หยู่เหวินเห้าได้ยินคำพูดนี้ ก็รู้สึกปวดใจขึ้นมาอย่างกะทันหัน เขาเอาแต่คิดถึงตัวเองตลอด กลับไม่เคยคิดถึงความรู้สึกของหยวนชิงหลิงเลย สามารถได้พบกับญาติของตนเองอีกครั้ง อยู่พร้อมหน้ากับญาติ เป็นเรื่องน่ายินดีที่สุดในใต้หล้า
เขาสมควรจะดีใจแทนยายหยวน แต่ไม่ใช่เอาแต่คิดอย่างไม่เป็นสุขว่านางจะกลับไปหรือไม่
เขากุมมือของหยวนชิงหลิงเอาไว้ เอ่ยอย่างรู้สึกผิดว่า “ยายหยวน เจ้าไม่มีวันตัวคนเดียว แม้สักวันหนึ่งที่ข้าต้องตาย ก็จะฆ่าเจ้าก่อน ไม่ให้เจ้าต้องอยู่ในโลกใบนี้เพียงลำพัง”
หยวนชิงหลิงมองดวงตาที่แสนของอบอุ่นของเขา นางต้องเรียนรู้ที่จะยอมรับเรื่องที่รักผู้ชายที่นิสัยแข็งกระด้างตรงไปตรงมาเป็นเรื่องที่น่าเบื่อมากแค่ไหน ไม่ว่าอย่างไรพวกเขาก็จะนำถ้อยคำอันลึกซึ้งกินใจมาดัดแปลงเป็นคำพูดที่โหดเหี้ยมเย็นชาชนิดต่างๆได้เสมอ
หยู่เหวินเห้ามองเห็นความระอาใจในสายตาของนาง เอ่ยเสียงเบาว่า “ข้าเคยเกือบจะเสียเจ้าไปแล้ว ความหวาดกลัวกับความสิ้นหวังเช่นนั้น ทรมานยิ่งกว่าตาย ฉะนั้นข้าจะไม่ให้เจ้าต้องลิ้มรสความทรมานเช่นนั้น ไม่ใช่ข้าไม่รู้จักสร้างบรรยากาศดีๆ แต่ข้าเคยเข้าใจอย่างลึกซึ้งแล้ว ไม่มีใครยินดีจะเป็นคนที่ถูกทิ้งเอาไว้”
หยวนชิงหลิงน้ำตารื้นขึ้นมาที่ขอบตา กุมมือของเขาเอาไว้แน่น
ชายแท้ๆบางครั้งก็สามารถพูดคำพูดหวานหูแปลกๆได้เช่นกัน เพราะว่าเดิมทีพวกเขาเองก็เป็นพวกแปลกประหลาดอยู่แล้ว
คนตายไปแล้วทุกสิ่งก็สิ้นสุดลง แต่คนที่ยังมีลมหายใจอยู่นั้นทรมานที่สุด
อาหารค่ำที่ท่านชายสี่เหลิ่งจัดเตรียมไว้หลากหลายมาก หมอหลินไม่ได้ออกมากินข้าวพร้อมกับทุกคน ท่านชายสี่เหลิ่งจึงได้สั่งให้คนส่งไปให้นาง ให้นางกินข้าวในเรือนของตนเอง
ตอนที่กินอาหาร หยู่เหวินเห้าพยายามหวนนึกถึงธรรมเนียมและข้อปฏิบัติเวลากินข้าวในวังที่เคยเรียนรู้มา พยายามทำให้ตนเองดูภูมิฐานและเหมาะสม
แม้ว่าเขาจะดูระมัดระวังจนแทบจะกินไม่ลง แต่ก็โชคดีที่ไม่ได้เกิดข้อผิดพลาดอะไรขึ้น
ท่านชายสี่เหลิ่งสั่งให้คนรินเหล้า หยู่เหวินเห้ากำลังคิดอยากจะดื่มสักแก้วเพื่อบรรเทาสติที่ตื่นเต้นจนอัดแน่นไปหมด แต่มือเพิ่งจะแตะถูกแก้วเหล้า เขาก็ค่อยๆหดมือกลับไป “ข้า ข้าไม่ค่อยชอบดื่มเหล้านัก”
ภาพลักษณ์ที่เจอกันครั้งแรกไม่ค่อยดีนัก เขาไม่สามารถฝากภาพลักษณ์ของคนชอบกินเหล้าให้คุณย่าได้เห็นอีก
ท่านชายสี่เหลิ่งประสานสายตากับอ๋องชินสู้แวบหนึ่ง ต่างก็รู้สึกว่ารัชทายาทน่าแปลกมาก ในราชนิกุลเป่ยถังยังมีคนที่ไม่ชอบดื่มเหล้าด้วยหรือ เป่ยถังเดิมทีก็เป็นชนชาติที่ชื่นชอบการดื่มเหล้าชาติหนึ่ง
ท่านชายสี่เหลิ่งเป็นคนนิสัยเฉยชา เชิญชวนให้ดื่มเหล้าไม่เป็น ในเมื่อเขาบอกว่าไม่ดื่มเช่นนั้นก็ไม่บังคับ เพียงแค่ยกแก้วเหล้าชูให้กับอ๋องชินสู้
ระหว่างงานเลี้ยง ท่านชายสี่เหลิ่งได้ถามหยู่เหวินเห้า “ใช่แล้ว ค่ำนี้ตอนที่ท่านมาถึง ทำไมจึงมีคราบเลือดเต็มร่างไปหมด”
หยู่เหวินเห้าคลุมเครือผ่านๆไปว่า “มีคดี”
กำลังกินข้าว พูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องคาวเลือด จะทำให้ผู้อาวุโสตกใจได้
แต่ว่า หยวนชิงหลิงเห็นเขาค่อนข้างสำรวม กำลังคิดจะหาหัวข้อสนทนาเพื่อให้เขาได้ผ่อนคลายบ้าง จึงถามขึ้นว่า “คดีอะไร ทำไมท่านต้องไปจัดการด้วยตนเอง”
หยู่เหวินเห้าแอบเหลือบมองคุณย่าแวบหนึ่ง เห็นนางไม่ได้มีปฏิกิริยาไม่พอใจแต่อย่างไร กลับมองเขาอย่างอยากรู้ ราวกับกำลังรอให้เขาพูด
เขาจึงค่อยๆวางตะเกียบลง พูดว่า “หัวหน้าพลตระเวนมีธุระขอลา พอดีข้าว่างจึงไปช่วยจัดการ เป็นคดีฆาตกรรมในถนนเฉิงอัน คนตายเป็นหนึ่งชายหนึ่งหญิง เปลือยกาย……เอ่อ เบื้องต้นสงสัยว่าทั้งสองอยู่ด้วยกันและถูกฆ่าหลังจากทำเรื่องอย่างว่า”
คำพูดเหล่านี้ ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ ก็คงพูดออกไปจนหมด
แต่วันนี้เขาต้องควบคุมตนเอง พยายามไม่พูดสิ่งที่ไม่เหมาะสมออกไป
ท่านชายสี่เหลิ่งออหนึ่งเสียง “เช่นนั้นก็เป็นการแอบมีสัมพันธ์แบบลับๆของชายโฉดหญิงชั่ว ถูกจับได้คาหนังคาเขา จากนั้นก็ถูกฆ่าตายใช่หรือไม่ ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน
สองขาของหยู่เหวินเห้าก็คดงอคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิดว่า “ลูกยินดียอมรับโทษทัณฑ์ที่เหลือของเสด็จพ่อ ชอบข้อความบทนี้ตลกดีคะพระเอก ตอน 394...
1...
1...
เพิ่งอ่านได้ 2ร้อยกว่าหน้า สนุกน่าติดตามมาก แต่ทั้งเรื่องมี2พันกว่าหน้า ทำไงจะอ่านจบ...
ขอบคุณผู้แต่ง และ novelones มากๆค่ะ ดีที่สุด อ่านรอบที่ 4 แล้วก็ยังสนุกครบรส ❤️...
เรื่องนี้ถือว่าสมบูรณ์มากสนุกต้นถึงจบ อยากให้เป็นซีรี่ย์...
สนุก ตลกดี เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่คำผิดเยอะไปหน่อยค่ะ...