หยวนชิงหลิงกินไปไม่กี่คำ แต่ทนกลิ่นเนื้อหอยตากแห้งในโจ๊กไม่ไหว ท้องไส้เริ่มปั่นป่วนขึ้นมาอีกครั้ง นางป่ายปัดมือ ใบหน้าขาวซีดล้มตัวนอนลง “ไม่กินแล้ว ยิ่งกินยิ่งรู้สึกอยากอาเจียน”
หยู่เหวินเห้าปวดใจอย่างมาก ถามหมออย่างโกรธๆ :“ สรุปแล้วป่วยอะไรเจ้ายังไม่วินิจฉัยออกมาอีก ทำไมกินอะไรแล้วถึงอาเจียนออกมาเสียหมด? หรือเจ้าไม่รู้?”
หมอตอบอย่างเกรงกลัว:“ รอหมอหลวงมาถึงค่อยเปิดเผยอาการเถิด กระหม่อมเองก็ไม่กล้ากล่าวสั่งสุ่มไปก่อน”
เมื่อหยู่เหวินเห้าได้ยินก็ร้อนรนจนตาเปลี่ยนรูปเป็นสามเหลี่ยม “สรุปเป็นอะไรกันแน่?”
หมอเริ่มเงียบอีกครั้ง
แม่นมสี่กล่าว:“ ท่านหมอ ท่านกลับไปก่อนเถิด ปากปิดสนิทด้วยนะ”
หมอตอบ:“ ถ้าเช่นนั้นกระหม่อมทูลลาพ่ะย่ะค่ะ”
แม่นมเฉียนพาเขาไปที่ห้องคิดบัญชีเพื่อชำระค่ารักษา แล้วส่งเขากลับไป
เมื่อแม่นมเฉียนกลับมาถึงประตูก็โบกมือเรียกแม่นมสี่ออกมา
ทั้งสองเดินไปถึงทางเดินแม่นมเฉียนพูดขึ้น:“ การวินิจฉัยของหมออาจผิดพลาดได้ อย่าเพิ่งบอกเรื่องนี้กับท่านอ๋อง รอให้หมอหลวงมาวินิจฉัยให้แน่ใจก่อนค่อยบอก”
แม่นมสี่ตอบ:“ ข้าก็คิดเช่นนั้น”
แม่นมเฉียนถอนใจ “หากเป็นเช่นนั้นจริงก็คงจะดี เพียงแต่พระชายาเคยใช้น้ำจื่อจิน เกรงว่าไม่กี่ปีให้หลังจะไม่ดีเอา”
“ใช่แล้ว ข้าก็ว่าจะถามเรื่องนี้ น้ำจื่อจินนี้ใครเป็นผู้จัด ใช้สัดส่วนเท่าไหร่หรือ?”
“ใต้เท้าทังเป็นผู้จัดการแบ่งสัดส่วนก็แบ่งตามปกติ แต่ต่อมาท่านอ๋องได้ให้ความเข้าใจเกี่ยวกับการต้มเท่าไหร่จึงมีประโยชน์”
“ยาต้มไม่ค่อยช่วยอะไร เว้นแต่จะดื่มทันทีหลังทานอาหาร แต่กระนั้นยามที่พระชายาอยู่ในตำหนักร่างกายก็ไม่แข็งแรงอยู่แล้ว และน้ำจื่อจินก็ได้ทำร้ายปอดของพระชายาไปแล้ว”
แม่นมสี่ใช้ความคิดชั่วครู่ “แต่พูดมาก็แปลก พักนี้ไม่เห็นพระชายาเป็นอย่างไรเลย”
แม่นมเฉียนกล่าว:“ ใช่ อันที่จริงข้าก็เฝ้าดูร่างกายอาการของพระชายามาตลอด ก็เห็นว่าพระชายาไม่มีแม้แต่เสียงไอ ทั้งๆ ที่น้ำจื่อจินส่งผลทำลายตับมากที่สุด”
ทั้งสองคนคุยกันไม่ทันขาดคำก็ได้ยินเสียงไออยู่ด้านใน
แม่นมทั้งสองรีบรุดเข้าไปทันที พบว่าหยวนชิงหลิงได้อาเจียนออกมาอีกแล้ว แม้จะไม่มีอะไรให้อาเจียนออกมาแล้วก็ตามแต่ยังคงโก่งคออยู่ข้างเตียง
ร่างกายนางอ่อนแรงมากอยู่ในอ้อมแขนของหยู่เหวินเห้า หยู่เหวินเห้าทั้งวิตกกังวลทั้งปวดใจ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ทำได้เพียงตบหลังนางเบาๆ เท่านั้น
“ประคองข้าที ข้าอยากไปอ้วก” หยวนชิงหลิงเอื้อมมือออกไปอย่างอ่อนแรง
“ข้าอุ้มเจ้าไปเอง!” หยู่เหวินเห้าเอื้อมมือเตรียมอุ้มเธอขึ้น
“ไม่ ปล่อยข้าลง ข้าจะเดินไป” หยวนชิงหลิงกล่าว
หยู่เหวินเห้าอุ้มนางขึ้นแล้ว “เจ้าเงียบเสียเถิด”
หยู่เหวินเห้าอุ้มนางไปวางลงโถส้วมที่อยู่ทางด้านข้าง ไม่นานหลังจากนั้นนางก็ค่อยๆ เดินออกมาจับแขนของหยู่เหวินเห้า แล้วถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
“ลู่หยา ช่วยเตรียมของให้ข้าที ประจำเดือนข้ามาแล้ว!”
เมื่อได้ยินดังนั้นแม่นมทั้งสองก็มองหน้ากัน รู้สึกผิดหวังเล็กน้อย
หยวนชิงหลิงโล่งใจในที่สุด ท่านหมอพาตกอกตกใจไปหมด ทำเอาตัวนางเองเกือบเชื่อไปแล้ว
ลู่หยารีบไปจัดการแล้วเตรียมน้ำร้อนให้อาบ
หยวนชิงหลิงมองดูสิ่งโบราณที่อยู่ภายในนี้ สายรัดทั้งสองที่ยื่นออกมานั้นทำนางพูดไม่ออก นางรู้วิธีใช้ แต่ไม่สะดวกจริงๆ
ดูท่าแล้ว นางคงต้องทำแผ่นสำลีเองถึงจะใช้ได้
นางเอนอยู่บนเตียงเพิ่งจะทำเสร็จ หมอหลวงเฉาก็มาถึง
ได้ยินว่าพระชายาอาเจียนนานมาก อีกทั้งหมอมาตรวจดูแล้วยังไม่ทราบสาเหตุ ต้องตรวจดูอย่างจริงจัง
หยู่เหวินเห้าให้เขาเข้ามาตรวจดู เขาดึงด้ายสีแดงออกมาอย่างระมัดระวัง หยู่เหวินเห้าถาม:”เจ้ามัวทำอะไรอยู่? วินิจฉัยชีพจรเสีย”
หมอหลวงผู้นี้มัวแต่ทำอะไร มีคนป่วยอยู่ยังพูดเช่นนี้?
หมอหลวงเฉาผงะ “นี่......นี่จะเป็นไปได้อย่างไร?”
“เป็นความจริง!” แม่นมเฉียนเสริม
หมอหลวงเฉารีบยื่นมือออกไปตรวจอีกครั้ง ตรวจเพียงไม่นานก็เงยหน้าแววตาสงสัย “เป็นชีพจรของคนตั้งครรภ์จริงๆ”
“แต่เคยดื่มน้ำจื่อจินนะเจ้าคะ” แม่นมสี่ตอบ
“แต่นี้เป็นชีพจรของคนตั้งครรภ์จริงๆ” หมอหลวงยืนยัน
หยู่เหวินเห้ารู้สึกว่าตัวเองกำลังอยู่ระหว่างความรู้สึกตกใจและยินดี อีกนิดจะบ้าแล้ว
หยวนชิงหลิงก็เช่นกัน แต่เป็นความรู้สึกที่ตรงข้ามกับความรู้สึกตกใจและยินดีของหยู่เหวินเห้า
“สรุปแล้วใช่ตั้งครรภ์หรือไม่?” เขาร้อนรน
“ใช่พะย่ะค่ะ!” หมอหลวงตอบอย่างมั่นใจ
หยู่เหวินเห้าจ้องหมอหลวง “เจ้าต้องชี้ขาดแล้ว เพื่อที่พระชายาจะไม่ได้ดีใจเก้อ เจ้าดู พระชายาดีใจจนจะร้องไห้ออกมาแล้ว”
เขาโน้มตัวลงไปตบแขนหยวนชิงหลิงเบาๆ “เราอย่าเพิ่งดีใจไปนักเลย เผื่อวินิจฉัยผิดพลาด”
เขารู้ดีว่าของน้ำจื่อจินส่งผลกระทบต่อร่างกายเพียงใด ช่วงเวลาเหล่านี้เขาได้ให้แม่นมเฉียนทำซุปและยาบำรุงให้นางมาตลอด
หยวนชิงหลิงกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เขาใช้ตาสุนัขที่ไหนดูว่านางดีใจจนจะร้องไห้? นางร้องไห้เพราะกลัวต่างหากรู้หรือยัง?
หากเจ้าตั้งครรภ์ตั้งแต่อายุสิบเจ็ดเจ้าไม่กลัวหรือ?
นางมองหยู่เหวินเห้า เอื้อมมือไปลูบใบหล่อเหลาที่มีรอยฟกช้ำเจือความสับสน กัดฟันพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน:”ถ้าหากข้าตั้งครรภ์จริงล่ะก็ ข้าจะเป็นคนแรกที่จะฆ่าเจ้า”
หยู่เหวินเห้าตะลึงงัน เจ้าหยวนบ้าไปแล้ว!
เขาเหลือบไปมองหมอหลวง เข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันกล่าว:”เจ้ารีบๆ วิเคราะห์ให้แน่ชัดเสียว่าเป็นอย่างไร!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน
OMG ไม่คิดว่าจะอ่านจบ 2105 หน้าสุดปัง เรื่องสนุกมาก ดำเนินเรื่องได้น่าติดตาม มีความเรียลจนบางตอนมีน้ำตาซึมตามเพีาะความประทับใจ สนุกมากจริงๆทอยากให้มีภาคลูกไปบ้าง...
กลับมาอ่านอีกครั้ง สนุกจริง...
สนุกมากค่ะ มีต่อไหมคะ...
สองขาของหยู่เหวินเห้าก็คดงอคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิดว่า “ลูกยินดียอมรับโทษทัณฑ์ที่เหลือของเสด็จพ่อ ชอบข้อความบทนี้ตลกดีคะพระเอก ตอน 394...
1...
1...
เพิ่งอ่านได้ 2ร้อยกว่าหน้า สนุกน่าติดตามมาก แต่ทั้งเรื่องมี2พันกว่าหน้า ทำไงจะอ่านจบ...
ขอบคุณผู้แต่ง และ novelones มากๆค่ะ ดีที่สุด อ่านรอบที่ 4 แล้วก็ยังสนุกครบรส ❤️...
เรื่องนี้ถือว่าสมบูรณ์มากสนุกต้นถึงจบ อยากให้เป็นซีรี่ย์...
สนุก ตลกดี เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่คำผิดเยอะไปหน่อยค่ะ...