บัลลังก์หมอยาเซียน นิยาย บท 232

สรุปบท บทที่ 232 วิ่งไปหลายที่: บัลลังก์หมอยาเซียน

ตอน บทที่ 232 วิ่งไปหลายที่ จาก บัลลังก์หมอยาเซียน – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 232 วิ่งไปหลายที่ คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายนิยาย จีน บัลลังก์หมอยาเซียน ที่เขียนโดย ลิ่วเยว่ เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

หยู่เหวินเห้าอึ้งไปเลย ครู่ใหญ่จึงได้สติกลับคืนมา “แม่งเอ๊ยเจ้าพูดอะไรของเจ้า? ข้าให้เจ้ารับโทษแทนอะไร?”

กู้ซือกล่าวอย่างเย็นชา “หากไม่ใช่เพราะพระชายามีครรภ์ จนข้าเกรงว่านางจะสะเทือนใจจนทำให้กระทบถึงสองชีวิต แล้วข้าจะรับโทษแทนผู้ชายสารเลวอย่างเจ้าทำไม?”

เขากระชากคอเสื้อของหยู่เหวินเห้าเอาไว้ ดึงตัวเขาลงมา พ่นเลือดในปากใส่หน้าของเขา กล่าวอย่างดุร้าย “ถุย หยู่เหวินเห้าเจ้ามันบ้าไปแล้วใช่มั้ย? ต่อให้เจ้าจะทนไม่ไหว ทำไมถึงไม่คิดเลยว่าสนมซูนั้นเป็นผู้หญิงของเสด็จพ่อเจ้า เจ้ามีหัวกี่หัวที่จะมาถูกตัดเหรอ? เจ้ามันไร้มนุษยธรรม องค์ชายแปดเห็นเรื่องชั่วๆของเจ้า เจ้าก็ลงมือฆ่าเขา เขาเป็นน้องชายของเจ้า เจ้าบ้าไปแล้วใช่มั้ย?”

หยู่เหวินเห้าใช้มือกุมปากของเขาเอาไว้ กู้ซือกัดไปที่มือของเขา หยู่เหวินเห้าโมโหจนชกเข้าไป กู้ซือก็ได้โต้กลับมาหนึ่งหมัด หยู่เหวินเห้ายกโต๊ะขึ้นมาเพื่อจะโยนมันออกไป เห็นใบหน้ากู้ซือเต็มไปด้วยเลือด เขาก็ทำไม่ลง แต่โต๊ะได้ถูกยกขึ้นมาแล้ว จะวางมันลงแบบนี้มันก็รู้สึกเสียหน้า ก็เลยโยนกระแทกโต๊ะไปด้านข้างอย่างแรง โต๊ะนั้นได้แตกกระจายทันที ขาโต๊ะกระเด็นขึ้นมา มาโดนที่หัวของเขา เจ็บจนเขาต้องกุมหัวแล้วนั่งลงไป ใช้เวลานานกว่าจะอดทนกลั้นน้ำตาที่กำลังจะไหลออกมาได้

กู้ซือกล่าวอย่างเย็นชา “สมน้ำหน้า!”

ขณะที่หยู่เหวินเห้ากำลังนวดหัวก็ได้ลุกขึ้นมา จ้องมองเขา “เจ้ารู้จักข้านานแค่ไหนแล้ว?”

“ตั้งแต่เจ้ายังไม่ใส่กางเกง” กู้ซือกล่าวอย่างเฉยเมย

“ดังนั้น ในสายตาเจ้าข้าเป็นคนอย่างนั้น?” หยู่เหวินเห้าเกือบจะคลั่ง

“เมื่อก่อนไม่ใช่ แต่ใครจะไปรู้ว่าเจ้านั้นถูกความงามทำให้หลงใหลหรือเปล่า?” กู้ซือกล่าวอย่างเคืองๆ

“ในเมื่อข้าเป็นคนแบบนั้น เจ้ายังจะรับโทษแทนข้าทำไม?” เบ้าตาของหยู่เหวินเห้ารู้สึกร้อนขึ้นมาหน่อย ใจก็อ่อนลง จ้องมองคนไร้สมองที่อยู่ตรงหน้า ช่างโง่เหลือเกิน

กู้ซือกล่าวอย่างเอะอะโวยวาย “ข้าไม่ใช่เพราะเห็นแก่ท่านป้าหรอกเหรอ? หากนางเกิดเรื่อง ผิงกั่วน้อยต้องร้องไห้เสียใจอย่างมาก”

“ผิงกั่วน้อยคือผีห่าอะไรอีก?” หยู่เหวินเห้าขมวดคิ้ว

“เจ้าสิเป็นผี” กู้ซือทำหน้ายักษ์ใส่เขา โมโหจนอยากจะกัดเขา

หยู่เหวินเห้านั่งลงบนเก้าอี้ “เจ้าเห็นกับตาว่าข้าเป็นคนลงมือฆ่าเจ้าแปดรึ?”

“ข้าเห็นเจ้าทิ้งกระบี่แล้วพาสนมซูหนีออกไป” กู้ซือกล่าว

“แต่ข้านั้นเดินเข้ามาจากประตูด้านนอก” หยู่เหวินเห้าได้ยินเสียงร้องที่เจ็บปวดก็รีบเข้ามาเลย วิ่งมาจากด้านนอกตำหนัก ด้วยฝีเท้าที่เร็ว “ข้าจะสามารถทิ้งกระบี่แล้วหนีไปก่อนแล้วค่อยย้อนกลับเข้ามาจากทางประตูตำหนักอีกเหรอ?”

“เจ้าใช้วิชาตัวเบาไง!” ตอนนี้กู้ซือรู้สึกว่าถึงความผิดปกติบ้างแล้ว ตอนนั้นเรื่องเกิดขึ้นกะทันหัน หยู่เหวินเห้าที่อยู่ในใจของเขาก็กลับตลับปัดกันไปหมด ความตกใจนี้ มันเพียงพอที่จะทำให้คนฉลาดอย่างเขากลายเป็นคนปัญญาอ่อนทันที

“ข้าใช้วิชาตัวเบาวนรอบตำหนักหมิงหัว และองครักษ์ก็ยังมองไม่เห็น?” หยู่เหวินเห้าถามต่อ

กู้ซือมองเขา “ไม่ใช่เจ้าจริงๆด้วย?”

หยู่เหวินเห้าหยิบขาโต๊ะที่ตัวเองทำหักเมื่อกี้ เคาะไปที่หัวของเขาหนึ่งที “ใช้หัวแม่ตีนของเจ้าคิดยังรู้เลยว่าไม่มีทางจะเป็นข้า”

กู้ซือปัดมือเขาทิ้งทันที ถอนหายใจยาวๆ มองหยู่เหวินเห้าอย่างไม่มีทางเลือกหมดหนทาง “แล้วจะทำยังไง? ข้ายอมรับผิดต่อหน้าพระพักตร์แล้ว”

หยู่เหวินเห้ากล่าวประชดประชัน “จะเอาไงได้? จะประหาร จะห้าม้าแยกศพ มากสุดอนาคตหากเจอกันในยมโลก ก็แค่ทำเป็นไม่รู้จักก็พอแล้ว อย่างไรเสียเจ้าโง่เสียขนาดนี้ รู้จักเจ้ายังรู้สึกอายเลย”

กู้ซือทำปากอย่างไม่พอใจ กลืนน้ำลายไปหนึ่งที “คิดหาทางสิ”

หยู่เหวินเห้าถาม “เจ้าเห็นคนผู้นั้นที่หันหลังจากไป คนที่เขาพาไปด้วยคือสนมซูเหรอ?”

หยู่เหวินเห้านั้นคิดไม่ตกเลยจริงๆ

“ช่างเถอะ เจ้าก็อยู่ที่นี่ไปก่อน เรื่องกินดื่มไม่ต้องห่วง” หยู่เหวินเห้าพูดจบ ก็หันกายจากไป

กู้ซือตบหัวของตัวเองอย่างเต็มแรง ไปทั้งหมดสามที แล้วเงยหน้าตะโกน สวรรค์ แม่ธรณี ทำไมต้องให้ข้าพบเจอกับเรื่องนี้ด้วย?

หยู่เหวินเห้าไปที่จวนเจ้าพระยาไปหาพ่อของกู้ซือ พ่อของกู้ซือทราบเรื่องนี้แล้ว กำลังร้อนใจที่จะเข้าวัง แต่เมื่อได้ยินว่าองค์ชายแปดเป็นตายยังไม่รู้ เขาก็ไม่กล้าที่จะเข้าวังไปขอร้องอ้อนวอนในเวลาเช่นนี้ เกรงว่าจะทำให้พระองค์เกรี้ยว ก็จะหมดหนทางช่วยไอ้ลูกดื้อ

หยู่เหวินเห้าเจอกับท่านเจ้าพระยากู้ ก็ไม่กล้าที่จะพูดเรื่องให้มันชัดเจนมากนัก พูดเพียงว่ากู้ซือยอมรับว่าฆ่าคน นอกจากนั้นก็ไม่ยอมพูดแม้แต่คำเดียว

ท่านเจ้าพระยากู้โมโหจนทุบโต๊ะ กล่าวอย่างโกรธเคือง “ไอ้ลูกดื้อ ไอ้ลูกดื้อ ข้าจะฆ่ามันให้ตาย เพื่อไม่ให้ขายหน้าของบรรพชน ทำให้วงศ์ตระกูลได้รับความเสียหาย”

หยู่เหวินเห้ากล่อมอย่างใจเย็นมีเมตตา “ท่านเจ้าพระยา กู้ซือกับข้าเป็นเพื่อนรักกันมาหลายปี ข้านั้นเชื่อในตัวเขา เขาไม่มีทางที่จะทำร้ายน้องแปด เรื่องนี้ต้องมีเงื่อนงำ ดูเหมือนเขากำลังปิดบังอะไรอยู่ ยังรอให้ข้าไปสืบข้อเท็จจริงของเรื่องนี้ แต่ว่าบัดนี้ฮ่องเต้ทรงเกรี้ยวมาก ยังต้องให้ท่านเจ้าพระยาเข้าวังไปขอร้อง เพื่อช่วยข้ายืดเวลาไปสักสองวัน คิดว่าความจริงก็น่าจะกระจ่างออกมา”

ท่านเจ้าพระยาได้ฟัง ทันใดนั้นก็รู้สึกว่าอ๋องฉู่นั้นเป็นคนที่มีคุณธรรม เชื่อใจไอ้ลูกดื้อของเขาอย่างไม่มีเหตุผล ในทางตรงกันข้ามคนที่เป็นพ่ออย่างเขา กลับไม่คิดว่าเรื่องมันจะมีเงื่อนงำ

ความโกรธของเขาเริ่มหายไป คิดถึงลูกดื้อคนนี้แม้จะเลอะเลือนบ้าง แต่ก็ไม่ถึงขนาดที่จะทำเรื่องที่ไร้คุณธรรมเช่นนี้ ต้องเอาอ๋องฉู่เป็นเยี่ยงอย่าง

เขายกมือคารวะ “ท่านอ๋อง หากสามารถลบล้างความผิดของไอ้ลูกดื้อคนนี้ ข้าก็เป็นหนี้บุญคุณท่านแล้ว”

หยู่เหวินเห้ากล่าวด้วยความชอบธรรม “กู้ซือเป็นเพื่อนรักของข้า เราโตมาด้วยกัน มิตรภาพนั้นไม่ธรรมดา ท่านเจ้าพระยาพูดเหมือนคนนอกไปแล้ว”

ตี........กู้ซือให้ตายก็ไม่สามารถที่จะให้ท่านเจ้าพระยารู้ว่ากู้ซือนั้นคิดว่าเขาเป็นฆาตกร ดังนั้นจึงใช้หัวตัวเองรับผิดแทนเขา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน