บัลลังก์หมอยาเซียน นิยาย บท 1777

หยู่เหวินเห้าตื่นตระหนก มองทังหยวนที่บนใบหน้ามิได้มีอารมณ์ได้ใจ ราวกับเป็นแค่การค้าแผงลอยขายเม็ดแตง ขายน้ำแร่ข้างถนนอย่างนั้น

แต่นี่เป็นการค้าข้าวสารธัญพืชห้าหัวเมืองเชียวนะ เด็กคนหนึ่ง แค่ไม่กี่ปีสั้นๆ กลับทำได้ขนาดนี้ ครอบครองเกือบครึ่งของตลาด นั่นเป็นเรื่องใหญ่โตเพียงใด?

“หยวน มาคุยทางนี้” ว่าแล้วหยู่เหวินเห้าก็ลากเขาเดินเข้าไปในห้อง ทิ้งข้าวเหนียวอยู่อีกทาง

ข้าวเหนียวยักไหล่ เปิดประตูออกไป ครั้งนี้พี่รองได้เจ็บหนักแน่ เขาเห็นประกายเงินทองจากแววตาเสด็จพ่อแล้ว

เป็นเช่นนั้นจริง ครั้นหยู่เหวินเห้าลากทังหยวนเข้าไปแล้ว ก็เริ่มเอ่ยเรื่องพระคลังในวังหลวงที่จริงก็อัตคัดมาก เงินที่ได้จากท้องพระคลังในทุกปีก็น้อยนิด แต่ค่าใช้จ่ายมาก ปีหนึ่งตกรางวัลหนักไปไม่กี่ที เขายังต้องควักส่วนตัวมาเสริมอีก

อีกอย่าง เขาเลี้ยงดูพวกเขาจนเติบใหญ่ขนาดนี้แล้ว ก็ถึงเวลาที่นกกาป้อนตอบแทน เลี้ยงพวกเขายามแก่

เมื่อทังหยวนเห็นเสด็จพ่อที่แสดงละครยอดเยี่ยม จู่ๆ ในหัวก็นึกถึงคำพูดของท่านชายสี่ขึ้นมา “เรื่องที่เจ้าค้าขาย ปิดเสด็จพ่อเจ้าได้ก็ปิดไว้ มิเช่นนั้นเจ้าได้มาเท่าไรก็ต้องแบ่งให้เขากึ่งหนึ่ง เขาเนี่ยนะ พิสมัยเงินทองมาตั้งแต่เกิด”

เขาหัวเราะขึ้นมา “เสด็จพ่อ ทรงวางพระทัยเถอะพ่ะย่ะค่ะ เงินที่ได้มาทุกปี หม่อมฉันจะแบ่งให้พระองค์กึ่งหนึ่ง กตัญญูต่อเสด็จพ่อและเสด็จแม่”

“หยวนหยวนของข้ากตัญญูจริงๆ เสด็จแม่เจ้าต้องดีใจมากแน่” หยู่เหวินเห้ากุมบ่าเขาไว้ ตื้นตันมาก “ปีหนึ่งเจ้าได้เงินมาเท่าไรหรือ?”

ทังหยวนกระซิบข้างใบหูบอกตัวเลข

หยู่เหวินเห้าตะลึงตาค้าง “เยอะเช่นนั้นเชียว?”

“คุมต้นทุนการขนส่งได้ดี ก็เลยกำไรงามหน่อยพ่ะย่ะค่ะ” ทังหยวนเอ่ย

“ถึงอย่างนั้นก็เยอะไปหน่อยกระมัง?” หยู่เหวินเห้ากลับรู้สึกปวดใจหน่อยหนึ่ง เพราะเงินที่ได้จากท้องพระคลังมาใช้จ่ายในวังหลวงทั้งปียังไม่มากเท่ากำไรทังหยวนหนึ่งปีเลย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน