ฮ่องเต้หมิงหยวนเห็นเขายังยืนอยู่โดยที่ไม่ขยับ ก็อดไม่ได้ที่จะโกรธ “ยังมัวยืนอึ้งอยู่ทำไม? ไสหัวไปสิ!”
หยู่เหวินเห้าเงยหน้าพร้อมกับแววตาที่เป็นประกาย มองฮ่องเต้หมิงหยวน “ลูกยังต้องรับโทษกับเสด็จปู่ก่อนถึงจะไปได้”
ฮ่องเต้หมิงหยวนก็รู้อยู่แล้วว่าไท่ซ่างหวงนั้นเดินตามแผนที่หยู่เหวินเห้าวางไว้ อดไม่ได้ที่จะสะบัดแขนเสื้อ เดิมอยากที่จะหันหลังเดินจากไปเลย แต่ก็ไม่บังอาจที่จะเสียงมารยาท หลังจากที่กล่าวคำลากับไท่ซ่างหวง ก็หันหลังเดินจากไปอย่างเย็นชา
“ลูกน้อมส่งเสด็จพ่อ!” หยู่เหวินเห้ากล่าวด้วยความเคารพ
ฮ่องเต้หมิงหยวนเดินจากไปโดยที่ไม่หันกลับมามองเลย
หยู่เหวินเห้ามองจนแผ่นหลังลับตาไปแล้ว ก็คุกเข่าลงบนพื้น กล่าวอย่างเศร้าใจ “เสด็จปู่ ท่านไม่ช่วยยัยแก่หยวน แล้วจะมีใครช่วยยัยแก่หยวน?”
ตอนนี้อารมณ์ของไท่ซ่างหวงเย็นลงมาแล้ว นั่งลงแล้วกล่าวอย่างเรียบเฉย “เจ้าไปก่อน ข้าจะมีคำสั่งลงไปเอง”
“พ่ะย่ะค่ะ!” แววตาของหยู่เหวินเห้าจึงได้ปรากฏขึ้นด้วยแสงของความเจ้าเล่ห์ “งั้นหลานขอทูลลา!”
ไท่ซ่างหวงกล่าว “ไปเถอะ”
หยู่เหวินเห้าที่ออกจากวัง คนทั้งคนได้โล่งอกไปเปลาะหนึ่ง
ทังหยางที่รออยู่หน้าวัง วันนี้หลังจากที่แม่นมสี่ไปแล้ว เขาก็มารออยู่ที่ประตูวัง ในที่สุด พลบค่ำถึงได้เห็นท่านอ๋องออกมา
“ท่านอ๋อง!” เขาเดินเข้ามาต้อนรับอย่างเร็ว “วันนี้แม่นมสี่มาที่จวน พระชายาเป็นคนสั่งให้นางมาถามสถานการณ์ของท่านอ๋อง เกรงว่าพระชายาคงจะร้อนใจจนแย่แล้ว”
“ตอนนี้กี่ยามแล้ว?” หยู่เหวินเห้าถาม
“ยังไม่ถึงสามทุ่ม” ทังหยางกล่าว
หยู่เหวินเห้าหรี่ตาลงเล็กน้อย “วันนี้ยังไม่เลยเวลา วันนี้ยังมีเวลาครึ่งชั่วยาม ห้ามเสียเวลาไปโดยเด็ดขาด ไป ไปที่จวนเจ้าพระยา”
ทังหยางวิ่งตามไปถาม “ท่านอ๋อง นี่มันยังไงกันแน่? พระชายาสามารถกลับมาได้หรือยัง?”
หยู่เหวินเห้ากระโดดขึ้นหลังม้า กล่าว “ตอนนี้ยังไม่ได้ บัดนี้ข้าได้บีบบังคับจนเสด็จพ่ออนุญาตให้ข้าไปได้วันละครึ่งชั่วยาม จะให้ยัยแก่หยวนกลับมา ยังต้องจัดการเรื่องเจ้าพระยาเจิ้งเป่ยให้ได้เสียก่อน อย่างไรก็ตาม เสด็จปู่ได้ยอมช่วยแล้ว บอกจะมีรางโองการลงมา”
ทังหยางดีใจ “แก้ไขปัญหาได้แล้วใช่หรือไม่?”
ก่อนที่หยู่เหวินเห้าจะควบม้าไปข้างหน้า นิ่งไปครู่หนึ่ง ส่ายหัวกล่าว “ไม่ใช่ ราชโองการนี้เสด็จพ่อเป็นคนออก เสด็จปู่ไม่มีทางที่จะไปลบล้างราชโองการของเสด็จพ่อ แต่คงจะชี้ทางเดินให้กับเรา”
มีไท่ซ่างหวงเป็นคนชี้ทาง ทังหยางก็วางใจมากแล้ว
หยู่เหวินเห้าเมื่อคืนไม่ได้กลับมา เขาก็ได้ไปหาเหลิ่งจิ้งเหยียนเพื่อทำความเข้าใจกับสถานการณ์ที่เป็นอยู่ ประกอบกับคำพูดของพระชายา เขาก็พอจะรู้ว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้น
ทั้งสองหน้าหนึ่งคนหลังหนึ่งคนกำลังควบม้าไปที่จวนเจ้าพระยา
เจ้าพระยาจิ้งได้สั่งคนปิดประตูนานแล้ว เศร้ากันอย่างมาก
ตั้งแต่รู้ว่าไม่สามารถรักษาชีวิตไว้ได้ เขากลับไม่อยากที่จะไปสนใจในเรื่องตำแหน่งหน้าที่การงานแล้ว
การเลื่อนตำแหน่งนั้นหมดหวังแล้ว สามารถรักษาชีวิตให้รอดก็ยังเป็นเพียงแค่ความหวัง
นางหวงเป็นคนที่ไม่รู้จักแยกแยะ ประกอบกับไม่รู้สถานการณ์ แล้วก็มาบ่นอยู่ข้างหูของเขา “ในจวนลือกันให้ทั่ว พูดว่านางนั้นถูกเลิกร้างกลับมา ต่อไปข้าจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน? ชีวิตข้าทำไมถึงได้รันทดนัก? ผิงเอ๋อก็แต่งไม่ออกเสียที เจรจาไปหลายครั้งก็ไม่สำเร็จ เห็นว่าหลิงเอ๋อนั้นแต่งเข้าไปในจวนอ๋อง ยังนึกว่าจะถูกรักและเอ็นดู คิดไม่ถึงกลับถูกไล่กลับมาในกลางดึก ช่างขายหน้านัก”
นางหวงวันนี้ก็ได้ไปหาคุยและกับลูกชายหยวนหลุนเหวินแล้ว ถูกหยวนหลุนเหวินตำหนิไปชุดใหญ่ ว่านางเป็นแม่ เวลานี้ควรที่จะเป็นห่วงเป็นใยหลิงเอ๋อถึงจะถูก
แต่แม่นมสี่นั้นไม่พอใจแล้ว กล่าว “ฮูหยิน เย็นนี้พระชายายังไม่ได้ทานข้าวเลย ทานมื้อดึกหน่อยจะเป็นไร ทำไมท่านต้องพูดจาประชดประชันแบบนี้ด้วยล่ะ?”
นางแซ่หวางรู้จักแม่นมสี่ ก็ไม่กล้าที่จะเถียงในทันที ทำเพียงกระทืบเท้า ก็ร้องไห้ขึ้นมา “เจ้าว่าชีวิตข้าทำไมถึงได้รันทดเพียงนี้นะ? เดิมนึกว่าเจ้าแต่งเข้าจวนอ๋องฉู่ คนที่เป็นแม่อย่างข้าก็จะมีชีวิตที่สุขสบาย คิดไม่ถึงว่าปีนี้ เจ้าที่ตั้งท้องอยู่ก็ถูกเลิกร้างแล้วไล่กลับมาที่บ้าน ท่านพ่อเจ้าก็มาโทษข้าเพราะเรื่องนี้ ไปนอนค้างทางโน้นติดต่อกันสองคืนแล้ว เจ้าจะให้ข้ามีชีวิตได้ยังไง?”
หยวนชิงหลิงไม่สนใจนาง รู้ว่าเจ้าห้าไม่เกิดเรื่อง อารมณ์นางก็ดีขึ้นมาก ก็เลยปล่อยนางร้องไห้คนเดียวอยู่ตรงนั้น ตัวเองนั้นก็กินบะหมี่ไป
นางหวงร้องไห้ได้อย่างเสียใจมาก นางยังสามารถกินแบบไม่มีความรู้สึก ทันใดนั้นก็โมโหขึ้นมาทันที ใช้มือไปปัดชามของหยวนชิงหลิง กล่าวด้วยความโกรธ “แกยังกินอีก? สิ่งที่แม่พูดแกไม่ได้ยินหรือ? แกรีบคิดหาทางเอาหัวใจของท่านอ๋องกลับ กลับไปที่จวนอ๋องซัก ไม่เช่นนั้นพ่อของเจ้าก็คงไม่มาเรือนของข้าอีก”
หยวนชิงหลิงมองถ้วยที่แตกอยู่บนพื้น บะหมี่กระจายไปทั่ว แต่นางยังคงถือช้อนเอาไว้
อะซี่ทนไม่ไหว ก็ลุกขึ้นมาทันที หยวนชิงหลิงยื่นมือมาห้ามเอาไว้ อะซี่อดทนอย่างไม่พอใจ แล้วนั่งลงไป
หยวนชิงหลิงวางช้อนลง แววตามืดมนและเย็นชา “เขาไม่มาเรือนของท่าน ท่านก็มีชีวิตต่อไม่ได้แล้วหรือ? ข้าไม่เคยเห็นแม่คนไหนที่ไม่สนใจความเป็นความตายของลูกตัวเองเลยแม้แต่นิดเดียว ใส่ใจเพียงแค่ว่าผู้ชายจะไปเรือนของใคร”
นางหวงคิดไม่ถึงว่าหยวนชิงหลิงจะพูดเช่นนี้กับนาง ตกใจไปชั่วขณะ น้ำตาก็ไหลเป็นทาง ร้องไห้อย่างเจ็บปวด “แก........ไอ้ลูกอกตัญญู หากพ่อของเจ้าไม่มา พวกเราที่เป็นเรือนหลังใหญ่ยังจะมีความหวังอะไรอีก? ข้าไม่ใช่เพราะพวกแกหรอกหรือ?”
หยวนชิงหลิงรู้สึกเบื่อหน่ายมาก ใช้แรงตบโต๊ะไปหนึ่งที กล่าวอย่างเฉียบขาด “ห้ามร้องไห้ หุบปากเดี๋ยวนี้!”
นางหวงถูกเสียงตบโต๊ะของนางทำให้ตกใจจนตัวสั่น ก็หยุดร้องไห้ทันที จ้องมองนางด้วยท่าทางที่ทั้งโกรธและกลัว
ความโกรธของหยวนชิงหลิงถูกจุดขึ้นมาแล้ว ไม่สามารถที่จะกดทับลงไปในทันทีทันใด กล่าวอย่างเฉียบขาด “อย่าเพิ่งมาสนใจว่าข้านั้นถูกเลิกร้างกลับมาจริงหรือเปล่า ต่อให้เป็นเรื่องจริง คนที่เป็นแม่อย่างท่าน ควรที่จะถามว่าข้านั้นได้รับความลำบากใจหรือถูกคนรังแกหรือเปล่า แต่ท่านนั้น มาถึงก็มาต่อว่าข้า ยังมาโทษข้าทำให้ท่านพ่อไม่มานอนค้างที่เรือนของท่าน คำพูดที่ท่านพูด สิ่งที่ท่านทำ มีสิ่งไหนที่เหมือนคนเป็นแม่เขาทำกันบ้าง?”
“ข้า..........” นางหวงเถียงไม่ออกในทันที เหมือนน่าสารมาก ไม่รู้ว่านางที่ถูกเลิกร้างจะมาดุอะไรขนาดนั้น แต่ก็ไม่รู้จะสรรหาคำพูดอะไรมาเถียงนาง
“อะซี่ ส่งฮูหยิน!” หยวนชิงหลิงกล่าวอย่างเย็นชา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน
OMG ไม่คิดว่าจะอ่านจบ 2105 หน้าสุดปัง เรื่องสนุกมาก ดำเนินเรื่องได้น่าติดตาม มีความเรียลจนบางตอนมีน้ำตาซึมตามเพีาะความประทับใจ สนุกมากจริงๆทอยากให้มีภาคลูกไปบ้าง...
กลับมาอ่านอีกครั้ง สนุกจริง...
สนุกมากค่ะ มีต่อไหมคะ...
สองขาของหยู่เหวินเห้าก็คดงอคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิดว่า “ลูกยินดียอมรับโทษทัณฑ์ที่เหลือของเสด็จพ่อ ชอบข้อความบทนี้ตลกดีคะพระเอก ตอน 394...
1...
1...
เพิ่งอ่านได้ 2ร้อยกว่าหน้า สนุกน่าติดตามมาก แต่ทั้งเรื่องมี2พันกว่าหน้า ทำไงจะอ่านจบ...
ขอบคุณผู้แต่ง และ novelones มากๆค่ะ ดีที่สุด อ่านรอบที่ 4 แล้วก็ยังสนุกครบรส ❤️...
เรื่องนี้ถือว่าสมบูรณ์มากสนุกต้นถึงจบ อยากให้เป็นซีรี่ย์...
สนุก ตลกดี เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่คำผิดเยอะไปหน่อยค่ะ...