ลูกตาของกู้จือ ถูกควักออกมาดื้อๆอย่างนั้นเลย
นางพลิกตัวไปมาอยู่บนเตียงอย่างเจ็บปวด กรีดร้องอย่างโหยหวน
อ๋องเว่ยทำเพียงค่อยๆถอยออกมา เช็ดเลือดที่อยู่บนมือ
บ่าวไพร่ได้วิ่งกันเข้ามา ก็เห็นภาพที่เต็มไปด้วยเลือด ล้วนตกตะลึงกันหมด
อ๋องเว่ยกล่าวอย่างเรียบเฉย “แม่นางกู้จือไม่ทันระวังดวงตาได้รับบาดเจ็บ พวกเจ้าไปช่วยนางห้ามเลือด แล้วไปตามหมอมาดูหน่อย”
พูดจบ เขาก็ค่อยๆเดินออกไป ข้างหู ก็ดังขึ้นด้วยเสียงร้องไห้ที่เจ็บปวดของกู้จือ เขายกมุมปากขึ้นยิ้มอย่างเย็นชา แววตาเยือกเย็น
เขานั่งอยู่ในห้องโถง รอให้คนของตระกูลชุยมา
แต่ว่า รอกระทั่งฟ้ามืด ก็ไม่เห็นคนของตระกูลชุยมา
แต่เป็นอ๋องซุนที่มา
อ๋องซุนนั้นวิ่งเข้ามาเลย เขาออกจากวังเพิ่งจะกลับไปถึงจวน ก็ได้ทราบเรื่องนี้ ก็ควบม้ามาที่จวนอ๋องเว่ยโดยตรง
หลังจากเข้าประตูมาแล้ว มือที่อวบอ้วนของเขาก็ชกไปที่ใบหน้าของอ๋องเว่ย ชกต่อเนื่องไปหลายที อ๋องเว่ยยังคงนั่งตัวตรง เขาที่เหนื่อยเองแล้วนั่งลงบนพื้น แลบลิ้นหายใจหอบ แต่ยังคงไม่ลืมที่จะด่า “ไอ้สารเลว!”
อ๋องเว่ยเช็ดเลือดไปครู่หนึ่ง ก็ถามอย่างขมขื่น “นางยังมีชีวิตอยู่ไหม?”
“ยังมีชีวิตอยู่ หรือเจ้าอยากจะให้นางตาย?” อ๋องซุนกล่าวอย่างโกรธเคือง
สีหน้าของอ๋องเว่ยเหมือนคนที่ตายไปแล้ว
อ๋องซุนลุกขึ้น กระชากอกเสื้อของเขาเอาไว้ แล้วก็ตบกบาลไปอีกหนึ่งที “เจ้าทำไมถึงทำเรื่องชั่วแบบนี้ได้? เจ้านั้นถูกคุณไสยหรือเปล่า?”
อ๋องเว่ยกล่าวอย่างดื้อรั้น “ข้าไม่ผิด นางเป็นคนที่ผิดต่อข้าก่อน”
“เจ้ายังปากแข็ง? อ๋องซุนใช้หลังมือตบหน้าเขาไปอีกหนึ่งที ปากแข็งแล้วมีประโยชน์ไหม? ในใจเจ้าไม่รู้ว่านางเป็นคนแบบไหนเหรอ?”
“ข้าไม่ผิด!” อ๋องเว่ยเงยหน้าขึ้น ใบหน้ารั้นและบ้าคลั่ง กำหมัดแล้วคำราม “ข้าไม่ผิด”
อ๋องซุนเห็นท่าทางเขาที่เป็นแบบนี้ ก็ปล่อยเขา ส่ายหัวกล่าว “เจ้าไม่ผิดเหรอ? เจ้าคิดอย่างนั้นจริงๆเหรอ? น้องสาม ยอมรับผิดเถอะ นางมีค่าพอที่จะให้เจ้าเอ่ยคำขอโทษ แม้ว่าจะไม่ช่วยให้เรื่องมันดีขึ้น แต่เจ้าต้องขอโทษ”
อ๋องเว่ยนั่งเหมือนท่อนไม้ เสื้อผ้าบนร่างกายยับยู่ยี่ไปหมด เต็มไปด้วยเลือด
เขาพูดเพียงประโยคเดียว “ข้าไม่ผิด ข้าไม่ผิดข้า............ข้าถูกวิชาลวงตา ข้าถูกวิชาลวงตา!”
กู้จือคนนั้น ถูกคนพยุงออกมา ดวงตาของนั้นได้ถูกพันเรียบร้อยแล้ว ร่างกายเปื้อนไปด้วยเลือด
ในน้ำเสียงของนาง เต็มไปด้วยความเกลียดชัง “ใช่ เจ้าถูกวิชาลวงตา แต่ว่าวิชาลวงตาไม่สามารถที่จะควบคุมใจของเจ้าได้ตลอดเวลา ความรู้สึกของเจ้าที่มีต่อนางตั้งแต่แรกก็คือความสงสัย เจ้ามักจะรู้สึกว่าตัวเองนั้นสู้ท่านชายชิงหยางไม่ได้ เจ้ามักจะรู้สึกว่าในตอนแรกนางไม่อยากมากับเจ้าจริงๆ เจ้ามักจะรู้สึกว่าสิ่งที่นางดีกับเจ้าเป็นสิ่งที่จอมปลอมแสดงไปอย่างนั้น เพราะความสงสัยต่างๆเหล่านี้ ถึงได้ทำให้ข้ามีโอกาส ดังนั้น จริงๆแล้วท่านไม่ได้รักนาง อย่างน้อยไม่ได้รักอย่างลึกซึ้ง ในปีกว่านี้เจ้ากับข้า แม้ข้าจะใช้วิชาลวงตากับท่านแค่ครั้งคราว แต่เจ้า ก็เชื่อข้าอยู่ตลอดเวลา ทุกคำพูดที่คำพูด เจ้าก็เชื่อสนิทใจ ตอนแรกที่ข้าบอกกับท่านว่านางกับท่านชายชิงหยางแอบเป็นชู้กัน ตอนนั้นข้าไม่ได้ใช้วิชาลวงตากับท่าน แต่ท่านก็เชื่ออย่างไม่สงสัย เจ้ารู้ทุกอย่างของข้าห่วงใยข้า คนที่เจ้ารัก คือข้า ไม่ใช่นาง เจ้ายังไม่เข้าใจจุดนี้เหรอ?”
นางพยายามคลำทางแล้วเดินมา ท่าทางนั้นทั้งเศร้าและเจ็บปวด “แม้ว่าเจ้าจะควักดวงตาของข้า แต่ข้าไม่เกลียดท่าน ขอเพียงท่านยังรักข้าเหมือนเมื่อก่อน เจ้ายังจำตอนที่อยู่บนหอคอยได้ไหม? ข้าไม่ได้ใช้วิชาลวงตากับท่าน แต่เจ้ากลับวิ่งเข้ามาช่วยข้าก่อน คนที่เจ้ารักคือข้า วันนี้เจ้าแค่รู้สึกผิดต่อนาง เจ้ารู้ไหม?”
อ๋องซุนพยักหน้า “เจ้าไม่ผิด ท่านพี่สะใภ้รองของเจ้าบอกกับข้า ภริยาของเจ้าก็เคยถูกวิชาลวงตา แต่ว่า นางทำลายมันได้ ทำไมถึงทำลายมันได้? เจ้าสามารถไปถามสาวใช้ข้างกายยัยหมั่นโถวของภริยาน้องห้าได้ จริงๆแล้วน้องห้าก็เคยถูกวิชาลวงตา น้องห้าก็สามารถทำลายมันได้ ภริยาเจ้าก็สามารถทำลายมันได้ มีเพียงแต่เจ้าที่ทำลายมันไม่ได้ เจ้าว่ามันเป็นความผิดของใคร?”
“ไม่ คนอื่นไม่เคยถูกวิชาลวงตา มีเพียงข้าเท่านั้น” อ๋องเว่ยกล่าวอย่างเย็นชา “บัดนี้ข้าก็ทำลายมันได้แล้ว เมื่อกี้ตอนที่ข้าอยู่ข้างนอก ข้าเห็นหน้าของนาง ข้ารังเกียจมาก ขยะแขยงอย่างมาก ใบหน้าแบบนี้ ข้ากลับหลงใหลไปตั้งนาน มันเป็นเพราะวิชาลวงตา”
“เป็นเพราะความไม่ไว้เนื้อเชื่อใจของเจ้า” อ๋องซุนนั่งอยู่ตรงหน้าของเขา “กู้จือพูดไม่ผิด เจ้าไม่เชื่อภริยาของเจ้า เจ้าไม่เคยคิดว่าที่นางมากับเจ้าเพราะว่านางรักเจ้า เชื่อใจเจ้า เจ้าเพียงรู้สึกว่าเจ้าแย่งนางมาได้ นางสามารถทรยศเจ้าได้ทุกเมื่อ ไปจากเจ้า วิชาลวงตาเป็นเพียงข้ออ้างของเจ้า”
ริมฝีปากของอ๋องเว่ยสั่นไปหลายที น้ำตาไหลลงมา เขาเช็ดมันอย่างดื้อรั้น “ไม่ใช่ แม้ข้าจะถูกวิชาลวงตา แต่นางทรยศข้าก่อน เด็กคนนั้นไม่ใช่ของข้า เป็นของท่านชายชิงหยาง วันนี้เขาก็ปรากฏตัวแล้ว เขาเฝ้าอยู่ข้างกายนางตลอด เขาก็เหมือนเสือดาวตัวหนึ่ง ที่คอยสอดเนมรอให้ข้ากับนางเกิดความร้าวฉาน คนผู้นี้ คือผีร้ายตัวหนึ่ง”
ปากของเขาสั่นด้วยความเกลียดชัง
อ๋องซุนตบที่ไหล่ของเขา “เจ้าคิดแบบนี้? เอาเถอะ หากเจ้าคิดแบบนี้แล้วรู้สึกสบายใจ ก็ตามใจเจ้า”
อ๋องซุนเอามือไขว้หลังแล้วเดินจากไป
อ๋องเว่ยกัดฟัน แววตาเต็มไปด้วยความโกรธและความเกลียดชัง
แต่ว่าก็ไม่สามารถห้ามน้ำตาเอาไว้ได้
เขาไม่เชื่อ ไม่เคยเชื่อเลยว่านางอยู่กับเขาเพราะรักเขา หลายปีมานี้ เขาทุ่มเทใส่ใจนางทุกอย่าง ในใจนางยังคงคะนึงหาท่านชายชิงหยางมาโดยตลอด
ที่นางมีวันนี้ เพราะนางทำตัวเอง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน
OMG ไม่คิดว่าจะอ่านจบ 2105 หน้าสุดปัง เรื่องสนุกมาก ดำเนินเรื่องได้น่าติดตาม มีความเรียลจนบางตอนมีน้ำตาซึมตามเพีาะความประทับใจ สนุกมากจริงๆทอยากให้มีภาคลูกไปบ้าง...
กลับมาอ่านอีกครั้ง สนุกจริง...
สนุกมากค่ะ มีต่อไหมคะ...
สองขาของหยู่เหวินเห้าก็คดงอคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิดว่า “ลูกยินดียอมรับโทษทัณฑ์ที่เหลือของเสด็จพ่อ ชอบข้อความบทนี้ตลกดีคะพระเอก ตอน 394...
1...
1...
เพิ่งอ่านได้ 2ร้อยกว่าหน้า สนุกน่าติดตามมาก แต่ทั้งเรื่องมี2พันกว่าหน้า ทำไงจะอ่านจบ...
ขอบคุณผู้แต่ง และ novelones มากๆค่ะ ดีที่สุด อ่านรอบที่ 4 แล้วก็ยังสนุกครบรส ❤️...
เรื่องนี้ถือว่าสมบูรณ์มากสนุกต้นถึงจบ อยากให้เป็นซีรี่ย์...
สนุก ตลกดี เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่คำผิดเยอะไปหน่อยค่ะ...