ทางด้านอ๋องฉี หยวนหย่งอี้กับฮองเฮายังคงเฝ้าอยู่ อะซี่ก็อยู่
เจ้าอาวาสถูกเชิญไปดื่มชาแล้ว หมอหลวงหลายคนเฝ้าอยู่ด้านข้าง
“พี่หยวน เขาจะฟื้นขึ้นมาไหม?” หยวนหย่งอี้ร้องไห้จนตาบวม ดึงมือหยวนชิงหลิงไว้แล้วถามขึ้น
ฮองเฮาได้ยินเช่นนี้ ก็หันหน้ามา จ้องมองดูหยวนชิงหลิง
หยวนชิงหลิงฝืนยิ้มพร้อมพูดปลอบว่า “คนดีฟ้าคุ้มครอง ไม่เป็นไร”
ประโยคนี้ เป็นคำพูดปลอบใจที่ธรรมดามาก แต่เป็นเพราะหยวนชิงหลิงพูดออกมา หยวนหย่งอี้รู้สึกสบายใจขึ้นอย่างไม่รู้ตัว
“ฮองเฮา ท่านไปพักก่อนเถอะ” หยวนชิงหลิงเห็นนางนั่งอยู่อย่างโอนเอน ดูแล้วเหมือนจะเป็นลมได้ทุกเมื่อ จึงพูดขึ้น
ฮองเฮาโบกมือ มองดูลูกชายที่รูปลักษณ์งดงามแต่ร่างกายทรุดโทรม ก็อดไม่ได้ที่จะน้ำตาไหลออกมาอีกครั้ง พร้อมพูดขึ้นว่า “ไม่ล่ะ เฝ้าเขาไว้ดีล่ะ”
สองวันติดต่อกัน ผ่านชีวิตความเป็นความตายของลูกชาย ฮองเฮาถือได้ว่าปลงแล้ว
ต่อให้ตำแหน่งฮ่องเต้ดีแค่ไหน หากไม่มีชีวิตอยู่แล้ว แล้วจะมีประโยชน์อะไรล่ะ?
ดังนั้น นางจึงมีท่าทีต่อหยวนชิงหลิงแบบคิดใหม่ อย่างน้อย กับเจ้าแปดแล้วครั้งนี้ นางก็มาช่วยเหลืออย่างเต็มที่ แม้กระทั่งยังถูกนักฆ่าลอบทำร้าย
นางพูดกับหยวนชิงหลิงว่า “มีหมอหลวงเฝ้าอยู่ที่นี่ เจ้ากลับไปพักเถอะ ร่างกายเจ้าตอนนี้ก็ไม่สะดวก”
หยวนชิงหลิงรู้ว่าตอนนี้เฝ้าอยู่ก็ไม่มีประโยชน์ เขาจะไม่เป็นขึ้นมาเร็วขนาดนั้น เพราะใช้ยาชาทั่วทั้งร่างกายให้กับเขา
ออกไปแล้ว นางคิดว่ากลับไปก็นอนไม่หลับ เจ้าห้าก็ไม่รู้จะกลับมาเมื่อไหร่ กลับไปสงบจิตใจแล้วทำให้คิดถึงภาพสะอิดสะเอียนนั่น สู้ไปหาพูดคุยกับเจ้าอาวาสคนรุ่นหลังยังจะดีกว่า
เจ้าอาวาสยังดูแข็งแรง เด็กเฒ่าคนนี้ ร่างกายผ่ายผอม ดูมีเมตตา แลดูคล้ายจางซานเฟิง
“สีหน้าผู้อาวุโสดูไม่ค่อยดีเลย” เจ้าอาวาสลุกขึ้นมา พนมมือไหว้หยวนชิงหลิง เห็นอะซี่ตะลึง เขาจึงยิ้มพร้อมพูดกับอะซี่ว่า “แม่นาง เจ้ากลับไปเถอะ คิดว่าพระชายาคงมีธุระจะคุยกับอาตมา”
อะซี่อ้อขึ้นมา มองดูหยวนชิงหลิงอย่างแปลกใจ เมื่อกี้ไม่ได้ฟังผิดใช่ไหม? เจ้าอาวาสเรียกพระชายาว่าผู้อาวุโส?
หยวนชิงหลิงเคยส่งจดหมายให้กับเจ้าอาวาส แต่เจ้าอาวาสไม่ได้ตอบเลยสักครั้ง ตอนนี้จะได้ถามดู
ภายในห้องจุดธูปหอมไว้ เงียบสงบจิตสงบใจ หยวนชิงหลิงนั่งอยู่กับเขา ในใจค่อยโล่งอก
ความรู้สึกแบบนี้ น่าจะเป็นเพราะความผูกพันของคนบ้านเดียวกัน
ถึงแม้ ระหว่างพวกเขาจะห่างกันสองสามร้อยปี
หยวนชิงหลิงถามขึ้นอย่างแปลกใจว่า “เมื่อกี้เจ้าบอกว่ายาของข้าล้าสมัย ไม่รู้ว่าสมัยของพวกเขา การแพทย์พัฒนากลายเป็นอย่างไร? สามารถรักษามะเร็งได้หรือไม่?”
“รักษาได้แล้ว การพัฒนาทางการแพทย์ในอนาคตเป็นไปอย่างรวดเร็ว”
หยวนชิงหลิงพูดขึ้นอย่างภาคภูมิใจว่า “สามารถรักษาโรคมะเร็งได้ งั้นก็ดี งั้นก็ดี”
ดีสำหรับคนที่เป็นหมอ ดีสำหรับคนที่วิจัยและพัฒนาทางการแพทย์ นี่ถือเป็นข่าวที่น่าตื่นเต้นจริงๆ
วกเข้าหาประเด็น พร้อมพูดขึ้นว่า “ก่อนหน้านี้ที่ส่งจดหมายไปหาเจ้าอาวาส ว่าเมื่อถึงตอนที่ข้าคลอด เจ้าอาวาสจะสามารถมาช่วยค่าผ่าท้องได้ไหม? หากเจ้าอาวาสยินยอม เมื่อถึงตอนก่อนใกล้คลอดข้าจะหาเหตุผลเชิญเจ้าอาวาสมาขอพร เรียนเชิญเจ้าอาวาสมาที่จวน”
เจ้าอาวาสถามขึ้นว่า “การผ่าท้องคลอด เจ้าคิดว่าสามารถกระทำได้ภายในห้องหนึ่งในจวนอย่างง่ายดายหรือ?”
“ข้าจะสร้างห้องผ่าตัดอย่างมิดชิดขึ้นมาก่อนล่วงหน้า เว้นวันทำความสะอาด ฆ่าเชื้อ พวกมีดผ่าตัด ก็จะทำการฆ่าเชื้อด้วย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน
สองขาของหยู่เหวินเห้าก็คดงอคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิดว่า “ลูกยินดียอมรับโทษทัณฑ์ที่เหลือของเสด็จพ่อ ชอบข้อความบทนี้ตลกดีคะพระเอก ตอน 394...
1...
1...
เพิ่งอ่านได้ 2ร้อยกว่าหน้า สนุกน่าติดตามมาก แต่ทั้งเรื่องมี2พันกว่าหน้า ทำไงจะอ่านจบ...
ขอบคุณผู้แต่ง และ novelones มากๆค่ะ ดีที่สุด อ่านรอบที่ 4 แล้วก็ยังสนุกครบรส ❤️...
เรื่องนี้ถือว่าสมบูรณ์มากสนุกต้นถึงจบ อยากให้เป็นซีรี่ย์...
สนุก ตลกดี เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่คำผิดเยอะไปหน่อยค่ะ...