หยู่เหวินเห้ารู้สึกว่า นี่เป็นการเยาะเย้ยแบบที่ทำเป็นขบวนการ เขากวาดสายตามองทุกคนที่อยู่ตรงนั้นเรียบ ๆ พลางพูดว่า “ความคิดเห็นไม่ตรงกัน สามารถถกเถียงกันเพื่อหาเหตุผลอย่างช้า ๆ ได้ แต่ไม่ใช่พูดโจมตีกันเช่นนี้ มันจะทำให้ข้าโกรธ”
พี่ซู่หลงไม่พูดอะไรอีก
หวางเจียพูดขึ้นว่า: "ไม่ใช่พูดโจมตี กลับกันยังต้องขอคำชี้แนะจากพระชายาแล้วว่า พระชายาก็ศึกษาวิจัยในเรื่องของปรากฏการณ์บนท้องฟ้า ที่เกี่ยวข้องกับดาราศาสตร์ด้วยอย่างนั้นรึ?"
หยวนชิงหลิงส่ายหน้า " ข้าไม่ได้ศึกษาวิจัยอะไร แค่เคยสนใจเรื่องนี้มาบ้างเล็กน้อยเท่านั้น"
สำหรับนางแล้ว ความสนใจในเรื่องของดาราศาสตร์ ไม่ได้มากเท่ากับความสนใจในนิยายแนววิทยาศาสตร์
“จุดมืดบนดวงอาทิตย์ที่เจ้าพูดถึง ก็คืออีกาสามขาอย่างนั้นใช่หรือไม่ ?” หวางเจียงถาม
“ก็อาจจะใช่” หยวนชิงหลิงตอบ
“เช่นนั้น เจ้ารู้หรือไม่ว่าสิ่งนี้มันเกิดขึ้นได้อย่างไร?” แววตาของหวางเจียง เต็มไปด้วยความสนใจใคร่รู้
หยวนชิงหลิงลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จึงค่อยพูดว่า "เรื่องนี้ข้าเดาเอาเองว่า น่าจะเป็นเพราะสนามแม่เหล็กไม่สามารถถ่ายเทความร้อนออกไปได้ ทำให้เกิดเป็นบริเวณที่มีอุณหภูมิต่ำกว่า เมื่อมองด้วยตาเปล่าของคนเรา มันจะดูเหมือนเป็นวงกลมสีดำวงหนึ่ง เหมือนกับเวลาที่เราใช้เตาเผาไฟ ส่วนโค้งงอส่วนหนึ่งบนหัวเตา จะมีส่วนที่ไฟไม่สามารถเผาไหม้ขึ้นไปได้ถึง ตอนที่พวกเรามองดู ก็ไม่ใช่ว่ามันจะมืดลงไปเล็กน้อยหรอกรึ ? ข้าจึงอนุมานว่านี่แหละคือหลักการของมัน”
ทุกคนมองไปที่หยวนชิงหลิงเป็นตาเดียว
แม้ว่าสิ่งที่นางพูดอาจไม่น่าเชื่อถือ แต่คำพูดที่ว่า สนามแม่เหล็กเอย การถ่ายเทความร้อนเอย หลักการเอย พวกนั้น กลับเป็นคำศัพท์ระดับสูงที่ใช่ว่าทุกคนจะเข้าใจได้
อย่างน้อยก็พวกเขานี่แหละ ที่ฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง
หลังจากที่หวางเจียงได้ฟังคำที่นางพูด ก็เริ่มครุ่นคิดอย่างลึกซึ้ง
หลังจากไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่ง หวางเจียงก็หันกลับมามองหยวนชิงหลิง แล้วเริ่มหารือกับนางอย่างจริงจัง “เมื่อครู่พระชายาพูดว่าอีกาสามขานี้ สามารถส่งผลกระทบต่อสนามแม่เหล็กของโลก ทำให้สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงได้ นี่เป็นเรื่องจริงหรือไม่? มีหลักฐานพิสูจน์หรือไม่?"
หยวนชิงหลิงเห็นสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัยใคร่รู้ของเขาแล้ว ก็คิดว่าถ้าหัวข้อนี้ยังดำเนินต่อไป วันนี้นางคงยากจะถอนตัวไปได้แน่แล้ว ด้วยเหตุนี้ นางจึงตัดสินใจขายชื่อคนคนหนึ่งออกไปในที่สุด “ที่จริงแล้วข้าก็ไม่รู้หรอก เรื่องพวกนี้ท่านเจ้าอาวาสวัดฮู่กว๋อเป็นคนบอกข้า”
จู่ ๆ ทุกคนก็เข้าใจขึ้นมาทันที ไม่น่าแปลกใจเลย ที่นางพูดได้อย่างเป็นระเบียบแบบแผนขนาดนี้ กลายเป็นว่านางแค่เก็บเอาคำพูดของคนอื่น มาเป็นคำพูดของตัวเองก็เท่านั้น
หวางเจียงอยากจะไปหาท่านเจ้าอาวาสทันที จะได้หารือเรื่องนี้กับเขาสักรอบหนึ่ง
จึงถูกหยู่เหวินเห้าใช้มือข้างหนึ่งกดไว้ "เอาล่ะ รอให้เป็นเวลาอื่นค่อยไปไม่ได้รึ ? จำเป็นต้องไปในตอนที่พวกเราว่างตรงกันให้ได้หรืออย่างไร ? นั่งลงเถอะน่า ข้ามีเรื่องจะถามเจ้าเสียหน่อย เจ้าจะไม่พิจารณา เรื่องมารับหน้าที่เป็นหัวหน้าสำนักดาราศาสตร์จริง ๆ น่ะหรือ? "
หวางเจียงส่ายหน้า “ไม่ ไม่พิจารณาแน่ เจ้าก็รู้ว่าแต่ไหนแต่ไรมา ข้ารักอิสระมาโดยตลอด เมื่อไหร่ที่ไปเป็นขุนนาง ทุกคำพูด ทุกการกระทำจะถูกคนอื่นควบคุมทั้งหมด ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่ข้าหวังไว้อย่างแท้จริง”
หยู่เหวินเห้าพูดด้วยสีหน้าจริงจัง: “แต่ ถ้าหากข้าขอให้เจ้าไปล่ะ?”
หวางเจียงตกใจจนผงะ หันไปมองเขา “ความหมายของท่านอ๋องคือ?”
“ถูกต้อง!” หยู่เหวินเห้าก็ไม่พูดอะไรมาก แค่พยักหน้าตอบรับ
เมื่อครู่หวางเจียงยังปฏิเสธอย่างเด็ดเดี่ยวอยู่ ตอนนี้พอได้ยินคำสองคำนี้ เขาก็พูดขึ้นว่า “เป็นขุนนางสิดี วัน ๆ ไม่ต้องหงอยเหงาเศร้าสร้อย ชีวิตไม่น่าเบื่อหน่าย ไปเป็นขุนนางนี่แหละดี”
ทุกคนต่างพากันหัวเราะลั่น
หยวนชิงหลิง แอบชำเลืองมองหยู่เหวินเห้าด้วยความประหลาดใจ
วันนี้เขามารับสมัครทหารกับซื้อม้าหรอกหรือนี่ ? * ความหมายคือ การรวบกำลังคนรวมถึงสรรพาวุธเพื่อจัดตั้งกองกำลัง เตรียมตัวทำการอะไรบางอย่าง*
หัวหน้าสำนักดาราศาสตร์ สำหรับผู้ที่อยู่ในตำแหน่งว่าที่กษัตริย์แล้ว คำพูดของเขาจะมีค่ามีน้ำหนักอย่างยิ่ง เพียงประโยคเดียวจากการดูการโคจรของดวงดาวในยามค่ำคืน ก็สามารถรู้ถึงความลึกลับใด ๆ บนท้องฟ้าได้ทั้งหมด บุคคลเหล่านี้เป็นตัวตนที่มักจะปรากฏขึ้นมาไม่น้อยในห้วงเวลาอันยาวนานของประวัติศาสตร์ ที่ไหลไปประดุจสายน้ำที่ทอดยาวไม่เคยหยุดนิ่ง
“หงเฉิง” หยู่เหวินเห้าหันไปมองนางอีกครั้ง “ทางเจ้ามีปัญหาอะไรบ้างหรือไม่?”
เสี้ยวหงเฉิงหัวเราะ “ข้าจะไปมีปัญหาอะไรได้ ? ข้าพร้อมรออยู่เสมอ มีอะไรจัดให้ได้ทุกเมื่อ”
แม่ทัพหลู่หมางก็พูดขึ้นเช่นกันว่า: "ข้าก็พร้อมรออยู่เสมอ มีอะไรจัดให้ได้ทุกเมื่อเช่นกัน"
หยู่เหวินเห้าหันไปมองพี่ซูหลง เขายักไหล่พลางพูดว่า "ทำไมล่ะ? ลูกพี่ลูกน้องของข้าเอง ข้าจะไม่สนับสนุนเชียวรึ?"
หยู่เหวินเห้ายกแก้วเหล้าขึ้น "ถ้าเช่นนั้นก็เริ่มกันเดี๋ยวนี้เลย พูดถึงแค่เรื่องสายลมและจันทรา ไม่พูดถึงเรื่องราชการบ้านเมือง ดื่มให้ตายกันไปข้าง!"
ทุกคนต่างยกแก้วเหล้า เหล้าแก้วใหญ่แบบเต็ม ๆ แก้ว ถูกเทลงลำคอไปราวกับว่าพวกเขากำลังดื่มน้ำเปล่าอยู่อย่างไรอย่างนั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน
สองขาของหยู่เหวินเห้าก็คดงอคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิดว่า “ลูกยินดียอมรับโทษทัณฑ์ที่เหลือของเสด็จพ่อ ชอบข้อความบทนี้ตลกดีคะพระเอก ตอน 394...
1...
1...
เพิ่งอ่านได้ 2ร้อยกว่าหน้า สนุกน่าติดตามมาก แต่ทั้งเรื่องมี2พันกว่าหน้า ทำไงจะอ่านจบ...
ขอบคุณผู้แต่ง และ novelones มากๆค่ะ ดีที่สุด อ่านรอบที่ 4 แล้วก็ยังสนุกครบรส ❤️...
เรื่องนี้ถือว่าสมบูรณ์มากสนุกต้นถึงจบ อยากให้เป็นซีรี่ย์...
สนุก ตลกดี เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่คำผิดเยอะไปหน่อยค่ะ...