บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่ นิยาย บท 290

“สามี!”

ผู้หญิงหน้าซีดคว้าชายคนนั้นไว้ แล้วพูดว่า “ท่านจะต่อสู้เพื่อราชสำนักอีกแล้วหรือ ท่านต่อสู้เพื่อราชสำนักมาสิบปีแล้ว และเกิดอะไรขึ้นกับท่าน ตอนนี้ครอบครัวเราไม่มีอาหารกินด้วยซ้ำ ข้ากับลูกจะต่างต้องกินรากหญ้าประทังชีวิต หากท่านจากไปตอนนี้อีก ท่านจะไม่ได้เจอเราอีกเมื่อกลับมา!”

อวี๋เถี่ยซานอ้าปากด้วยสีหน้าสับสน ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร

“พี่สะใภ้ไม่ต้องกลัว!”

ทหารผู้ส่งสารหยิบถุงผ้าออกมา แล้วพูดว่า “เสนาธิการทหารคิดล่วงหน้าไว้แล้ว ว่าชีวิตพวกเจ้าอาจจะลำบาก จึงสั่งให้พวกเรานำเงินหนึ่งร้อยตำลึง มาจ่ายให้ทหารผ่านศึกของกองทัพเกราะดำทุกคน เพื่อไว้ใช้เลี้ยงชีพ”

“เสนาธิการทหาร?”

ชายคนนั้นรับถุงผ้าไปเปิดดูเงินที่อยู่ข้างใน แล้วยื่นให้หญิงสาวทั้งน้ำตา “ดูแลลูก ๆ ให้ดี แม่ทัพหนุ่มคือลูกชายของแม่ทัพมู่ เมื่อเขากำลังเดือดร้อน ข้าต้องช่วยเขา หลังจบศึกครั้งนี้ ข้าจะกลับมา!”

“สามี ท่านต้องรอดชีวิตกลับมา ข้ากับลูก ๆ รอท่านอยู่!”

ผู้หญิงคนนั้นถือกระเป๋าเงิน กอดลูกทั้งสองร้องไห้

...

ห่างออกไปสามร้อยลี้ในเมืองผิง ในวัดร้างที่ทรุดโทรม มีขอทานกลุ่มหนึ่งรวมตัวกันอยู่ที่มุมถนน นั่งอาบแดดต้นฤดูหนาว ล้อมรอบขอทานตัวสูงใหญ่คนหนึ่ง

“พี่ฉางเซิ่ง เจ้าบอกว่าเมื่อก่อนเจ้าแข็งแกร่งกว่าขุนพล แล้วเหตุใดเจ้าถึงมาทำงานขอทานกับเราตอนนี้ล่ะ!”

“เจ้าไม่รู้วิธีขออาหารด้วยซ้ำ เมื่อเห็นพวกเจ้านายหรือนายหญิงก็ต้องพูดจาดี ๆ แล้วคุกเข่าลงเพื่ออธิษฐานให้พวกเขา แล้วพวกเขาก็จะให้อาหารแก่เจ้า แต่เจ้ากลับวางท่าอย่างกับเจ้านายตอนขออาหาร!”

“หากพวกเราไม่ขอทานมาแบ่งเจ้า เจ้าคงอดตายข้างถนนไปแล้ว เจ้าจะยังมาคุยโอ้อวดกับพวกเราตลอดทั้งวันได้หรือ!”

ขอทานกลุ่มหนึ่งล้อมรอบขอทานร่างสูงที่กำลังเกาหัวที่เต็มไปด้วยเหา

“เจ้าพวกเด็กเหลือขอ หากข้าไม่ได้ช่วยหักขาพวกอันธพาล และขอทานเหล่านั้นให้พวกเจ้า พวกเจ้าก็คงไม่ได้ขออาหารไปทั่วทั้งเมืองอย่างสุขสบายเช่นนี้หรอก!”

ฉางเซิ่งคาบเศษหญ้าไว้ในปาก แล้วนั่งไขว้ขา “ส่วนเหตุผลที่มาขออาหาร ก็เพราะขอทานไม่ต้องคิดอะไร ขอแค่อาหารให้อิ่มท้องไปวัน ๆ มันสบายมาก!”

ขอทานกลุ่มหนึ่งพูดด้วยความไม่พอใจ “แล้วเมื่อก่อนเจ้าสุขสบายกว่าคนทั่วไปหรือเปล่า!”

“แน่นอน!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่