บัลลังก์หมอยาเซียน นิยาย บท 72

บทที่ 72 จะต้องสับชายผู้นั้นให้ตายคามือเสีย

หยวนชิงหลิงถูกส่งกลับมายังหอเฟิ่งหยี ในทันทีที่แม่นมทั้งสองและลู่หยาได้เห็นสภาพของนาง ต่างก็พากันตกใจไปตามกัน ยังดีที่แม่นมสี่ตั้งสติได้ก่อน จึงรีบให้ลู่หยาไปจัดเตรียมยาคลายฤทธิ์สุรามา จากนั้นจึงได้สอบถามเหตุการณ์เป็นมากับกู้ซือ

กู้ซือจึงเล่าความ “เห็นว่านางไปดื่มสุราจนเมาที่พระตำหนักของไท่ซ่างหวง ซึ่งได้ดื่มยาคลายฤทธิ์สุราก่อนหน้านี้แล้ว ทว่านางกลับอาเจียนออกมาจนหมด”

“ไปดื่มสุราจนเมาที่พระตำหนักไท่ซ่างหวงงั้นหรอ?แม่เจ้า คงจะทำให้ไท่ซ่างหวงพิโรธไปแล้วล่ะสิเจ้าค่ะ?” แม่นมสี่กล่าวอย่างตกตะลึง

“พิโรธหรือเปล่าอันนี้ก็ไม่ทราบ แต่สีหน้าของฉางกงกงนั้นดูซีดเผือดเชียว” กู้ซือตอบกลับ

“เฮ้อ!” แม่นมสี่หันหน้ากลับไปมองยังหยวนชิงหลิง ที่ตอนนี้นางกำลังนั่งอยู่บนเตียง ซึ่งในขณะที่แม่นมฉีหวังจะให้นางเอนตัวลงนอน นางกลับเอื้อมมือขึ้นมาห้ามเอาไว้ “อย่ามาแตะตัวข้า ข้าเวียนหัว!”

“ใต้เท้ากู้ เชิญกลับเถอะ ขอบพระคุณท่านยิ่งนัก” แม่นมสี่กล่าว

กู้ซือมองไปยังหยวนชิงหลิง ใบหน้าของนางนั้นแดงก่ำจนน่าขนลุก ดวงตาแดงเดือด พร้อมผมเผ้าที่หลุดลุ่ย เสื้อผ้ายับยู่ยี่ไปหมด ดูแล้วช่างน่าสมเพชที่สุด

“เช่นนั้นข้าขอตัวก่อน!” กู้ซือกล่าวลาพลันหันหลังเดินจากไป

คิดไม่ถึงเลยว่าวันนี้จะได้มาเห็นพระชายาฉู่ที่แสนนิ่งสงบ จะอาละวาดโวยวายด้วยฤทธิ์สุราได้น่ากลัวเช่นนี้

ในตอนที่เขาไปถึงยังพระตำหนักฉินคุน ก็ได้เห็นนางกำลังยกมือขึ้นหวังจะทุบทำลายเก้าอี้ โดยที่ไท่ซ่างหวงไปแอบหลบอยู่ตรงข้างเตียงลั่วฮั่น ส่วนฉางกงกงก็เปื้อนอาเจียนไปทั้งตัว พร้อมกับกุมขมับพลันกระทืบเท้าด้วยความไว้อาลัยกับเสื้อชุดใหม่ของเขา

เขาไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าพระตำหนักฉินคุนจะมี……ความคึกคักเช่นนี้

ทั้งยังไม่เคยพบสีหน้าของไท่ซ่างหวงที่นอกจากความเคร่งขรึมแล้วจะยังมีสีหน้าแบบอื่นอีกอย่างเช่นกระต่ายน้อยที่กำลังตกใจ หรือว่าจะแจ้งเรื่องนี้กับท่านอ๋อง

หยวนชิงหลิงที่นั่งอยู่บนเตียง รู้สึกว่าโลกกำลังหมุนไปมา ส่วนสิ่งของที่อยู่ตรงหน้าก็เปลี่ยนขนาดไปมา เดี๋ยวใหญ่เดี๋ยวเล็ก พร้อมกับเสียงที่ดังก้องอยู่ในหูไม่ขาดหาย ราวกับว่านางกำลังได้ยินเสียงที่ดังมาจากสถานที่อันห่างไกล ด้วยเรื่องราวที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับตัวนางเลยแม้แต่น้อย แต่นางก็ยังรู้สึกว่าสมองนั้นกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว

นางจะต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว ไม่อย่างนั้นนางจะต้องคลั่งตายแน่ๆ

นางต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว ไม่อย่างนั้นนางคงจะต้องคลั่งเป็นแน่

“พระชายา นี่ท่านดื่มไปเท่าไหร่กันเจ้าคะ?เหตุใดถึงได้เมาจนกลายเป็นสภาพเช่นนี้ได้เล่า?” แม่นมสี่สูดลมหายใจ หวังจะเอนตัวนางให้นอนลง

หยวนชิงหลิงจึงยื่นมือออกมาจับข้อมือของนางไว้ พร้อมกับเงยหน้าขึ้นมา

แม่นมสี่ที่เห็นแววตาสังหารที่ประกายออกมาจากดวงตาของนาง

แม่นมสี่จึงได้เพียงค่อยๆ ก้มหน้าลง ที่จริงนางถึงกับมีจิตสังหาร แต่ก็ยังไว้หน้าไท่ซ่างหวง

“โรงครัวอยู่แห่งใด?” หยวนชิงหลิงถามด้วยเสียงเบาๆ “จงพาข้าไป”

“โรงครัว?ท่านจะไปทำสิ่งใดที่โรงครัวหรือเจ้าคะ?”

“พา……” นางเรอออกมา จนหน้าแดงก่ำขึ้นเรื่อยๆ จนเกือบจะระเบิดออกมา “แค่พาข้าไปก็เพียงพอแล้ว ?”

“บรรทมจะดี……”

“พาข้าไปเดี๋ยวนี้!” หยวนชิงหลิงตวาดเสียงออกมาจนทำให้แม่นมสี่และแม่นมฉีตกใจไม่เบา

แม่นมสี่ที่เห็นความดื้อรั้นในแววตาของนาง ก็คิดได้ว่าลู่หยากำลังปรุงยาคลายฤทธิ์สุราอยู่ในโรงครัว ซึ่งมันจะรวดเร็วตาที่นางต้องการ เพียงแค่พานางไปแล้วให้นางดื่มยาคลายฤทธิ์สุราก็พอแล้ว

“เจ้าค่ะ หม่อมฉันจะพาพระองค์ไป ยังเดินไหวอยู่ไม่เจ้าคะ?” แม่นมสี่ประคองนางขึ้น

“ข้าเดินเองได้ ไม่จำเป็นต้องมาประคองข้า……” นางยกมือขึ้นห้าม คนพวกนี้ล้วนแต่เป็นคนที่มีเจตนาร้าย นางไม่อยากจะแตะต้อง ไม่อยากจะสานสัมพันธ์ด้วย แต่เมื่อเดินได้ก้าวเดียว นางกลับรู้สึกว่าห้องกำลังหมุนไปมา นางจึงได้เอื้อมมือไปจับแม่นมสี่ไว้ “พยุงเสียหน่อยจะดีกว่า……พยุงเสียหน่อย!”

หลังจากที่นางหมุนไปสองรอบ แม่นมสี่จึงได้รีบเข้ามาช่วยประคองนางเอาไว้ แต่น้ำหนักทั้งหมดของหยวนชิงหลิงกลับทับลงไปบนร่างของนาง จนทำให้แม่นมสี่เกือบจะยืนไม่ไหว แม่นมฉีจึงเข้ามาช่วยประคองด้วยอีกคน แล้วทั้งสองก็พยุงตัวนางไป

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน