อะหลูยิ้มเย็น “ใช่แล้ว วิญญาณของพวกเราล้วนมีกลิ่นเหม็นคาว นางไร้ซึ่งความทะเยอทะยาน บริสุทธิ์ไร้เดียงสา ฉะนั้นนางสมควรได้รับความรักความเอาใจใส่ แต่มีหญิงสาวคนไหนบ้างที่ไม่อยากจะเป็นคนเช่นนี้ ท่านอ๋อง เพราะท่านลำเอียงเกินไป”
อ๋องอันครุ่นคิด ในสายตาเต็มไปด้วยแววสับสน “จริงหรือ เจ้าก็ยินดีจะเป็นคนเช่นนี้หรือ”
“ไม่ผิด ”สายตาของอะหลูค่อยๆร้อนแรงขึ้น “ข้าหวังว่าจะถูกชายที่ข้ารักทะนุถนอมข้าอย่างดี ไม่จำเป็นต้องแย่งชิง ไม่ต้องมีความทะเยอทะยาน”
อ๋องอันค่อยๆว่างเชิงเทียนในมือลง ไม่พูดจา
ผ่านไปชั่วครู่ เขาจึงมองอะหลูและพูดขึ้นมาว่า “คิดแล้ว เป็นข้าที่ปฏิบัติต่อเจ้าไม่ดีจริงๆ เอาอย่างนี้ ข้าจะให้ทางเลือกกับเจ้าสองทาง เจ้าลองไปพิจารณาดู หรือไม่ เจ้าก็อยู่ข้างกายข้าต่อไป แต่ในฐานะรองพระชายา ข้าจะเรียกคืนคำสั่งกลับมา แต่ว่าเจ้าวางใจได้ ข้าจะปฏิบัติต่อเจ้าให้ดีกว่าที่ผ่านมา ขอเพียงเจ้าไม่ไปหาเรื่องพระชายาก็พอ หรือไม่ เจ้าก็ไปที่พื้นที่ที่ข้าได้รับการจัดสรรให้ ไปเป็นรองพระชายาหลูของเจ้าต่อไป ไปช่วยข้าดูแลกิจการงานต่างๆ รวบรวมกำลังพล”
อะหลูมองเขา “ท่านอ๋องพูดจริงหรือ”
“เจ้าจำเป็นต้องตัดสินใจเดี๋ยวนี้”สายตาของอ๋องอันมีแสงสว่างวูบวาบ
อะหลูไม่ได้ลังเล รีบพูดขึ้นมาทันทีว่า “อะหลูยินดีจะไปยังพื้นที่ของท่าน เพื่อเตรียมทหารให้พร้อมในการทำศึกสงคราม”
นางย่อมเลือกที่จะไปยังพื้นที่ที่ถูกจัดสรรให้ นางสามารถกักตุนสั่งสมอำนาจ ฆ่าคนต่ำช้าคนนั้น ฆ่าแล้วยังต้องเหยียดหยามศพของมัน จึงจะสามารถระบายความแค้นที่สุมอยู่ในใจของนางได้
อ๋องอันมองนาง ริมฝีปากค่อยๆโค้งขึ้นเล็กน้อย “อะหลู เจ้าไม่ทำให้ข้าผิดหวังจริงๆ ”
อะหลูใช้มือข้างหนึ่งยันเอาไว้ มองใบหน้าของเขาที่กลายเป็นดุดันขึ้นมาอย่างกะทันหัน ในหัวใจกระตุกวูบ เมื่อนางได้สติกลับมาว่านี่คือการทดสอบอย่างหนึ่ง ก็สายเกินไปแล้ว เห็นเพียงมือเขามีแสงสีทองสว่างวาบขึ้น เชิงเทียนสีแดงแกะสลักลายดอกไม้ได้ทุบลงมาบนศีรษะของนางแล้ว
นางสามารถมองเห็นเลือดสดๆของตนเองพุ่งกระฉูดออกมา ตรงหน้าเต็มไปด้วยสีแดงฉาน ยังสามารถได้ยินเสียงเคร่งขรึมของเขา“ทะเยอทะยานในอำนาจ ดูแล้วเจ้าจะเห็นมันสำคัญกว่าอะไรทั้งหมด เห็นหรือยัง นี่ก็คือจุดที่เจ้าแตกต่างจากนาง นางนั้นไม่ว่าจะเป็นเวลาใด ก็ไม่ยินดีจะห่างจากข้า ”
ร่างของอะหลู อ่อนยวบล้มลงไปกับพื้น นางยื่นมือออกไปลูบที่หน้าผาก บริเวณนั้นมีรูขนาดใหญ่ กำลังมีเลือดไหลออกมาไม่หยุด เลือดสดนั้นไหลลงมาตามดวงตาของนาง นางมองอะไรไม่เห็นทั้งนั้น นอกจากสีแดงฉาน
นางเบิกตากว้างมาก มีมือใหญ่ข้างหนึ่งปิดทับลงมา นางไม่รับรู้ถึงความอบอุ่น มีเพียงความเยือกเย็นเสียดแทงกระดูก “อะหลู ข้าเคยเตือนเจ้าหลายครั้งแล้ว เสียดายที่เจ้าไปฟัง ตั้งแต่รู้ว่าเจ้าทำร้ายนาง ข้าก็ตัดสินใจจะฆ่าเจ้าแล้ว ไปสู่สุคติเถอะ”
อะหลูไม่สามารถไปสู่สุคติได้ ยังคงประคองลมหายใจเฮือกสุดท้ายอย่างเอาเป็นเอาตาย รอให้มือของเขาเคลื่อนออกไป ยังคงเบิกตากว้างจ้องมองเขา นางไหนเลยจะไม่รู้วิธีการลงมือของเขา
ก่อนหน้านี้สามวัน นางกระทั่งสามารถแว้งกัดเขาได้ มากที่สุดก็แค่แตกสลายไปพร้อมกันเท่านั้น
แต่นางโง่เอง กลับคิดว่าในใจเขาคงคิดถึงความรู้สึกอันน้อยนิดที่มีต่อกันอยู่
ไม่ว่านางจะทำอะไรก็คิดถึงเขาเป็นคนแรก แม้กระทั่งการฆ่าพระชายาอันก็เลือกทำในเวลาเช่นนี้ ก็เป็นการทำเพื่อช่วยเขา ถ้าหากคืนนั้นพระชายาอันกับลูกในท้องของนางตายไปแล้วละก็ เช่นนั้นหยวนชิงหลิงก็จะกลายเป็นคนผิดที่ดวงซวย คุณงามความดีที่นางรักษาโรคเรื้อนได้ก็จะถูกเหตุนี้ลบล้างไป
แต่เขารู้หรือไม่ว่านางทำเรื่องเหล่านี้ด้วยใจที่คิดทบทวนอย่างยากลำบากแค่ไหน
นางได้ยินแค่เสียงที่เย็นชาของเขาพูดขึ้นว่า “หลังจากที่นางสิ้นใจแล้ว ให้ส่งไปที่กรมการพระนคร บอกว่านางฆ่าตัวตายเพราะกลัวความผิด”
ชุดยาวสีดำหายไปในแสงเทียนที่วูบไหว นางกลืนลมหายใจเฮือกสุดท้าย มีความรู้สึกไม่พอใจอย่างหาที่สุดไม่ได้
นางคืออะหลูผู้มีปณิธานยิ่งใหญ่ไม่หวังผลตอบแทน แต่กลับพ่ายแพ้แก่คำว่าอารมณ์เพียงคำเดียว
กรมการพระนครได้รับศพของอะหลู ยังมีจดหมาย“ฆ่าตัวตายเพราะกลัวความผิด”ของอะหลูที่เขียนไว้ก่อนตาย ได้ยินคนของจวนอ๋องอันบอกว่า อะหลูนั้นเอาหัวชนกำแพงตาย ส่วนมือที่ถูกตัดไปนั้น เป็นนางที่ตัดทิ้งไปเอง บนจดหมายยอมรับผิดยังมีรอยคราบเลือดอยู่
ฟังที่คนของจวนอ๋องอันพูด นางเขียนจดหมายยอมรับผิดแล้วก็ตัดมือของตนเองทิ้ง เพราะว่ามือข้างนี้เกือบจะฆ่าพระชายาอันไปแล้ว โทษหนักหนาสาหัสมาก
ในจดหมายยอมรับผิดเขียนได้ชัดเจนมาก เพราะว่านางมีความโลภในตำแหน่งพระชายาเอก ฉะนั้นจึงได้ลงมือสังหารพระชายาอันอย่างโหดเหี้ยม เพราะนางรู้ดีว่าถ้าพระชายาอันให้กำเนิดลูก ตำแหน่งก็ไม่มีทางสั่นคลอนได้อีก ส่วนเรื่องที่ป้ายความผิดให้กับเจ้าพระยาเจิ้งเป่ย เพราะว่านางเห็นว่าเจ้าพระยาเจิ้งเป่ยหลังจากทะเลาะกับอ๋องอันแล้ว ก็ไปที่อุทยานอวี้ฮัว เมื่อมีเรื่องเกิดขึ้น เขาจึงน่าสงสัยมากที่สุด
เพียงแต่ หลังจากที่นางทำให้พระชายาอันบาดเจ็บสาหัส เสียใจภายหลังก็ไม่ทันการณ์แล้ว เพราะว่าลูกของพระชายาอันที่แท้งไป ก็เป็นลูกของท่านอ๋อง นางทำร้ายจนลูกของท่านอ๋องต้องตาย นางรักท่านอ๋องสุดหัวใจ ไม่สามารถทนรับความรู้สึกผิดที่ตัวเองได้ก่อขึ้นด้วยอารมณ์ชั่ววูบได้
หยู่เหวินเห้าเริ่มรู้สึกคาดไม่ถึงอยู่บ้าง แต่เมื่อคิดถึงในหลักของเหตุผลแล้ว ด้วยการวางตัวของเจ้าสี่ ไหนเลยจะมีการส่งอะหลูตัวเป็นๆที่ยังสามารถพูดจามาที่นี่
ด้วยเหตุนี้กรมการพระนครจึงยอมรับข้อสรุปนี้ ทำการปล่อยตัวเจ้าพระยาเจิ้งเป่ย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน
สองขาของหยู่เหวินเห้าก็คดงอคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิดว่า “ลูกยินดียอมรับโทษทัณฑ์ที่เหลือของเสด็จพ่อ ชอบข้อความบทนี้ตลกดีคะพระเอก ตอน 394...
1...
1...
เพิ่งอ่านได้ 2ร้อยกว่าหน้า สนุกน่าติดตามมาก แต่ทั้งเรื่องมี2พันกว่าหน้า ทำไงจะอ่านจบ...
ขอบคุณผู้แต่ง และ novelones มากๆค่ะ ดีที่สุด อ่านรอบที่ 4 แล้วก็ยังสนุกครบรส ❤️...
เรื่องนี้ถือว่าสมบูรณ์มากสนุกต้นถึงจบ อยากให้เป็นซีรี่ย์...
สนุก ตลกดี เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่คำผิดเยอะไปหน่อยค่ะ...