บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่ นิยาย บท 15

สรุปบท บทที่ 15: บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่

ตอน บทที่ 15 จาก บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 15 คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายแฟนตาซี บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่ ที่เขียนโดย ชวินเป่ยอี๋ เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

ประตูไม่ขยับเลยสักนิด !

หลิวโหย่วไฉโบกมือ "หยุด มันถูกไม้ขัดอยู่ ปีนข้ามกำแพงไปเลย"

สมุนทั้งสี่หยุดถีบประตู ก่อนจะซ้อนตัวกันแล้วกระโดดลงไปที่ลานบ้าน แล้วเปิดประตูออก

หลิวโหย่วไฉเดินเข้ามาในบ้าน

หลี่ซื่อหานตื่นตระหนก และรีบวิ่งเข้าไปในห้องด้านใน

หลิวโหย่วไฉเดินไปอย่างสบาย ๆ "โฉมงาม ชายผู้ล้างผลาญเงินครอบครัวหนีไปโดยไม่ใช้หนี้ เจ้ายังตั้งใจตอบแทนมันอยู่อีกหรือ มารับใช้ข้าผู้ซึ่งมีจิตใจเมตตาไม่ดีกว่ารึ"

“สามีข้าไม่ได้หนี เขาจะกลับมาใช้หนี้แน่ อย่าเข้ามานะ!”

หลี่ซื่อหานดึงโต๊ะมุมไปกันประตูเอาไว้

"ชายผู้ล้างผลาญเงินครอบครัวมีดีอย่างไร คุ้มค่ากับสิ่งที่เจ้าทำเพื่อมันหรือ!"

หลิวโหย่วไฉขยิบตาให้สมุน

ปัง!

สมุนสองคนกระแทกประตู

ปึก!

ประตูกระแทกโต๊ะเลื่อนไปด้านหลัง หลี่ซื่อหานเองก็ล้มตัวลงกับพื้น

"ใช้แรง!"

หลิวโหย่วไฉยิ้มอย่างน่ากลัว

ปัง ปัง!

เสียงกระแทกประตูติดต่อกันสองครั้ง ก่อนที่ประตูจะเปิดออก

หลิวโหย่วไฉเดินเข้าไปหาหลี่ซื่อหานด้วยใบหน้าที่น่ากลัว "โฉมงาม ในเมื่อชายผู้ผลาญเงินครอบครัวไม่ได้อยู่ที่นี่ งั้นเราก็เข้าห้องหอกันเถอะ ตามหลักฐานการยืมเงินแล้ว เจ้าป็นคนของข้า"

หลี่ซื่อหานกัดฟันลุกขึ้น และรีบเข้าไปในห้อง

"โฉมงามของข้านั้นใจร้อนยิ่งนัก เมื่อได้ยินว่าจะเข้าห้องหอ ก็รีบวิ่งไปจัดเตียงเสียแล้ว!" หลิวโหย่วไฉ ยิ้มอย่างน่ากลัว ถูมือและยกม่านขึ้น

หวืด!

กรรไกรคู่หนึ่งหล่นลงมาตรงศีรษะของเขา หลิวโหย่วไฉตกใจขวัญกระเจิง เขาถอยหลังหนีอย่างตื่นตระหนก

ฮูว

เขาเพิ่งจะถอยไปเพียงสองก้าว มีดทำครัวก็เฉือนลงมาบนศีรษะของเขาอีกครั้ง คมมีดส่องแสงเป็นประกาย

หลี่ซื่อหานรีบออกจากห้องนอนพร้อมกับกรรไกรในมือข้างหนึ่ง และมีดทำครัวในมืออีกข้างหนึ่ง

นอกจากสามีของเธอ เธอไม่ยอมให้จับต้องเธอได้ แม้ว่าเธอตายก็จะไม่ยอมจำนนต่อหมาจิ้งจอก เจ้าของที่ดินนี้

“เร็วเข้า รีบหยุดนาง!”

หลิวโหย่วไฉรีบวิ่งหนีไปข้างนอก

ปึ่ก!

ลูกสมุนโบกไม้ปัดมีดและกรรไกรในมือหลี่ซื่อหานตกลงไปที่พื้น

สมุนอีกสองคนรีบหยิบมันขึ้นมา

หลี่ซือหานที่ทำอาวุธหลุดหาย จับข้อมือของตัวเองแล้วถอยออกไป เหมือนลูกแกะที่กำลังจะถูกเชือด

หลิวโหย่วไฉเช็ดเหงื่อเย็น ๆ บนหน้าผากของตัวเองด้วยความตื่นตระหนก เมื่อสักครู่เขาเพียงแค่ใช้คำพูดเท่านั้น อันที่จริงผู้หญิงคนนี้ไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้น และเขาไม่สามารถรับมือกับมันได้

แต่หลังจากประสบกับอันตรายนี้ เขาก็อดไม่ได้ที่จะโกรธ เสียสติ และตะโกนขึ้น "จับนางออกมาให้ข้า!"

สมุนสี่คนช่วยกันล้อม!

“ถึงแม้ข้าจะตาย ข้าก็จะไม่ยอมให้เจ้าทำให้ข้าขายขี้หน้าได้!”

หลี่ซื่อหานกัดฟัน และเอาหัวกระแทกกำแพง

ทันใดนั้นมีชาวบ้านมากกว่าสิบคนวิ่งเข้ามาพร้อมไม้ในมือ เป็นชาวบ้านของหมู่บ้านต้าหวังทั้งหมด

มีคนตะโกนขึ้นว่า "หลิวโหย่วไฉ เจ้าจะทำอะไร หากเจ้าไม่หยุดล่ะก็ พวกเราก็จะไม่เกรงใจเช่นกัน!"

หลี่ซื่อหานชะงัก นางรู้จักคนเหล่านี้

หวังชิงซานและหวังเสี่ยวซานเป็นน้องชายของลุงหานซาน

หวังต้าไห่ หวังเอ้อไห่ และหวังซานไห่เป็นพี่น้องของหวังซื่อไห่

ส่วนที่เหลือเป็นลุงและน้องชายของหวังหยวน

หลิวโหย่วไฉชำเลืองมองชาวบ้าน ขยับเข็มขัดก่อนจะหยิบหลักฐานการยืมเงินออกมา "ข้ามาที่นี่เพื่อทวงหนี้ พวกเอ็งต่างหากมาทำอะไรที่นี่ เชื่อหรือไม่แค่คำเดียว ข้าก็สามารถพาพวกเอ็งไปยังเรือนจำของมณฑลได้แล้ว”

เมื่อพวกเขาได้ยินคำว่าที่ว่าการอำเภอ ผู้พิพากษาเทศมณฑล และเรือนจำ สีหน้าของชาวบ้านบางคนเปลี่ยนไปอย่างมากด้วยความตกใจกลัว

คนทั่วไปกลัวฝ่ายราชการมากที่สุด หากไม่จำเป็นก็ไม่อยากเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับฝ่ายราชการ

ผู้ใหญ่บ้านเป็นสะพานเชื่อมระหว่างชาวบ้านกับรัฐบาล

เมื่อหลิวโหย่วไฉกำลังเก็บภาษี บางคนไม่สามารถจ่ายภาษีได้ ดังนั้นเขาจึงแจ้งให้ทหารยามจับกุมชาวบ้านและส่งพวกเขาไปยังเรือนจำของรัฐประจำมณฑล

“ฝ่ายราชการหักออกไปสิบเปอร์เซ็นต์ ชาวประมงรับยี่สิบเปอร์เซ็นต์ สามสิบเปอร์เซ็นต์จะได้สี่กว้าน และอีก สองร้อยอีแปะ เขาจะเหลืออยู่ไม่ถึงสิบกว้าน และเขาไม่สามารถชำระหนี้ได้ถึงหนึ่งในสี่ด้วยซ้ำ!”

ใบหน้าของหวังชิงซานแข็งทื่อ น้อยกว่าสิบกว้าน ยังห่างไกลจากสี่สิบกว้านมากนัก

หลี่ซื่อหานกล่าวว่า "แม้ว่าเงินสำหรับการขายปลาจะไม่เพียงพอ แต่ข้ายังมีสร้อยข้อมือมูลค่ายี่สิบกว้าน ข้าขอให้สามีของข้านำไปจำนำแล้ว และหากเขาไปขอยืมเพิ่มที่บ้านพี่ชายข้าล่ะก็ จะต้องสามารถชดใช้หนี้ได้แน่นอน พวกเราจะชดใช้แน่นอน!”

ชาวบ้านพยักหน้า

เมื่อตอนที่หวังหยวนแต่งงาน ครอบครัวของหลี่ซื่อหานก็มา

ตระกูลนางต่างนุ่งผ้าไหม ขี่ม้าสูง มีรถม้าใหญ่โตสวยงาม

หวังปี่จงลูบเคราของเขา "เจ้ารู้กฎของโรงรับจำนำหรือไม่? หยกสามารถจำนำได้เพียงห้าสิบเปอร์เซ็นต์ และสร้อยข้อมือที่มีราคายี่สิบกว้านนี้สามารถจำนำได้แค่สิบกว้านเท่านั้น!"

“และแม้ว่าตระกูลของเจ้าจะร่ำรวยเพียงใด แต่ประตูไม่ต้อนรับหวังหยวน ตระกูหลี่ต้องการให้เจ้ากลับไป เมื่อพบโอกาสนี้ พวกเขาพลาดได้อย่างไร”

พลั่ก!

หลี่ซือหานล้มลง

สถานการณ์อาจจะเป็นอย่างที่หวังปี่จงพูดจริง ๆ ก็ได้

พี่ชายของนางยอมใช้เงินไถ่ตัวนางมากกว่าที่จะให้สามีของนางยืมมาใช้หนี้

ชาวบ้านรู้สึกใจสลาย

หากหวังหยวนไม่สามารถชำระหนี้ได้ ภรรยาของเขาจะกลายเป็นคนรับใช้ของหลิวโหย่วไฉ และพวกนั้นไม่มีความเป็นมนุษย์ทั้งภายนอกและภายใน

“แยกย้ายเถอะ หวังหยวนไม่มีปัญญาชำระหนี้หรอก บ้านหลังนี้อีกไม่นานก็จะเป็นผู้ใหญ่บ้านหลิว พวกเจ้ามาถือไม้ถือกระบองอยู่หน้าบ้านคนอื่นได้อย่างไร”

หวังปี่จงโบกมือขับไล่ชาวบ้าน ก่อนจะยิ้มและพยักหน้าให้หลิวโหย่วไฉ

ในฐานะตุลาการจะต้องมีความสัมพันธ์ที่ดีกับหัวหน้าหมู่บ้าน

ด้วยวิธีนี้ เมื่อชำระภาษีในฤดูร้อนและฤดูใบไม้ร่วง เจ้าหน้าที่เก็บเกี่ยวเหล่านี้จะได้เตะต้นข้าวน้อยลง หรืออาจจะไม่เตะ

เมื่อเจ้าหน้าที่มีเรื่องต้องทำ พวกตุลาการก็จะยื่นมือเข้าไปช่วย รวมไปถึงการปราบปรามคนเชื้อชาติเดียวกันเช่นนี้

นอกจากนี้เขาก็ไม่พอใจกับหวังหยวน ที่เมื่อวานจับปลาได้ตั้งมากมาย เขาต้องการแบ่งแค่สองตัวยังถูกตอบโต้

“ผู้นำตระกูลของพวกเจ้าพูดแล้ว หวังหยวนไม่มีปัญญาชดใช้หนี้ ยังไม่รีบไปให้พ้นอีก!”

ด้วยความช่วยเหลือจากหวังปี่จง หลิวโหย่วไฉยิ่งดูหยิ่งยโสหนักขึ้น และต่อว่าชาวบ้านที่เข้ามาช่วยเหลือ

“แกต่างหากที่ควรไปให้พ้น!”

หวังหยวนก้าวเข้าไปในลานด้วยความโกรธ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่