แก้ไข? ข้าว่าเจ้ามาเอาผิดมากกว่า? ช่างเถอะ เจ้าอย่าเข้าไปเลย จะยิ่งทำให้นางเสียใจเปล่าๆ”อ๋องฉีนิ่งหยุดฝีเท้า พร้อมพูดขึ้นอย่าหน้าตาเฉย
หยู่เหวินเห้ามองดูเขาอย่างจนใจ พร้อมพูดว่า “น้องเจ็ด ข้ารับราชโองการมา”
เขาไม่ได้มาเล่นๆ เข้าใจไหม?
สีหน้าอ๋องฉีเย็นชา พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้าอย่าเอาเสด็จพ่อมาข่มข้า หากเจ้ากลัวถูกเสด็จพ่อตำหนิ ข้าจะไปพูดกับเสด็จพ่อเอง”
หยู่เหวินเห้ารู้สึกว่าตนเองมาด้วยตนเองเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว หากเป็นคนอื่นมา เกรงว่าแม้แต่ประตูจวนอ๋องฉีก็ไม่ได้เข้า
“น้องเจ็ด เพียงแค่ถามสถานการณ์เท่านั้น รายละเอียดข้าได้ข้อมูลมาพอสมควรแล้ว บางอย่างก็ต้องถามนางบ้าง เจ้าอย่าตื่นเต้นขนาดนี้”หยู่เหวินเห้าพูดขึ้น
อ๋องฉีพูดขึ้นว่า “ในเมื่อเจ้าก็รู้รายละเอียดสถานการณ์พอประมาณแล้ว งั้นถามหรือไม่ถามนางก็ไม่เป็นไร ทำไมยังจะมาถามนางให้นางไม่สบายใจอีก? พี่ห้า ยังไงก็เห็นที่นางก็เรียกพี่ว่าพี่เห้าคนหนึ่ง ท่านพี่ก็ไม่ควรที่จะไปทำให้นางลำบากใจ”
หยู่เหวินเห้ามองดูใบหน้าที่เย็นชาและเคร่งขรึมของเขา แทบอยากที่จะชกต่อยอย่างกลั้นอารมณ์โมโหไม่ไหว
ต่างก็เป็นลูกที่มีพ่อเป็นคนเดียวกัน ทำไมสมองของเขาถึงแจ่มใสเป็นเหมือนน้ำเช่นนี้?
สีหน้าเขาเคร่งเครียด พร้อมพูดขึ้นอย่างโมโหว่า “ทำไมถึงพูดมากขนาดนี้? รีบนำทางไป วันนี้ถ้าไม่ได้พระชายาของเจ้า ข้าจะพังจวนอ๋องฉีของเจ้า”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน
OMG ไม่คิดว่าจะอ่านจบ 2105 หน้าสุดปัง เรื่องสนุกมาก ดำเนินเรื่องได้น่าติดตาม มีความเรียลจนบางตอนมีน้ำตาซึมตามเพีาะความประทับใจ สนุกมากจริงๆทอยากให้มีภาคลูกไปบ้าง...
กลับมาอ่านอีกครั้ง สนุกจริง...
สนุกมากค่ะ มีต่อไหมคะ...
สองขาของหยู่เหวินเห้าก็คดงอคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิดว่า “ลูกยินดียอมรับโทษทัณฑ์ที่เหลือของเสด็จพ่อ ชอบข้อความบทนี้ตลกดีคะพระเอก ตอน 394...
1...
1...
เพิ่งอ่านได้ 2ร้อยกว่าหน้า สนุกน่าติดตามมาก แต่ทั้งเรื่องมี2พันกว่าหน้า ทำไงจะอ่านจบ...
ขอบคุณผู้แต่ง และ novelones มากๆค่ะ ดีที่สุด อ่านรอบที่ 4 แล้วก็ยังสนุกครบรส ❤️...
เรื่องนี้ถือว่าสมบูรณ์มากสนุกต้นถึงจบ อยากให้เป็นซีรี่ย์...
สนุก ตลกดี เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่คำผิดเยอะไปหน่อยค่ะ...