หยวนชิงหลิงสีหน้าบึ้งตึง ไม่พูดไม่จา
พระชายาจี้ทำใจแข็งพูดความในใจออกมาอีกว่า “ใส่ร้ายอ๋องกระทำอนาจาร เจ้าเป็นคนที่ถูกทำร้ายคนแรกหรือ?”
ประโยคนี้ ทำให้อารมณ์ของหยวนชิงหลิงแตกเป็นเสี่ยงๆ
“ตลอดชั่วชีวิตนี้ ข้าไม่เคยหลุดพ้นจากคำสาปนี้” หยวนชิงหลิงกัดฟันพูด
พระชายาจี้พูดขึ้นด้วยเสียงเบาว่า “เจ้าทำได้เพียงอดทน อดทนจนกว่าเจ้าจะคลอดลูกออกมา เจ้าห้าก็ต้องอดทน หากข้าเดาไม่ผิด ครั้งนี้เสด็จพ่อจะต้องสั่งลงโทษ แต่พวกเจ้าก็ไม่ต้องน้อยใจ ลูกชายของเขา คนหนึ่งได้รับบาดเจ็บสาหัส คนหนึ่งติดคุก เจ้าห้าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไร เขารู้ แต่ในสถานการณ์ตอนนี้ เขามีความจำเป็นที่จะต้องมีมาตรการ ปกป้องเจ้าห้าไว้ก่อน อ๋องอานเจ้าเล่ห์ แต่เสด็จพ่อก็เป็นคนที่ฉลาด”
หยวนชิงหลิงฟังอย่างเหน็ดเหนื่อยหมดแรง นางเป็นนักวิจัยทางการแพทย์คนหนึ่ง ไม่ได้มีเล่ห์เหลี่ยม ชั้นเชิงในการทำสงครามนางใน มองไม่รู้เรื่องคดเคี้ยวพวกนี้
ต่อให้ไล่ให้เป็ดขึ้นคอน (บีบให้ทำเรื่องที่ความสามารถไม่ถึง) นางมักจะช้ากว่าคนอื่นอย่างมาก
นางมองดูพระชายาจี้แวบหนึ่ง พร้อมพูดขึ้นว่า “ไม่ว่ายังไง ขอบคุณที่เจ้าช่วยเหลือข้าแล้วถึงสองครั้ง”
“ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว” พระชายาจี้พูดขึ้นอย่างเชื่องช้า น้ำเสียงกลับค่อนข้างทะนงตนว่า “ตอนนี้ยังเสียใจที่ตอนนั้นได้ช่วยชีวิตข้าไว้ไหม? การตัดสินใจของเจ้าในตอนนั้นคือสิ่งที่ถูกต้อง”
หยวนชิงหลิงมองเมินใส่นาง พร้อมพูดขึ้นว่า “ไม่ทะนงตนสักครั้งจะตายไหม?”
พระชายาจี้ก็หัวเราะ พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้าวางใจ ความหวังทั้งหมดของข้าตอนนี้อยู่ที่เจ้ากับเจ้าห้า ไม่ว่ายังไงข้าก็จะต้องปกป้องพวกเจ้า”
หยวนชิงหลิงพยักหัว พร้อมพูดขึ้นว่า “ขอบคุณ”
ในหัวสมองของนางยังคิดถึงความตั้งใจของอ๋องอาน ตอนนี้เจ้าห้ากำลังตามจับนักฆ่า หากเวลานี้ เล่าเรื่องให้กับเจ้าห้ารู้ เจ้าห้าจะต้องทิ้งเรื่องไล่ตามจับนักฆ่าอย่างไม่สนใจ แล้วก็ไปเอาเรื่องอ๋องอาน
ไปหาเขาถึงที่ ไม่เป็นผลดีต่อเขาจริงๆ
แต่ถ้าหากไม่ใช่เจ้าห้าไปหาเขาล่ะ?
นางเริ่มค่อยๆครุ่นคิดเรื่องนี้
พระชายาจี้บอกให้นางอดทน แต่นางกลับเข้าใจว่า การอดทน คนอื่นก็จะเห็นว่าเจ้าอ่อนแอน่ารังแก
ในเมื่อนางกับเจ้าห้าต่างก็ไม่สนใจตำแหน่งองค์ชายรัชทายาทนี้ ส่วนอ๋องอานสนใจ พูดอีกอย่างก็คือ ทางด้านชื่อเสียง อ๋องอานเป็นเหมือนกระเบื้องลายคราม พวกเขาสองสามีภรรยาเป็นเหมือนกระเบื้องผุ
หลังจากกลับมาถึงจวน นางก็ไม่ได้รีบร้อนที่จะทานข้าวอาบน้ำ แต่กลับนั่งสงบจิตใจครุ่นคิด
ต่อให้นางไม่ได้นอนไม่ได้หลับ ก็จะต้องคิดหาวิธีรับมืออ๋องอานให้ได้
หากสิ่งที่พระชายาจี้พูดเป็นความจริง ทั้งหมดนี้เขาเป็นคนบงการอยู่เบื้องหลัง และตอนนี้เขาอยู่ในสถานะที่ไม่เกี่ยวข้องเลย ถึงขั้นสามารถไปร้องห่มร้องไห้ที่จวนอ๋องฉีได้อย่างสบายอกสบายใจ ฉะนั้นไม่ว่ายังไงก็จะต้องลากเขาเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องให้ได้
เขาใช้สมองคิดหาทางทุกวิถีทาง แผนการต่างๆ กระทำอย่างไรให้รอบคอบ วางแผนการให้มิดชิดที่สุด
แต่ล้วนมีข้อจำกัด นั่นก็คือคนที่นางสามารถใช้ได้มีไม่มาก หากใช้คนในจวน เจ้าห้าก็จะต้องรู้
คิดอยู่สักพัก นางตัดสินใจใช้ความกดดันจากความคิดเห็นของประชาชน เอาความทะเยอทะยานของอ๋องอานส่งไปถึงตรงหน้าฮ่องเต้กับเหล่าขุนนาง
แบบนั้น ต่อให้เจ้าห้าไปเอาเรื่องเขา ต่อยตีเขา ต่อหน้าฮ่องเต้ ก็จะมีเหตุผลสามารถอธิบายได้
ส่วนเรื่องสถานการณ์ตอนนี้สำหรับพวกเขา ยิ่งวุ่นวายยิ่งดี ใครๆก็อย่าคิดที่จะได้อยู่อย่างผู้บริสุทธิ์
ในจวนของนางมีคนหนึ่งที่สามารถใช้ได้อย่างดี หูหมิงขอทานที่นางเคยช่วยเหลือไว้ก่อนหน้านี้
เขาอยู่ในตลาดล่าง มีคนที่รู้จักพอสมควร
หยู่เหวินเห้าระงับความโกรธเคืองไว้ กอดนางไว้ พร้อมพูดขึ้นว่า “ได้ ได้ ข้าไม่ไป ข้ายังไม่ไป ตามหมอหลวงมาดูหรือยัง? นอกจากท้องแล้ว ยังรู้สึกไม่ดีตรงไหนอีกไหม?”
“อยากอาเจียน” หยวนชิงหลิงซบแนบอกของเขา ค่อยรู้สึกผ่อนคลายไปทั้งตัว มีเพียงเขา เป็นคนที่นางเชื่อมั่น วางใจที่สุด และเป็นที่พึ่งของนาง
หยู่เหวินเห้าให้นางเอนนอน ช่วยลูบไล้หน้าอกให้นางหายใจคล่อง และใช้แม่นมสี่ไปเอาผงอู๋โยว
หลังจากทานยาแล้ว หยวนชิงหลิงถามขึ้นว่า “จับนักฆ่าได้แล้วหรือยัง?”
“ไม่มีทางจับได้หรอก” หยู่เหวินเห้าพูดขึ้น
หยวนชิงหลิงถามขึ้นว่า “อ๋องอานเป็นคนทำ ใช่ไหม? ข้าจำได้ว่าเจ้าเคยพูดคำหนึ่ง บอกว่าอ๋องเว่ยกับอ๋องอานสนิทกัน เกิดเรื่องที่จวนอ๋องเว่ยก่อน เจ้าเคยคิดไหมว่าจวนอ๋องเว่ย ก็อาจจะเป็นฝีมือของเขา?”
หยู่เหวินเห้าพูดขึ้นว่า “ไม่ใช่เคยคิด เป็นเรื่องแน่นอน”
“แน่นอน?” หยวนชิงหลิงขยับตัว ให้เขาขยับเข้ามาใกล้หน่อย พร้อมพูดขึ้นว่า “มีหลักฐานไหม?”
หยู่เหวินเห้าค่อยเล่าให้ฟังนางฟังอย่างละเอียดว่า “กู้จือถูกส่งตัวไปยังสำนักนางชีหมิงเยว่ ข้าก็รู้ว่าเจ้าสนใจเรื่องนี้ จึงหาคนไปแอบถามกู้จือ ที่ไหนได้ กลับเห็นคนของเจ้าสี่ ปรากฏตัวบริเวณใกล้เคียงสำนักนางชีหมิงเยว่ ดูท่าทีเหมือนกำลังจะฆ่าปิดปากคน แต่กู้จือก็เป็นคนฉลาด หนีออกไปก่อนแล้ว”
“กำจัดอ๋องเว่ยก่อน หลังจากนั้นก็ทำร้ายอ๋องฉี ใส่ร้ายอ๋องจี้ คนคนนี้ลงมือได้อย่างเฉียบขาดจริงๆ” หยวนชิงหลิงพูดขึ้น
หยู่เหวินเห้าเอามือประสานกับมือของนาง พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้าวางใจ เจ้าอยากทำร้ายพวกเรา มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก เสด็จพ่อได้ลงโทษเพราะเรื่องตามจับนักฆ่าไม่ได้ คิดว่าตำแหน่งเจ้ากรมการพระนครก็คงจะรักษาไว้ไม่ได้แล้ว ไม่เป็นไร แค้นนี้ยังไงก็ต้องชำระ”
หยวนชิงหลิงถอนหายใจ พร้อมพูดขึ้นว่า “รู้อยู่แล้วว่าเจ้าจะต้องอดทนเก็บความแค้นนี้ไว้ไม่ได้ ดังนั้น ข้าจึงสร้างอำนาจความคิดเห็นของประชาชน ต่อให้เจ้าตัดขาของเขาไปข้างหนึ่ง ภายนอกยังไงก็จะเข้าข้างเจ้า ไม่ว่ายังไงก็อยู่ในสถานการณ์ที่ล่อแหลมแล้ว เราเป็นหมูที่ตายไม่กลัวถูกน้ำร้อนลวก เขาอยากไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ฝันไปเถอะ”
หยู่เหวินเห้าพยักหัว กัดนางหนึ่งคำ พร้อมพูดขึ้นว่า “ที่จริงได้พ้นจากตำแหน่งก็ยิ่งดี ข้าจะได้อยู่เป็นเพื่อนเจ้าไปตลอด”
ที่สำคัญที่สุดก็คือ หากมีความจำเป็นที่จะต้องแย่งชิง ในเวลานี้ยังสามารถแอบสั่งสมกำลัง กระทำสิ่งที่ไม่ยุติธรรมบ้าง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน
OMG ไม่คิดว่าจะอ่านจบ 2105 หน้าสุดปัง เรื่องสนุกมาก ดำเนินเรื่องได้น่าติดตาม มีความเรียลจนบางตอนมีน้ำตาซึมตามเพีาะความประทับใจ สนุกมากจริงๆทอยากให้มีภาคลูกไปบ้าง...
กลับมาอ่านอีกครั้ง สนุกจริง...
สนุกมากค่ะ มีต่อไหมคะ...
สองขาของหยู่เหวินเห้าก็คดงอคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิดว่า “ลูกยินดียอมรับโทษทัณฑ์ที่เหลือของเสด็จพ่อ ชอบข้อความบทนี้ตลกดีคะพระเอก ตอน 394...
1...
1...
เพิ่งอ่านได้ 2ร้อยกว่าหน้า สนุกน่าติดตามมาก แต่ทั้งเรื่องมี2พันกว่าหน้า ทำไงจะอ่านจบ...
ขอบคุณผู้แต่ง และ novelones มากๆค่ะ ดีที่สุด อ่านรอบที่ 4 แล้วก็ยังสนุกครบรส ❤️...
เรื่องนี้ถือว่าสมบูรณ์มากสนุกต้นถึงจบ อยากให้เป็นซีรี่ย์...
สนุก ตลกดี เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่คำผิดเยอะไปหน่อยค่ะ...