เมื่อกลับถึงเป่ยถัง หยู่เหวินเห้าก็ตรงไปที่ห้องทรงพระอักษรทันที คิดจะอ่านฎีกาที่สะสมไว้ทั้งหมดให้เสร็จ
เพราะนี่มันสิบวันเชียวนะ น่ากลัวว่าโต๊ะทำงานคงจะเต็มไปด้วยฎีกากองพะเนินเท่าภูเขาแล้ว
แต่เมื่อเขามาถึงห้องทรงพระอักษร กลับเห็นว่ามีฎีกาแค่ไม่กี่เล่มที่วางกระจายอยู่ เขาเปิดออกดู จึงเห็นว่าฎีกาเหล่านี้ล้วนได้รับการลงนามอนุมัติแล้ว ขาดเพียงการประทับตรารับรองเท่านั้น
ฎีกาเหล่านี้เป็นคำขอสร้างระบบชลประทานในพื้นที่ต่าง ๆ เขาอ่านดูรอบหนึ่ง เป็นการวิเคราะห์งานที่ดีมาก
ตอนแรกคิดว่าเป็นโสวฝู่ แต่หลังจากพินิจดูลายมืออย่างละเอียดแล้วกลับไม่ใช่ เป็นรัชทายาทที่เขียนบทวิเคราะห์
หยู่เหวินเห้าถึงกับตกตะลึงไปครู่ใหญ่ ก่อนจะสั่งให้มู่หรูกงกงเรียกโสวฝู่มาเข้าพบทันที
หลังจากคุยกับเจ้าเหลิ่งในห้องทรงพระอักษรได้ราว ๆ หนึ่งชั่วยาม เมื่อหยู่เหวินเห้าได้ยินว่าในช่วงสิบวันหลังจากที่เขาไป เรื่องอะไรทั้งหลายที่เกิดขึ้นในราชสำนัก ล้วนมีรัชทายาทที่เป็นคนดูแลจัดการให้ทั้งหมด เขาฟังแล้วถึงกับตื่นตะลึงไปเลย
เขารู้ว่าลูกชายของเขาใช้การได้ แต่คิดไม่ถึงว่าจะใช้การได้มากมายครอบคลุมถึงขนาดนี้ เรียกว่าบางจุดยังทำได้ดีกว่าเขาเสียอีก
ตอนค่ำ หยู่เหวินเห้าก็เฝ้าครุ่นคิดถึงปัญหาข้อหนึ่ง แต่เขาไม่ได้พูดกับเจ้าหยวน เพราะเขารู้สึกว่าถ้าเขาทำแบบนี้จริง ๆ ล่ะก็ มันออกจะดูเห็นแก่ตัวเกินไปหน่อย
แต่เขาคิดว่ารัชทายาทดีมาก แม้ว่าจะมีบางเรื่องที่อาจจัดการได้อย่างไม่มีวุฒิภาวะนัก แต่ถ้าเขาสั่งสมประสบการณ์เพิ่มอีกนิด มันจะต้องดีขึ้นกว่านี้แน่ ๆ
มีเขาอยู่ รัชทายาทจะสามารถฝึกฝนประสบการณ์ได้อย่างสบายใจ แต่เมื่อไหร่ที่ต้องขึ้นมากุมอำนาจ นั่นแหล่ะถึงจะเป็นประสบการณ์อย่างแท้จริง
เขาครุ่นคิดอยู่นาน แต่เห็นว่าเจ้าหยวนยังไม่กลับห้อง จึงสอบถามดู ถึงรู้ว่านางกำลังทำงานยุ่ง ๆ อยู่ในห้องหนังสือเล็ก
เขารู้ว่านางกำลังยุ่งอยู่กับงานอะไร ตอนที่กลับมา นางบอกว่ายาที่พัฒนาขึ้นใหม่ตัวหนึ่งได้เริ่มทำการทดสอบแล้ว ส่วนยาที่เคยทดสอบก่อนหน้านี้ก็เริ่มออกสู่ท้องตลาดแล้วด้วย นางจึงนำข้อมูลมากมายมหาศาลเหล่านั้นกลับมาอ่าน
พอคิดได้เช่นนี้ จึงทำให้ความคิดเรื่องการกระจายอำนาจของเขายิ่งแน่วแน่มากขึ้น เพราะมีเพียงการกระจายอำนาจเท่านั้น ที่มันจะทำให้เจ้าหยวนได้ทำในสิ่งที่นางต้องการได้
เจ้าหยวนยอมสละอาชีพที่นางรักเพื่อเขามาโดยตลอด แต่นางเป็นคนที่ทั้งฉลาดและมีความสามารถขนาดนี้แท้ ๆ ตามเหตุผลแล้วนางควรได้ยืนอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม
เมื่อก่อนได้แต่วิ่งไปวิ่งมาทั้งสองด้านเสมอ ๆ ช่วงเวลาที่จากไปก็จะทิ้งห่างกันนานมากไม่ได้ ต้องรีบไปรีบกลับ ช่างลำบากนางเหลือเกินแล้ว
ถ้าทุกครั้งที่กลับไป นางสามารถอยู่ที่นั่นได้นานขึ้นอีกหน่อย ก็อาจมีโอกาสที่นางจะประสบความสำเร็จได้มากกว่านี้ก็ได้
ค่ำคืนนี้เย็นเยียบราวกับสายน้ำ เขานั่งอยู่ใต้เฉลียง มองดูเงาจันทร์ที่บิดเบี้ยวโค้งงอ โดยมีมู่หรูกงกงนั่งสัปหงกอยู่อีกด้าน
"มู่หรู ถ้าง่วงก็กลับไปนอนเถอะ เจ้าไม่จำเป็นต้องอยู่เฝ้าที่นี่หรอก" หยู่เหวินเห้ากล่าว
มู่หรูกงกงกลับมานั่งตัวตรงทันที "อายุมากแล้ว ไม่ง่วงพ่ะย่ะค่ะ นอนได้ไม่นานเท่าไหร่"
“ยังจะบอกว่าไม่ง่วงอีกรึ? แค่เปลือกตาเจ้าก็แทบจะยกไม่ขึ้นอยู่แล้ว”
"ไม่ง่วงพ่ะย่ะค่ะ แค่หลับตาพักสมองเฉย ๆ " มู่หรูกงกงฝืนเลิกคิ้วจนสูง ง่วงจนหนังตาปรือซ้อนกันเป็นสามชั้น
หยู่เหวินห่าวเห็นว่าเขาเอาแต่พูดว่าเแก่ แต่ปฏิเสธที่จะยอมรับความแก่มาโดยตลอด ในใจก็พลันเกิดความคิดอย่างหนึ่งขึ้นมา เอ่ยถามว่า "มู่หรู อยากเกษียณหรือไม่?"
"เกษียณ? ทำไมต้องรีบร้อนล่ะพ่ะย่ะค่ะ? คนเราพอตายไปก็ได้เกษียณเป็นธรรมดา ถึงตอนนั้นค่อยเกษียณก็ได้"
“เจ้าอยู่ในวังมาทั้งชีวิต ไม่คิดว่ามันน่าเบื่อหรอกหรือ?”
“ข้าน้อยจะไปที่ไหนได้? ข้าน้อยได้อยู่รับใช้ข้างกายพระองค์ก็สบายใจยิ่งแล้ว”
“แล้วถ้าข้าต้องไปที่อื่นล่ะ?”
มู่หรูกงกงพยายามอย่างเต็มที่ที่จะฝืนเปิดเปลือกตาขึ้นมองเขา "ไปที่อื่น? ก็คือสถานที่ที่ท่านไปทุกครั้งนั่นน่ะหรือพ่ะย่ะค่ะ? บ้านเดิมที่แท้จริงของฮองเฮา?"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน
สองขาของหยู่เหวินเห้าก็คดงอคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิดว่า “ลูกยินดียอมรับโทษทัณฑ์ที่เหลือของเสด็จพ่อ ชอบข้อความบทนี้ตลกดีคะพระเอก ตอน 394...
1...
1...
เพิ่งอ่านได้ 2ร้อยกว่าหน้า สนุกน่าติดตามมาก แต่ทั้งเรื่องมี2พันกว่าหน้า ทำไงจะอ่านจบ...
ขอบคุณผู้แต่ง และ novelones มากๆค่ะ ดีที่สุด อ่านรอบที่ 4 แล้วก็ยังสนุกครบรส ❤️...
เรื่องนี้ถือว่าสมบูรณ์มากสนุกต้นถึงจบ อยากให้เป็นซีรี่ย์...
สนุก ตลกดี เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่คำผิดเยอะไปหน่อยค่ะ...