บัลลังก์หมอยาเซียน นิยาย บท 264

หยวนชิงหลิงตอนนี้ ไม่มีแก่ใจจะไปนินทาเรื่องของจวนอ๋องฉีสักเท่าไร

ก่อนหน้านี้ ที่พระชายาฉีก่อเรื่องจนเกิดความวุ่นวายไปฉากหนึ่ง อาซี่ก็กลับมาเล่าให้นางฟังแล้ว หลังจากได้ฟัง นางถึงขั้นเกิดความรู้สึกเบื่อหน่ายจนถึงขีดสุด

ตั้งแต่เริ่มแรก นางประเมินฉู่หมิงชุ่ยคนนี้สูงเกินไปจริง ๆ เดิมทีคิดว่าความทะเยอทะยาน กับความแข็งแกร่งของนาง มันจะไปด้วยกันได้ แต่คิดไม่ถึงว่าสมองของนาง จะตามความทะเยอทะยานของนางไม่ทัน สุดท้ายก็จบลง ด้วยการไปต่อสู้ปะทะกันเองกับชายารองในจวน

“แต่ข้าได้ยินมาว่า น้องเจ็ดกับชายารองหยวนยังไม่ได้เข้าหอกันเลยนะ” พระชายาซุนพูดขึ้น

หยวนชิงหลิงเปลี่ยนเรื่อง ไปคุยเกี่ยวกับเรื่องในวังกับพระชายาซุนแทน จากนั้นพระชายาซุนก็ขอตัวลากลับไป

การสนทนากับพระชายาซุนในวันนี้ ทำให้นางนึกกังวลนิดหน่อย เกี่ยวกับเรื่องที่ว่าฉู่หมิงหยางก็แอบชอบหยู่เหวินเห้าด้วยเช่นกัน

ดังนั้นเมื่อหยู่เหวินเห้ากลับมากินมื้อเย็นที่จวน นางจึงถามว่า "ฉู่หมิงหยางชอบเจ้าใช่หรือไม่?"

หยู่เหวินเห้าค่อย ๆ วางชามลงและเงยหน้าขึ้นมองนาง " เจ้าไปได้ยินเรื่องเหลวไหลเช่นนี้มาจากไหนกัน?"

หยวนชิงหลิงมองเขา “ การแสร้งทำเป็นสงบนิ่ง ไม่สามารถซ่อนความยุ่งเหยิงภายในจิตใจของเจ้าได้ เจ้ารู้หรือไม่?”

“ไม่รู้หรอก แล้วก็เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ด้วย เจ้าคงคิดมากเกินไประหว่างตั้งครรภ์มากกว่า” หยู่เหวินเห้าหยิบชามข้าวขึ้นมาแล้วเริ่มกินต่อไป ใครรู้? เขาไม่รู้เสียหน่อย มีใครปากยื่นปากยาว เล่าอะไรให้เกิดความร้าวฉานอีกแล้วล่ะ?

“พระชายาซุนเล่าให้ข้าฟัง บอกว่ามีหลายคนที่รู้ แต่ทุกคนแค่ไม่พูดออกมาก็เท่านั้น”

ไม่มีเรื่องไหนของสามีที่ปิดภรรยาได้โดยแท้ หยวนชิงหลิงพบว่า ดวงตาของเขาเบิกโพลงตั้งตรงชนิดไม่กล้าเหลียวซ้ายแลขวา กระทั่งไม่กล้าแสดงสีหน้าอารมณ์ใด ๆ แค่ทำตัวสงบนิ่งเหมือนน้ำก้นสระในจวนก็เท่านั้น

นี่คืออาการของคนร้อนตัว!

นางวางชามลง “ต่อให้มันเป็นเรื่องจริง เรื่องนี้ข้าก็ไม่โทษเจ้าหรอก ข้าก็แค่อยากรู้เฉยๆ”

ดวงตาของหยู่เหวินเห้าผ่อนคลายลงเล็กน้อย "ที่จริงเรื่องนี้ก็โทษข้าไม่ได้จริง ๆ นั่นล่ะ ข้าไม่สามารถไปควบคุมสิ่งที่นางคิดได้"

หยวนชิงหลิงขึ้นเสียงของนางสูงขึ้นไปอีกเล็กน้อย "สรุปว่ามันเป็นเรื่องจริงรึ?"

หยู่เหวินเห้าเริ่มตะกุกตะกัก “ได้ยินมาว่าเป็นความจริง”

“ได้ยินใครพูด?” หยวนชิงหลิงมองเขาอย่างเคร่งเครียด

“นั่น… ฉู่หมิงหยางเป็นคนพูดเอง”

หยวนชิงหลิงตบตะเกียบลงบนโต๊ะอย่างแรง แล้วแผดเสียงแหวดังลั่นว่า "นางเคยมาสารภาพกับเจ้าแล้วด้วยรึ?"

หยู่เหวินเห้าวางตะเกียบลง พลางเหลือบมองนางอย่างน้อยเนื้อต่ำใจ “นี่มันก็ไม่ใช่ความผิดของข้าเช่นกันนะ”

“ที่แท้ก็เป็นเรื่องจริงรึนี่? โอ้ สวรรค์! เจ้าไม่เคยบอกข้าเลยสักคำ” หยวนชิงหลิงสูดหายใจเข้าลึก ๆ มองดูใบหน้าที่ยามนี้ดูน่าสงสารของเขา ก็ไม่อาจโกรธเขาจริง ๆ จัง ๆ ได้

หยู่เหวินเห้าอธิบายว่า: "ใครจะไปรู้ล่ะ ว่ามันเป็นเรื่องจริงหรือไม่ ? ตอนนั้นนางเป็นเพียงเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ข้าได้เจอนางในสวน นางมาหาข้า แล้วบอกข้าว่าอย่าแต่งกับฉู่หมิงชุ่ย ให้แต่งกับนาง นางเหมาะสมกับข้ามากกว่าฉู่หมิงชุ่ย แค่คำพูดที่เด็กคนหนึ่งพูดมา ใครจะไปเชื่อเป็นจริงเป็นจังกันล่ะ?"

“ตอนนั้นเด็กคนนี้อายุเท่าไหร่?” หยวนชิงหลิงระบายลมหายใจอย่างโล่งอก หากนางยังเด็ก ก็อาจกล่าวได้ว่า ไม่ใช่เพราะความรักแบบนั้น แต่อาจเป็นความรู้สึกชั่วครู่ทำนองนั้นมากกว่า

หยู่เหวินเห้าขมวดคิ้ว “ข้าจะรู้ได้อย่างไรว่านางอายุเท่าไหร่? มันเกิดขึ้นเมื่อราว ๆ ต้นปีที่แล้ว ในเวลานั้นเรื่องในจวนเจ้าหญิงยังไม่เกิดขึ้นเลยด้วยซ้ำ”

ลมโทสะเฮือกนั้น มีอันย้อนกลับมาอีกครั้ง ดวงตากลมโตเบิกกว้าง “เมื่อต้นปีที่แล้ว? นั่นเพิ่งจะผ่านไปแค่หนึ่งปีครึ่งเองน่ะสิ? นางอายุสิบสี่แล้วนะ หยู่เหวินเห้า! เจ้ายังจะแสร้งทำเป็นไร้เดียงสาอีกรึ ตอนนั้นนางบอกว่า นางอยากแต่งเป็นชายารองให้เจ้า เจ้ายังมีหน้ามาทำตกตะลึงไม่รู้เรื่องรู้ราวอยู่อีก”

หยู่เหวินเห้ารู้สึกน้อยใจจริง ๆ แล้วตอนนี้ "ก็ถ้าข้าบอกเจ้าว่านางมีความในใจต่อข้า เจ้าต้องโกรธแน่"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน