อะหลูทำสิ่งใด มักไม่ไร้จุดหมาย
บิดาของพระชายาอาน เพราะปีนั้นจวนเจ้าพระยาซูกั๋วแยกครอบครัว เมื่อมาถึงบิดาของพระชายาอานจึงกลายเป็นผู้สืบทอดของทั้งสองตระกูล และสืบทอดสายเลือดของเจ้าพระยาซูกั๋วเพาระเจ้าพระยาซูกั๋วไม่มีผู้สืบทอด
เมื่อคำนวณแล้ว พระชายาเฟิงอันคือย่าน้อยของตระกูลพระชายาอาน เพียงต่อมาแตกแขนงกันออกไป รวมทั้งชายาเฟิงอันก็ออกจากเมืองหลวงไป เมื่อมาถึงรุ่นพระชายาอานจึงไปมาหาสู่กันน้อย
ในอดีตชายาเฟิงอันไม่ได้อยู่ในเมืองหลวง ทางตระกูลซูนั่นขอเพียงเกิดเรื่องใดขึ้นไม่สามารถติดต่อได้ แต่ตอนนี้อะหลูรู้มาว่าชายาเฟิงอันกลับมาที่เมืองหลวงแล้ว เพื่อให้นางทราบถึงเรื่องนี้จึงพยายามป่าวประกาศ
ครั้งนี้อะหลู ถือว่ามีความคิดยั่วยุอยู่หลายส่วน เพราะงานแต่งกำหนดลงมาแล้ว ชายาเฟิงอันแก้ไขสิ่งใดไม่ได้ แต่พระชายาอานปกติอาศัยบารมีของย่าน้อยผู้นี้ หากให้พระชายาอานรู้ว่าครั้งนี้ย่าน้อยช่วยนางไม่ได้ วันหน้านางต้องก้มศีรษะสูงส่งเหล่านั้นลง
ดังนั้น นางจึงให้คนส่งเทียบเชิญไปมอบแก่หยวนชิงหลิง ความจริงเพื่อให้ชายาเฟิงอันทราบเรื่องนี้
ทางหมู่ตึกเหมยนั้นหลังได้รับเทียบเชิญ สั่งให้คนนำไปส่งหยวนชิงหลิงที่เขาโรคเรื้อน
หยวนชิงหลิงกำลังเตรียมกลับวังหลวงสักรอบเพื่อขนเสื้อผ้า บนเขานี้หนาวเย็นยะเยือกจริง ๆ ตอนนางขึ้นเขาอุณหภูมิยังไม่ต่ำขนาดนี้ ตอนนี้ลดลงถึงศูนย์องศา ทนไม่ไหวเสียจริง
ดังนั้น จึงใช้ข้ออ้างนี้ ปิดบังคนในหมู่ตึกเหมย ก่อนพาอะซี่ หมันเอ๋อและคนอื่นๆ ไปหมู่ตึกเหมยรอบหนึ่ง ก่อนเดินทางกลับจากหมู่ตึกเหมยอีกครั้ง
เมื่อกลับมาถึงจวน หยู่เหวินเห้ายังขอบคุณอะหลูอย่างหนัก หลายวันแล้วที่ไม่ได้เจอหยวนชิงหลิง ในใจกังวลแต่กลับไม่อาจขึ้นไปบนเขา เมื่อใช้เรื่องนี้กลับมาอยู่กันพร้อมหน้าสามีภรรยา ในใจเขาพลันลืมเลือนความหนักใจเรื่องคดี
หยวนชิงหลิงเพราะเคยขึ้นเขาโรคเรื้อน ดังนั้นจึงไม่อาจเข้าวังพบหน้าเหล่าเด็ก ๆ เพียง “เสพสุข” กันสองคนสามีภรรยาตลอดคืน
และเมื่อหยู่เหวินเห้ากอดเอวบางของนาง จึงพบว่าระยะนี้นางผอมลงมากมาย ก่อนนี้ทุกคนต่างยุ่งวุ่นวาย จึงมีความสัมพันธ์บนเตียงน้อยลง เวลานี้เป็นคืนที่ปล่อยวางปัญหาเรื่องหนักใจลง จึงพบว่าเอวของหยวนชิงหลิงผอมบางจนแทบหักได้
“หากผอมลงกว่านี้ นั่นมิกลายเป็นหนังหุ้มกระดูกหรอกหรือ?” หยู่เหวินเห้าลูบไล้บนล่างล้วนคือกระดูก จึงปวดใจแทบขาด “รอให้ยุ่งเรื่องเขาโรคเรื้อนเสร็จ เจ้าต้องหยุดบำรุงร่างกายให้นี้สักระยะ ไม่ควรเหนื่อยล้ายุ่งยากอีก”
หยวนชิงหลิงกล่าวยิ้ม ๆ “เจ้าจะไปรู้อันใด ผู้คนมากมายใฝ่ฝันต้องการมีรูปร่างเช่นนี้แบบข้า ข้าไม่บำรุงหรอก”
หยู่เหวินเห้าย่อมไม่เชื่อ “รูปร่างผอมโซยังมีคนอิจฉา เจ้ามันคนโกหก อยากผอมง่ายดายยิ่งนัก ไม่ทานข้าวก็พอแล้ว”
“เจ้าไปถามท่านพี่รอง ท่านพี่รองต้องอิจฉาแน่นอน”
“ท่านพี่รองแปลกประหลาด ไม่นับ” หยู่เหวินเห้ายังคิดว่าสตรีอวบอั๋นงดงาม เมื่อกอดจะรู้สึกถึงเนื้อหนัง นุ่มนิ่มอย่างยิ่ง
และรูปร่างของคนแปลกประหลาดยิ่ง รูปร่างผอม บางแห่งก็เล็กตามไปด้วย เดิมทีไม่ทำให้คนรู้สึกพอใจ ตอนนี้อรชรแน่งน้อย นี่ไม่ใช่การลดทอนความสุขของเขาหรือ?
ดังนั้นหยู่เหวินเห้าจึงตัดสินใจจำเป็นต้องขุนหยวนชิงหลิงให้อ้วน
“จริงสิ คดีจัดการเป็นเช่นไร?” หยวนชิงหลิงนึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมา ขึ้นเขาไปสิบกว่าวันแล้ว ไม่รู้มีความคืบหน้าหรือไม่
“นอกจากคดีพ่อหม้าย เรื่องอื่นไม่มีเบาะแสใด ๆ ทั้งสิ้น ตอนการประชุมเช้าถูกวิจารณ์ไปสองยก กรมอาญาเร่งรัดมาว่าถึงเวลาที่กำหนดไว้แล้ว”
เมื่อเอ่ยถึงคดี หยู่เหวินเห้าพลันรู้สึกหมดอารมณ์ ผละจากนางอย่างเกียจคร้าน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน
สองขาของหยู่เหวินเห้าก็คดงอคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิดว่า “ลูกยินดียอมรับโทษทัณฑ์ที่เหลือของเสด็จพ่อ ชอบข้อความบทนี้ตลกดีคะพระเอก ตอน 394...
1...
1...
เพิ่งอ่านได้ 2ร้อยกว่าหน้า สนุกน่าติดตามมาก แต่ทั้งเรื่องมี2พันกว่าหน้า ทำไงจะอ่านจบ...
ขอบคุณผู้แต่ง และ novelones มากๆค่ะ ดีที่สุด อ่านรอบที่ 4 แล้วก็ยังสนุกครบรส ❤️...
เรื่องนี้ถือว่าสมบูรณ์มากสนุกต้นถึงจบ อยากให้เป็นซีรี่ย์...
สนุก ตลกดี เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่คำผิดเยอะไปหน่อยค่ะ...