ผู้คนในห้องโถงต่างรู้สึกขนพองสยองเกล้า พระชายาซุนจึงรีบพูดกับอะซี่ว่า “อะซี่ เจ้ามีฝีมือศิลปะการต่อสู้ เจ้ารีบตามนางไป อย่าให้นางวางเพลิงได้”
เดิมทีอะซี่อยากจะอยู่ที่นี่เพื่อดูแลปกป้องหยวนชิงหลิง แต่ว่า ถ้าหากผู้หญิงคนนั้นวางเพลิงจริงๆ ถึงแม้จะมีการป้องกันอย่างใกล้ชิดมันก็อันตรายอยู่ดี นางจึงตอบรับแล้วตามออกไป
เดิมทีทหารจวนอ๋องซุนก็ไม่พออยู่แล้ว ตอนนี้พวกเขาล้วนออกไปช่วยดับเพลิงกันหมด คนในจวนที่เหลือล้วนไม่มีฝีมือการต่อสู้ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้น ผู้หญิงที่อยู่เต็มห้องก็จะตกอยู่ในอันตราย
ในใจของหยวนชิงหลิงเต้นตึกๆขึ้นมาทันที นางลุกขึ้นแล้วรีบเดินไปพูดกับอะซี่ว่า “เร็ว เรียกคนไปปิดประตูใหญ่ก่อน”
อะซี่เห็นถึงสายตาที่บ่งบอกถึงความอันตรายของนาง จึงรีบวิ่งออกไปปิดประตู
พระชายาซุนก็ลุกขึ้นยืนในทันที พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียดว่า “เกิดอะไรขึ้น?”
“มีคนหลายคนกำลังเดินมุ่งหน้ามาทางพวกเราอย่างรวดเร็ว” หยวนชิงหลิงพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น หูของนางรับรู้เร็วมาก สามารถได้ยินเสียงฝีเท้าที่ผิดปกติเหล่านี้
เจ้าหญิงและผู้หญิงที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างตกใจ พร้อมพูดขึ้นว่า “อะไร?”
พระชายาซุนพูดปลอบขึ้นว่า “ทุกคน ใจเย็นๆก่อน ข้าจะออกไปดู”
นางรีบเดินออกไป อะซี่ได้ปิดประตูใหญ่เรียบร้อยแล้ว และสั่งให้ลูกน้องปิดประตูหลังและประตูด้านข้างให้ดี
“อะซี่ รีบตามไปดูฉู่หมิงชุ่ย จับตาดูนางให้ดี ถ้าหากนางมีพฤติกรรมที่ออกนอกลู่นอกทางให้จับตัวนางไว้”
“ได้ ข้ารู้แล้ว” อะซี่รีบไปหาฉู่หมิงชุ่ยทันที
พระชายาซุนมองไปรอบๆด้วยความระแวดระวัง ในใจเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ถ้าหากว่าเกิดอะไรขึ้นกับแขกที่จวนอ๋องซุนขึ้นมา นางคงรับผิดชอบไม่ไหว
นางเรียกผู้ดูแลบ้านมาหา สั่งให้เขานำลูกน้องทั้งหมดมารวมตัวกันในห้องโถง
แขกที่มาในงานเลี้ยงล้วนเป็นคนในราชวงศ์หรือเครือญาติเหล่าขุนนาง ยังมีแขกบางคนที่รอจนถึงงานเลี้ยงตอนค่ำถึงค่อยมา
ดังนั้นตอนนี้มีคนประมาณ สามสิบคนมารวมตัวกันในห้องโถง ในจำนวนนั้นมีเด็กห้าคนอยู่ด้วย
ความปลอดภัยของคนเหล่านี้นางต้องรับผิดชอบ เมื่อคิดได้เช่นนี้ นางจึงสั่งให้คนสองสามคนคอยคุ้มกันที่ทางเข้าหลักเพื่อรักษาความปลอดภัย
เมื่อนางหันมามองก็เห็นผู้หญิงคนที่มากับอ๋องเว่ยเดินตามอยู่ด้านหลัง นางจึงพูดขึ้นอย่างหงุดหงิดว่า “เจ้าเข้าไปนั่งในห้องโถงเถอะ ข้าเกรงว่าหากเกิดอันตรายขึ้น ข้าไม่รู้ว่าจะพูดกับเจ้าสามยังไง”
กู้จือถามขึ้นว่า “มีอะไรให้ข้าช่วยได้บ้างไหม?”
“ไม่ต้อง” พระชายาซุนพูดขึ้นเบา ๆ แล้วเดินเข้าไปข้างใน
กู้จือตามไป แล้วเข้าไปข้างใน แต่แล้วก็ต้องขมวดคิ้วขึ้นมาทันที ค่อยๆเดินถอยหลังออกมา
ทุกคนคิดว่านางคงรู้ถึงสถานะที่ไม่ชัดเจนของตน จึงไม่สนใจนาง อันที่จริงแล้วช่วงสำคัญแบบนี้ ไม่มีใครคิดถึงความรู้สึกของนางหรอก
แต่เจ้าหญิงฉินผิงกลับพูดดุด่าอย่างรุนแรงขึ้นว่า “โสเภณี"
กู้จือหันไปมองเจ้าหญิงฉินผิง ด้วยดวงตาที่เขียวปัด
เจ้าหญิงฉินผิงพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาว่า “มองอะไร ไม่ได้พูดถึงเจ้าสักหน่อย”
หยวนชิงหลิงที่ได้เสียงเอะอะจากข้างนอก ได้ยินถึงเสียงที่โมโหของเจ้าหญิงฉินผิงจึงพูดขึ้นว่า “เจ้าหญิง ช่างเถอะ นี่เป็นเรื่องภายในบ้านของอ๋องเว่ย ที่สำคัญที่นี่คือจวนอ๋องซุน ไม่ควรพูดเรื่องพวกนี้”
เดิมทีเจ้าหญิงฉินผิงคิดที่ดุด่ากู้จือสักหน่อย พอได้ฟังคำพูดของหยวนชิงหลิงแล้ว จึงคิดได้ว่านี่ไม่ใช่เวลาที่เหมาะ จึงพยักหน้าเล็กน้อย พร้อมพูดขึ้นว่า “ข้ายั้งสติไม่อยู่”
หยวนชิงหลิงช่วยกู้จือแก้หน้าให้ นางก็เพียงแค่เหลือบมองดูหยวนชิงหลิง จากนั้นก็หันหลังเดินออกไป
อะซี่เจอฉู่หมิงชุ่ยที่ลานบ้าน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน
สองขาของหยู่เหวินเห้าก็คดงอคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิดว่า “ลูกยินดียอมรับโทษทัณฑ์ที่เหลือของเสด็จพ่อ ชอบข้อความบทนี้ตลกดีคะพระเอก ตอน 394...
1...
1...
เพิ่งอ่านได้ 2ร้อยกว่าหน้า สนุกน่าติดตามมาก แต่ทั้งเรื่องมี2พันกว่าหน้า ทำไงจะอ่านจบ...
ขอบคุณผู้แต่ง และ novelones มากๆค่ะ ดีที่สุด อ่านรอบที่ 4 แล้วก็ยังสนุกครบรส ❤️...
เรื่องนี้ถือว่าสมบูรณ์มากสนุกต้นถึงจบ อยากให้เป็นซีรี่ย์...
สนุก ตลกดี เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่คำผิดเยอะไปหน่อยค่ะ...