บัลลังก์หมอยาเซียน นิยาย บท 396

หยวนชิงหลิงยังคงรู้สึกเสียใจอยู่ และรู้ดีว่าการถูกโบยครั้งนี้นั้นนับว่ามีคุณค่าเช่นกัน อย่างน้อย ก็สามารถช่วยหลอกุ้ยผินกอบกู้ชื่อเสียงและความเป็นธรรมกลับมาได้ คนของตระกูลหลอทั้งหมดต่างก็ถูกยกเว้นจากโทษทัณฑ์ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องนี้ด้วย

หยู่เหวินเห้าดึงมือของนางเอาไว้ “ไม่ร้องแล้ว ดีหรือไม่ ข้ายังดีอยู่”

หยวนชิงหลิงจึงเอ่ยถามเสียงแหบว่า “เจ็บมากหรือไม่ จะฉีดยาระงับปวดหรือไม่ ”

หยู่เหวินเห้าซี้ดปากสูดลมหายใจเข้า “ก็ไม่ได้เจ็บปวดมากขนาดนั้น เจ็บเล็กน้อย แต่ถ้าหากสามารถฉีดยาระงับปวดอะไรนั้นได้ ก็ฉีดให้สักเข็มเถอะ”

ก็รู้อยู่แล้วว่าเขามันปากแข็ง

ยี่สิบห้าไม้ ตีลงไปจริงๆโดยไม่ยั้งมือสักนิด ตีจนหนังปริเนื้อปลิ้น จะไม่เจ็บได้อย่างไร

รสชาตินี้ ใช่ว่านางจะไม่เคยได้ลิ้มรสมาก่อน และถ้าหากมีเหล่าขุนนางคอยดูอยู่ ทหารรักษาพระองค์ก็ยิ่งจะลงมือหนักขึ้น

หยวนชิงหลิงฉีดยาระงับปวดให้เขา จากนั้นก็ให้ยาแก้อักเสบ ป้องกันเขาจะมีไข้ อย่างไรเสียคืนนี้ก็ไปไหนไม่ได้แล้ว แม้ว่าจะต้องล่วงเกินเง็กเซียนฮ่องเต้ก็ไม่มีหนทางอื่นแล้ว

อาหารค่ำนางก็กินไม่ลง ดื่มแค่น้ำซุปไม่กี่คำ ก็วางถ้วยลง

หยู่เหวินเห้านอนกินอาหารบนเตียง เพื่อเป็นการแสดงให้เห็นว่าเขาไม่ใช่คนไร้ประโยชน์ จึงไม่ให้ใครเข้ามาป้อน

เพียงแต่ ใช้มือที่ต้องค้ำยันอยู่ จึงทำให้กินข้าวได้ไม่สะดวกนัก สุดท้ายได้แต่เอาหัวมุดเข้าไปในถ้วย กินเหมือนหมูตัวหนึ่ง

หยวนชิงหลิงเห็นแล้ว ทั้งเจ็บปวดใจทั้งรู้สึกขำ พอหันกลับไปน้ำตาก็ไหลออกมา

นางเดินเข้ามา “อย่าทำเป็นเข้มแข็ง ให้ข้าป้อนท่านกิน”

หยู่เหวินเห้าก็รู้ตัวเองดีว่ากินเองไม่ได้ จึงได้แต่ยิ้มตาหยีพูดว่า “ได้ เจ้าป้อนให้ข้ากิน เจ้ากินหนึ่งคำ ข้ากินหนึ่งคำ”

หยวนชิงหลิงยัดข้าวช้อนโตเข้าไปในปากของเขา “กินของท่านไป”

หยู่เหวินเห้าพลางกิน พลางพูดเสียงอู้อี้ว่า “อร่อย ถูกโบยครั้งนี้นับว่าคุ้มค่า ถูกโบยแล้วยังมีสาวงามมาคอยปรนนิบัติรับใช้ ”

หยวนชิงหลิงเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่พอใจนัก “สบาย ยังต้องเจ็บปวดอีกหลายวัน ภายหลังข้าจะดูสิว่าท่านจะไปพบหน้าข้าที่จวนเจ้าพระยาจิ้งอย่างไร ”

“ให้คนยกตัวข้าไป” หยู่เหวินเห้าผงกศีรษะขึ้นมากินข้าว ปวดเมื่อยที่ลำคอมาก กินได้สองคำ คางก็เกยอยู่บนหมอน “เจ็บน่ะไม่ค่อยเจ็บแล้ว แต่คอข้าทรมานมาก นอนคว่ำลงเช่นนี้จมูกข้าก็หายใจได้ไม่สะดวกเอาซะเลย”

หยวนชิงหลิงมีประสบการณ์มาก่อน รอให้กินข้าวอิ่มแล้ว จะให้คนช่วยเขาทำหมอนโค้งที่มีรูโหว่อยู่ตรงกลาง เช่นนี้ก็สามารถรองหน้าผากและคางไว้ได้ เขาจะได้หายใจได้ง่ายขึ้นอีกด้วย

หลังจากกินข้าวเสร็จแล้ว กู้ซือก็แวะมาเยี่ยมเยือน

กู้ซือเข้ามา อดไม่ได้ที่จะประท้วงต่อความไม่ยุติธรรมแทนเขา “เจ้าก็ช่างโง่นัก ทำไมจึงได้พูดว่าขอรับในส่วนที่เหลือทั้งหมด ท่านอ๋องทั้งหลายต่างก็คนละสิบห้าไม้ เจ้าก็พูดตามเขาไปว่าสิบห้าไม้ก็ได้นี่นา เจ้ายังจะพูดว่ารับที่เหลือ คนที่คิดเลขไม่เป็นยังรู้เลยว่าเหลืออีกตั้งยี่สิบห้าไม้ ”

หยู่เหวินเห้าเอ่ยอย่างโมโหว่า “นี่เจ้ามาเยาะเย้ยข้าหรือมาเยี่ยมข้ากันแน่ ตอนนั้นเจ้าก็อยู่ด้วยทำไมไม่เตือนกันบ้าง สมองข้าก็ไม่แล่นแล้ว ยังจะมีกะจิตกะใจที่ไหนไปสนใจว่าต้องถูกโบยกี่ไม้ แปดสิบไม้แบ่งกันไปสี่คนแล้ว ใครจะรู้ว่ายังเหลือตั้งเยอะขนาดนั้น ”

ยิ่งคิดก็ยิ่งอัดอั้นตันใจ

ทุกคนต่างถูกโบยเสร็จแล้ว เหลือแต่เขาคนเดียวที่ยังคงอยู่ตรงนั้นถูกโบยเสียงดังป้าบๆๆๆ ใครจะไม่หัวเราะเยาะว่าเขามันโง่

กู้ซือพูดปลอบใจว่า “เอาเถอะ เอาเถอะ ข้ามาเยี่ยมท่าน เอาโสมซานชีมาด้วย ใช้ขับและสลายลิ่มเลือดรักษาอาการบอบช้ำ กินแล้วจะดีขึ้น”

“คืนนี้เจ้าไม่อยู่เวรหรือ” หยู่เหวินเห้าตะแคงหน้ามองเขา ใบหน้าฝั่งที่กดลงกับหมอนรูปหน้าก็เปลี่ยนไปหมด ฝั่งที่เผยให้เห็นใบหน้า มีรอยแผลที่เห็นได้อย่างชัดเจน ดูแล้วมีความดุดันอยู่บ้าง

กู้ซือหัวเราะให้ลำคอหนึ่งเสียง “เดิมทีต้องเข้าเวนคืนนี้ แต่ว่าพรุ่งนี้ฮ่องเต้ให้ข้าออกไปทำงาน ฉะนั้นคืนนี้จึงไม่ต้องเข้าไปอีก”

“ทำงานอะไร” หยู่เหวินเห้าถาม

“พาตัวอ๋องเว่ยไปขอโทษจวิ้นจู่จิ้งเหออย่างไรเล่า” กู้ซือพูด

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน