บัลลังก์หมอยาเซียน นิยาย บท 22

บทที่ 22 นางในเจ้าเล่ห์

หยู่เหวินเห้าพบกลับไปถึงจวน ยิ่งคิดก็ยิ่งผิดปกติ

เขาเห็นนางใช้เข็มฝังเข้าร่างกายเสด็จปู่ ไม่รู้ว่าฝังอะไรเข้าไป คือยาพิษหรืออย่างอื่น ไม่รู้จริงๆ

แม้ว่าเสด็จปู่มีอาการดีขึ้น แต่ทว่า พิษนั่นจะทำให้พระองค์ทรงเสียสติ และอาจมีผลข้างเคียงต่างๆตามมา หรือสูญเสียการควบคุมตัวเองไป

เดิมทีหยวนชิงหลิงไม่รู้จักอะไรแบบนี้เลยด้วยซ้ำ เว้นแต่มีใครบางคนที่สอนนาง?

หรือเป็นพ่อของนางเจ้าพระยาจิ้ง?

เขาเองก็ไม่ได้มีความกล้าขนานนั้น เจ้าพระยาจิ้งเป็นเพียงขุนนางเล็กๆคนหนึ่ง

หยู่เหวินเห้าคิดถึงไปไกลกว่านั้น หยวนชิงหลิงอยากได้รับการแต่งตั้งพระชายา นางจึงยอมทำทุกอย่าง เพื่อจะได้สุขสบาย นางจะเป็นผู้ยุยงอยู่เบื้องหลัง

และเบี่ยงเบนความสนใจ

ยิ่งเขาคิดมากเท่าไหร่ก็ยิ่งก็ยิ่งรู้สึกไม่สบายใจมากขึ้นเท่านั้น เขาสั่งให้ทังหยางไปเรียกลู่หยาและแม่นมฉีมาที่นี่

นางทั้งสองเป็นสาวรับใช้ของหยวนชิงหลิง ช่วงนี้นางมีอะไรที่ดูแปลกไป สิ่งเหล่านี้ย่อมปิดแม่นมฉีไม่ได้

เดิมทีลู่หยาเข้าวังไปพร้อมกับหยวนชิงหลิง แต่ในภายหลังทราบข่าวว่าหยวนชิงหลิงต้องอยู่ที่พระตำหนักฉินคุน นางกลับมาแจ้งข่าวให้แม่นมฉี พอแม่นมฉีรู้ดังนั้นก็ตกใจอยู่ไม่น้อย

เมื่อมีรับสั่งจากท่านอ๋อง นางทั้งคู่รีบเข้าเฝ้าทันที

“ท่านอ๋อง!” เข้าไปยังหอสมุด ทั้งคู่รีบคารวะทันที

หยู่เหวินเห้าจ้องไปที่แม่นมฉี ท่านอ๋องนึกขึ้นได้ว่านางมีหลานชาย จึงถามไปว่า“หกเกอเอ๋อสบายดีไหม?”

“ขอบพระทัยในความเมตตาของท่านอ๋อง หกเกอเอ๋อสบายดีเพค่ะ ”

หยู่เหวินเห้ารู้สึกแปลกใจอยู่ไม่น้อย “ดูเหมือนว่า ทักษะทางการแพทย์ของหมอลี่ใช้ได้เลย ”

“ ใช่……………ใช่เพคะ!” แม่นมฉีลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วตอบรับไป

หยู่เหวินเห้าสังเกตกิริยาท่าทางของนาง และพลางกล่าวขึ้น “แม่นมฉีมีอะไรปิดบังข้าอยู่หรือเปล่า?”

แม่นมฉีผงะไปครู่หนึ่ง รีบตอบไปทันทีว่า “หามิได้เพคะ!”

“ข้ารู้ว่าเจ้าเคยดูแลปรนนิบัติอยู่เคียงข้างข้ามาโดยตลอด และมีความจงรักภักดีต่อข้า เจ้าคงไม่คิด ปิดบังเรื่องอะไรข้าอยู่แล้ว”

หยู่เหวินเห้ากล่าวด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นราวกับน้ำแข็งก็ไม่ปาน ใบหน้าเย็นชา

แม่นมฉีใจข้อไม่ดีรู้ได้ทันทีว่าพระองค์ไม่พอพระทัย นางจึงรีบคุกเข่าลง “ข้าน้อยสมควรตาย ข้าน้อยไม่มีสิ่งใดปิดบังพระองค์จริงๆเพคะ”

หยู่เหวินเห้าจ้องตาวาววับ “ รีบบอกข้ามา!”

แม่นมฉีทำอะไรไม่ถูก “จึงรีบพูดตามคำรับสั่งของท่านอ๋อง อันที่จริงแล้วหกเกอเอ๋ออาการดีขึ้นไม่ใช่หมอลี่เป็นคนรักษา แต่คือพระชายาเป็นคนรักษาเพคะ นางได้สั่งข้าน้อยว่าห้ามเปิดเผยเรื่องนี้ให้ใครรับรู้”

ทังหยางที่อยู่ตรงนั้นพูดขึ้นอย่างแปลกใจ “พระชายา?ไม่รู้มาก่อนเลยว่าพระชายามีทักษะทางการแพทย์ ในตอนนั้นพระชายายังใช้มีดเป็นอุปกรณ์รักษา

หกเกอเอ๋อด้วย ด้วยเหตุนี้พระชายาถูกโบยสามสิบไม้เพราะท่านอ๋องมีรับสั่งลงโทษนาง”

แม่นมฉีได้เล่าเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นในคืนวันนั้นและเรื่องที่หกเกอเอ๋อได้บอกนาง ด้วยน้ำเสียงสั่นเครือเจือสะอื้น “เป็นความผิดข้าน้อยเองที่มองพระชายาผิดไป”

หยู่เหวินเห้าและทังหยางเมื่อรู้เช่นนั้น ในแววตาของพวกเขาแสดงถึงความตกใจ

“ข้าจะถามเจ้าอีกเรื่อง เหมือนเคยเห็นว่านางมีหีบอะไรบางอย่าง?หีบนั่น…………” หยู่เหวินเห้าเองก็งุนงงอยู่ไม่น้อย ในตอนนั้นที่เข้าไปในเต็นท์ทหาร นางไม่ได้นำหีบมาด้วย แต่พอเข้าไปที่นั่น หีบนั่นมาจากไหนที่ใดกัน ในภายหลังข้าพบกับนางในตำหนักด้านข้าง หีบนั่นหายไป

“มีหีบใบหนึ่ง!” ลู่หยารีบตอบไปทันที “หีบใบนั่นเต็มไปด้วยยาสมุนไพร มีเพียงยาสมุนไพร ข้าน้อยก็ไม่เคยเห็นยาเหล่านั้นมาก่อน หีบนั่นก็เช่นกันข้าน้อยเองไม่เคยเห็นมาก่อน”

หยู่เหวินเห้าถามต่ออีก “ช่วงนี้มีคนแปลกหน้ามาพบนางบ้างไหม?หรือนางได้ออกไปพบใครบ้าง?”

แม่นมฉีส่ายหัวเบาๆ “ตั้งแต่พระชายาแต่งออกไปไปแล้ว ก็ไม่ค่อยมีใครมาหา หลายเดือนมานี้นางก็ไม่ได้กลับบ้าน”

ทังหยางเอ่ยขึ้น อันที่จริงพระชายาก็ดูแปลกไป พระชายา จะจดบันทึกเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น ข้าน้อยเห็นพระชายากลับบ้านก็คือช่วงสามเดือนก่อน กลับไปได้เพียงครึ่งเดือนข้าน้อยเห็นพระชายาอารมณ์เสียกลับมา”

แม่นมฉีรู้สึกว่าตัวเองทรยศต่อหยวนชิงหลิง สิ่งนี้ทำให้รู้สึกผิดต่อหยวนชิงหลิงมาก นางคิดถึงเหตุการณ์หลังจากนี้ที่พระชายาต้องเจอนางเองก็วิตกกังวลอยู่ไม่น้อย

และกล่าวว่า “หลังจากที่พระชายาถูกโบย นางก็ไม่ได้ออกไปไหนอีกเลย ท่านอ๋องรับสั่งให้บ่าวในจวนไม่ต้องไปดูแลนาง ฉะนั้น นางต้องจัดการกับอาการบาดเจ็บของตัวเอง ก่อนที่นางจะดื่มน้ำจื่อจิน นางมีไข้ขึ้นสูง ตอนนี้แน่นอนว่ายาที่นางได้ดื่มไปคงจะไม่ได้ช่วยบรรเทาอาการเจ็บนั่น ไม่รู้ว่าตอนนี้นางอยู่ในวัง จะทนพิษบาดแผลไหวไหม”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน