บัลลังก์หมอยาเซียน นิยาย บท 252

หยู่เหวินเห้าไม่มีคำโต้แย้ง แต่ถึงอย่างไรเขาก็ยังรู้สึกไม่วางใจ ต่อให้หยวนชิงหลิงจะสวมชุดเกราะออกไปทุกวัน เขาก็ยังรู้สึกไม่วางใจอยู่ดี

เขาคิดอยู่ครู่หนึ่ง “หรือข้าจะเข้าวังไปเข้าเฝ้าไท่ซ่างหวง แล้วขอยืมองครักษ์ลับผีสักสองคนมาคุ้มครองเจ้าอย่างลับๆ”

หยวนชิงหลิงหัวเราะ “ต้องขนาดนั้นเชียวรึ?”

“ต้องขนาดนั้น!” หยู่เหวินเห้าเอ่ยอย่างจริงจัง

หยวนชิงหลิงยักไหล่ “เจ้าชอบล่ะสิ”

นางมั่นใจในตัวอาซี่มาก และที่สำคัญ ไม่ใช่ว่ายังมีสวีอีด้วยอีกคนรึ?

หยู่เหวินเห้ากลับไม่มีความมั่นใจในตัวอาซี่ กับสวีอีเลยแม้แต่น้อย เพราะพวกเขาทั้งคู่ล้วนเป็นคนประเภทเดียวกัน ประมาทเลินเล่อ ไม่ค่อยระมัดระวัง เชื่อใจคนง่าย และง่ายต่อการถูกคนอื่นล่อลวงให้ติดกับ

แต่องครักษ์ลับผีนั้นแตกต่างไป

ทั้งสองล้มตัวลงนอน ฝ่ามือใหญ่ของหยู่เหวินเห้าแตะที่หน้าท้องของนาง ถามด้วยความสงสัย: “เจ้าว่าเขากำลังทำอะไรอยู่ข้างในนี้กันนะ?”

“นอน!” หยวนชิงหลิงกล่าว

“คุยกันสักพักก่อนค่อยนอนก็ได้นี่นา” หยู่เหวินเห้าพูดอย่างไม่พอใจ “เจ้าง่วงมากเลยหรือ?”

หลังจากนี้ไป เขาจะถูกทิ้งร้างห่างไกลไปชั่วเวลาหนึ่ง ขอคุยให้หายอยากเสียหน่อยก็ไม่ได้รึ?

หยวนชิงหลิงเอียงตัวมามองเขา ริมฝีปากยกสูง "ข้าบอกว่า ลูกอาจจะนอนอยู่ข้างใน"

หยู่เหวินเห้าร้อง โอ้ ด้วยสีหน้าไร้เดียงสา "ที่จริงเขาอยู่ในนั้นก็ค่อนข้างน่าเบื่อนะ ทำอะไรก็ไม่ได้เลย"

“เขาจะไม่รู้สึกเบื่อหรอก” หยวนชิงหลิงมองดูเขาอย่างระแวดระวัง เห็นท่าทางตีปีกชูหางแบบนี้ ก็รู้แล้วว่าเขาต้องการจะทำอะไร

หยู่เหวินเห้าบ่นพึมพำ “เมื่อไหร่ถึงจะเข้าไปเยี่ยมเขาได้บ้างนะ?”

หยวนชิงหลิงดึงมือใหญ่ที่วางอยู่บนหน้าอกลงมา "รอให้เขาเกิดมา เจ้าก็จะได้เห็นเขาแล้ว อีกทั้งตรงนั้นของเจ้าก็ไม่มีตาสักหน่อย ต่อไม่อยากเห็นก็มองไม่เห็นหรอก"

เขากอดร่างกายนุ่มนิ่มขาวผ่องของนาง พลางถอนหายใจเบา ๆ : "ช่างเป็นวันที่ขมขื่นเสียจริง"

“ข้ายังไม่บ่นเลย เจ้าจะบ่นไปทำไมกัน”

ริมฝีปากของหยู่เหวินเห้า พรมจูบที่ตามแก้มขาวผ่องของนาง พูดอย่างแผ่วเบา: “ข้าเองก็ไม่มีวิธีรับความลำบากนี้แทนเจ้าได้จริงๆ เฮ้อ ยังต้องทนต่อไปอีกหลายเดือนเลยสินะ”

“ที่จริงแล้ว ในใจของเจ้ามีความสุขหรือไม่?” หยวนชิงหลิงถามพลางมองคิ้วหนา ๆ ของเขา

หยู่เหวินเห้าครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพูดว่า: "มีความสุข ตอนแรกข้ามีความสุขมาก แต่เมื่อค่อยๆ ตระหนักว่ามีคนอื่นที่มีความสุขมากกว่าเรา ข้าก็รู้สึกไม่สบายใจขึ้นมา ราวกับว่าเจ้าต้องเหนื่อยยากทำงานหนักขนาดนี้ ก็เพื่อทำให้ผู้อื่นมีความสุข อีกทั้งข้าก็กลัวว่า เมื่อลูกเกิดมาแล้วจะไม่เป็นที่รักใคร่ของใครๆ เพราะมีโอกาสเกินครึ่งที่อาจจะเป็นเด็กผู้หญิง"

ที่จริงหยวนชิงหลิงเองก็รู้สึกแบบนั้นเช่นกัน

ตั้งแต่นางตั้งท้องมา ก็ได้รับความสนใจจากทุกทิศทุกทาง บรรดาผู้คนในวังที่เดิมทีไม่ชอบนาง เช่น ฮองเฮาและเสียนเฟย ต่างก็แสดงความรักต่อนางอย่างล้นเหลือ ทุกคนต่างจับจ้องมองเขม็งมาที่ท้องของนาง มีคนมากมายตั้งตารอ ต่างคาดหวังว่านางจะได้ลูกชาย ซึ่งนางสามารถจินตนาการได้เลยว่า ถ้านางคลอดลูกสาวออกมา จะมีสักกี่คนที่รู้สึกผิดหวัง?

“แล้วเจ้าล่ะ หากเจ้าไม่สนใจสายตาของทุกคนรอบตัว เจ้าอยากได้ลูกสาวหรือว่าลูกชาย? ข้าอยากฟังความจริงจากปากเจ้า ไม่ใช่คำพูดโกหกให้ข้าดีใจ”

“ไม่ใช่ว่าถามมาหมดแล้วหรอกรึ?”

“เจ้าก็ถามข้าทุกวันว่าข้ากินข้าวแล้วหรือไม่ ข้าก็ตอบเจ้าทุกครั้งนี่” นางหนุนอยู่บนแขนของเขา ที่ชุดของเขาไม่มีเครื่องหอม แต่ตัวคนทั้งตัวก็ยังหอมมากอย่างไม่น่าเชื่อ

นางชอบความรู้สึกของคนสองคน ที่นอนอยู่เคียงข้างกันอย่างใกล้ชิด มันเป็นอะไรที่สนิทสนม มั่นคงสงบนิ่ง ได้ยินเสียงลมหายใจของเขาดังก้องในหู นางสามารถสัมผัสโดนริมฝีปากและตาของเขาได้ ขอแค่นางเอียงศีรษะเข้าไป

“ข้าหวังว่าจะเป็นลูกชาย แต่ข้าชอบลูกสาว” หยู่เหวินเห้าครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง

หยวนชิงหลิงถามว่า: "ในเมื่อชอบลูกสาว ทำไมถึงอยากให้เป็นลูกชาย?"

หยู่เหวินเห้ากล่าวว่า “เจ้าลองคิดตามนะ ไม่ว่าจะเป็นข้าราชการในวังหรือในราชสำนัก พวกเขาต่างก็หวังให้เจ้ามีบุตรชายสักคนหนึ่ง เพื่อพวกเขาจะได้เก็บไฟแห่งความหวังทั้งหลายในใจ ไปฝากไว้ที่ตัวลูกชายได้ แต่หากเมื่อไหร่ที่เจ้ามีลูกสาว เจ้าจะต้องทนต่อคำปรามาสจากทุกฝ่าย ความไม่พอใจนำมาซึ่งความผิดหวัง แต่ข้าชอบลูกสาวจากใจจริงมากๆ อีกทั้งลูกสาวข้าจะต้องเป็นเหมือนเจ้า อ่อนโยนและงดงามราวกับหยก ฉลาดหลักแหลมเหนือใคร”

หยวนชิงหลิงพูดว่า "เจ้าเป็นคนที่ช่างคิดอ่านได้รอบคอบนัก"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน