บัลลังก์หมอยาเซียน นิยาย บท 515

หยวนชิงหลิงพาโม่ยี่เข้าไปที่ตำหนักเซี่ยวเยว่ ปิดประตู ไม่อนุญาตให้ผู้ใดเข้ามา

โม่ยี่แสดงความตื่นเต้นออกมาได้อย่างชัดเจน มองดูพระชายารัชทายาทแห่งเป่ยถังผู้นี้ด้วยความระมัดระวังไม่เป็นสุข

“เชิญเจ้านั่ง!” หยวนชิงหลิงมองดูโม่ยี่ กล่าวเบาๆ

โม่ยี่นั่งลง ถูฝ่ามือด้วยความประหม่า “เมื่อครู่สามสถานที่นั่นที่ท่านพูด......คือท่านรู้หรือว่าเกิดอะไรขึ้นเพคะ?”

หยวนชิงหลิงก็นั่งลง ระงับความตื่นเต้นในใจ ถามต่อเนื่องกันไม่ขาดสาย “เจ้ามาจากยุคสมัยไหน? เจ้ามาที่นี่ได้อย่างไร? เจ้าบอกว่าสามารถกลับบ้านได้ เป็นความจริงหรือ?”

โม่ยี่อยากพูดแต่ก็หยุดไว้ ไม่กล้าพูดตรงๆ หลังจากพิจารณาแล้ว จึงพยักหน้าเล็กน้อย “ทุกคนล้วนต้องกลับบ้านเพคะ”

หยวนชิงหลิงกล่าวอย่างโศกเศร้า “ฉันกลับไม่ได้”

โม่ยี่มองดูนาง ไม่พูดจา แต่ว่า ในสีหน้าท่าทางค่อนข้างมีความชัดเจนแล้ว

“คุณ.......” โม่ยี่กระอึกกระอัก คิดถึงคำสั่งของอ๋องสำเร็จราชการแทนพระองค์ มีข้อห้ามบางอย่างในใจ แต่ว่า ได้พบคนบ้านเดียวกันที่นี่ก็ทำให้เธออดกลั้นความตื่นเต้นไว้ไม่ได้ ชั่วพริบตาก็ไม่สนอกสนใจอะไรนิดหน่อยแล้ว “คุณมาที่นี่ได้ยังไง?”

หยวนชิงหลิงยิ้มเจื่อนๆ “ฉันไม่รู้ เกิดเรื่องขึ้นในยุคปัจจุบัน หลังจากฟื้นขึ้นมาก็อยู่ที่นี่แล้ว ตอนนี้ยังไม่ชัดเจนว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ คุณล่ะ? คุณเกิดเรื่องอะไรขึ้น? คุณบอกว่าสามารถกลับบ้านได้ เป็นความจริงใช่ไหม?”

โม่ยี่พยักหน้า “ฉันถูกคนเชิญมาทำโครงการที่นี่ หลังจากทำเสร็จแล้วก็ต้องกลับไป”

หยวนชิงหลิงตกตะลึง “มีคนสามารถข้ามเวลาได้? เป็นใคร?”

โม่ยี่กล่าวด้วยความลำบากใจ “อันนี้ฉันบอกไม่ได้”

หยวนชิงหลิงค่อนข้างผิดหวัง แต่ว่าแสดงความเข้าใจ ถ้าหากบอกว่ามีคนสามารถข้ามเวลาได้ จะต้องเป็นอัจฉริยะที่สามารถครองโลกได้เป็นแน่ แน่นอนว่าจะไม่ยินยอมเปิดเผยตัวตนเพื่อเลี่ยงการก่อให้เกิดความหายนะ

ถามยุคสมัยอย่างละเอียด ที่อยู่ หยวนชิงหลิงพบว่าโม่ยี่ก็อยู่ในยุคเดียวกับเธอ อีกทั้งขณะที่เธอมา ตัวเองได้ตายไปแล้วหนึ่งปี

พูดอีกอย่างว่า เธอกับโม่ยี่อยู่มิติเดียวกัน

และโม่ยี่ถามถึงสถานที่ทำงานและที่อยู่ของหยวนชิงหลิง นึกขึ้นมาได้เรื่องหนึ่ง รีบถาม “คุณคงไม่ใช่ดอกเตอร์อัจฉริยะผู้นั้นที่ตายในห้องทดลองหรอกนะคะ?”

หยวนชิงหลิงพยักหน้าเงียบๆ “การตายของฉัน เป็นเรื่องใหญ่เลยสินะคะ?”

โม่ยี่กล่าวด้วยใบหน้าเหยเก “หลังจากที่คุณเสียชีวิตหนึ่งวันถึงจะถูกพบเห็น ขึ้นพาดหัวข่าวสองสามวัน การค้นหายอดนิยมในเวยปั๋วยังคงสูงไม่ลด ล้วนคาดคะเนการเสียชีวิตของคุณ รัฐบาลประกาศว่าเสียชีวิตอย่างกะทันหัน แต่มีคนของโรงพยาบาลออกมาเผยความลับ บอกว่าคุณเพียงแค่ไร้การเต้นของหัวใจและชีพจร แต่สมองยังไม่ตาย”

หยวนชิงหลิงประหลาดใจ “สมองยังไม่ตาย จะตัดสินชี้ขาดการตายของฉันได้อย่างไร?”

“หัวใจหยุดเต้นและหยุดหายใจไงคะ” โม่ยี่กล่าว

หยวนชิงหลิงอึ้งมาก “คุณบอกว่าสมองของฉันยังไม่ตาย หมายถึงสมรรถนะปฏิกิริยาโต้ตอบในสมองของฉันยังไม่ได้สูญหายไปโดยสิ้นเชิงใช่ไหม?”

“ไม่รู้ค่ะ พวกเราจะรู้เรื่องราวภายในได้ที่ไหนคะ?” โม่ยี่กล่าว

หยวนชิงหลิงส่ายศีรษะ รู้สึกว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น “นี่จะเป็นไปได้ยังไงล่ะ? ในเมื่อหัวใจของฉันหยุดเต้น ไร้ลมหายใจ อีกทั้งหนึ่งวันกว่าจะถูกพบ ทำไมสมองยังมีสมรรถนะปฏิกิริยาโต้ตอบอีกล่ะ? นี่เป็นไปไม่ได้นี่!”

โม่ยี่กล่าว “งั้นฉันก็ไม่รู้จริงๆ เป็นเพียงแค่ข่าวลือเล็กน้อยในอินเทอร์เน็ต แต่ว่า ยืนยันได้จุดหนึ่ง ศพของคุณไม่ได้เผา บริษัทโครงการสิ่งมีชีวิตที่คุณอยู่จากการตกลงของคุณพ่อของคุณ เอาร่างของคุณแช่แข็งแล้วค่ะ”

หยวนชิงหลิงตะลึง เหล่านี้ รุ่นน้องไม่เคยบอกกับเธอ หรือว่าเขาก็ไม่รู้? แต่ เขาบอกว่าพยายามศึกษาวิชาความรู้เฉพาะทางของเธอมาทั้งชีวิต สำหรับเรื่องราวของเธอรู้อย่างกระจ่างเป็นที่สุด ทำไมแม้แต่เรื่องใหญ่ขนาดนี้ก็ไม่รู้ล่ะ?

เธอกล่าวอย่างกลืนไม่เข้าคายไม่ออก “ที่พูดมานี้ ฉันตายหรือไม่ตาย ก็ไม่ได้ตัดสินชี้ขาด?”

โม่ยี่ยังคงไม่รู้จริงๆ แม้ว่าขณะที่อยู่ในยุคปัจจุบันเคยติดตามข่าวนี้ แต่ไม่ได้เจาะลึก เธอยุ่งมาก ไหนเลยจะมีเวลาไปใส่ใจความเป็นความตายของผู้ที่เรียกว่าดอกเตอร์อัจฉริยะผู้หนึ่ง?

อีกทั้งเธอไม่ได้เรียนด้านการแพทย์ และคบค้าสมาคมกับคนที่อยู่ในวงการแพทย์ค่อนข้างน้อย ที่เรียกว่าข่าวลือ ทั้งหมดเพราะเลื่อนเวยปั๋วเห็นโดยบังเอิญ ก็เพราะข่าวการแช่แข็งใหญ่โตมาก เธอจึงจำได้อย่างลึกซึ้งหน่อย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน