เป้าชิงสื่อพูดอย่างมั่นใจ “สงบศึก!”
“เหอะ ๆ!”
หยางเฟิ่งกั๋วหัวเราะเบา ๆ “ตอนนี้กองทัพของเราได้รับชัยชนะแล้ว เสนาบดีฝ่ายขวาต้องการเจรจาสงบศึกกับชาวหวง นี่เป็นไปได้ไหมว่าท่านเสนาบดีฝ่ายขวานั้นอายุมากแล้ว และร่างกายก็อ่อนแอลง!”
เป้าชิงสื่อพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย “เสนาบดีฝ่ายซ้าย ท่านคิดว่าเราได้รับชัยชนะอันยิ่งใหญ่ แต่ในความเป็นจริงแล้วความพ่ายแพ้ครั้งใหญ่นั้นอยู่ใกล้แค่เอื้อม กองกำลังหลักของชาวหวงไม่ได้สูญหายไป หนำซ้ำหิมะตกหนักในเมืองจิ่วซาน และแม่น้ำอี้ใกล้จะเป็นน้ำแข็งแล้ว แม้ว่าชาวหวงเพิกเฉยต่อเมืองจิ่วซาน เขาก็ยังสามารถขี่ม้าไปทางใต้และยึดเมืองพร้อมทั้งดินแดนตลอดทางจนถึงเมืองเฉิงโจว!”
ฮ่องเต้ซิงหลงพยักหน้า
นี่คือสิ่งที่เขากังวลเช่นกัน หากกองกำลังหลักของชาวหวงลงไปทางใต้ พวกเขาก็จะสามารถสร้างความเสียหายให้กับทั้งเมือง
หยางเฟิ่งกั๋วเยาะเย้ย “หากเช่นนั้นก็เพิ่มกองกำลังให้กับอู๋หลิง และกวาดล้างกองกำลังหลักของพวกเขาให้สิ้นซาก!”
สือเหยาเฉียน เสนาบดีกรมโยธาธิการกล่าวว่า “เสนาบดีฝ่ายซ้าย ชัยชนะอันยิ่งใหญ่ของอู๋หลิงล้วนเกิดจากหน้าไม้ซานกงฉวงความสามารถในการศึกที่แท้จริงของทหารต้าเย่ของเรานั้นด้อยกว่าชาวหวงมาก หากเราต้องการเอาชนะกองทหารม้าชาวหวงที่เหลือเจ็ดหมื่นนายจริง เราต้องเพิ่มทหารม้าอย่างน้อยสองแสนนาย นอกจากนี้ หากเราเพิ่มกองกำลัง แล้วชาวหวงจะไม่เพิ่มกองกำลังทหารหรือไงเล่า กองทหารของพวกเขาไม่น้อยไปกว่าพวกเราเลย”
หลี่ซื่อฉี เสนาบดีกรมยุติธรรมกล่าวว่า “กระหม่อมยังรู้สึกว่าการใช้ประโยชน์จากชัยชนะอันยิ่งใหญ่ในการเจรจาสันติภาพกับชาวหวง คืนพระศพของฮ่องเต้ถูหนานให้กับประชาชนชาวหวง จากนั้นมอบเงินให้พวกเขาเล็กน้อย เพื่อชักชวนให้พวกเขาถอนตัวจากด่านหัวมังกร ถือเป็นนโยบายที่ดีที่สุดจริง ๆ พ่ะย่ะค่ะ!”
กู้จี๋เต้า เสนาบดีกรมการคลังกล่าวว่า “หากต้องสู้กันนานจริง ๆ หลังจากคำนวณการสูญเสียจากการต่อสู้ของทหาร การใช้อุปกรณ์ และค่าใช้จ่ายต่าง ๆ แล้ว มิสู้เจรจาสันติภาพกับชาวหวงจะดีกว่า บัดนี้ชาวหวงสูญเสียผู้นำที่ดีที่สุดไปแล้ว ซ้ำเรายังมีแรงผลักดันในการได้รับชัยชนะอันยิ่งใหญ่ ตราบใดที่ชาวหวงสามารถเผชิญหน้าได้ เราก็สามารถเจรจาสันติภาพได้อย่างแน่นอน!”
“ฝ่าบาท ไม่ได้นะพ่ะย่ะค่ะ!”
ฉินจ้าน เสนาบดีกรมกลาโหมกัดฟัน “เจรจาสันติภาพหลังจากได้รับชัยชนะอันยิ่งใหญ่ ซ้ำยังชดเชยเงินให้กับชาวหวง ทหารต้าเย่ของข้าจะคิดอย่างไรเล่า ใครจะต่อสู้จนตายเพื่อต้าเย่ในภายภาคหน้าพ่ะย่ะค่ะ!”
โจวจิงเหย่ เสนาบดีกรมพิธีการกล่าวว่า “ฝ่าบาท เราไม่สามารถเจรจาสันติภาพได้ โปรดเพิ่มกองกำลังไปให้อู๋หลิง เพื่อที่เขาจะได้ขับไล่ชาวหวง ยึดด่านหัวมังกรกลับคืนมา และส่งเสริมบารมีให้กับต้าเย่ของเราด้วยพ่ะย่ะค่ะ!”
ต่างฝ่ายต่างทะเลาะกัน!
ฮ่องเต้ซิงหลงขมวดคิ้วและตรัสว่า “ขุนนางหยวน เจ้าคิดเห็นอย่างไร?”
หยวนกวนหลวน เสนาบดีกรมขุนนางยิ้มอย่างขมขื่น “ทูลฝ่าบาท สิ่งที่เสนาบดีฝ่ายซ้ายและฝ่ายขวาพูดนั้นล้วนมีเหตุและผล กระหม่อมไม่รู้จักการทหาร ดังนั้นจึงไม่สามารถตัดสินได้ดีกว่านี้พ่ะย่ะค่ะ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่
รอ update อยู่น๊าา กำลังสนุกเลย...
เรื่องนี้ ดีมากครับ รบกวน อัพเดท ไวๆ ใจจะขาดแล้ว ขาดตอนไปเดือนนึงแล้วครับ...
รอตอนต่อไปอยู่นะครับ แอดมิน...
ฮ่องเต้ในนิยายนี้ จับสลากได้ตำแหน่งมาแน่นอน...
ขอบคุณ admin ครับ เรื่องนี้สนุกจริงๆ...
ขอบคุณที่ลงเพิ่มครับ ผมคอยอ่านอยู่ เรื่องนี้สนุกครับ...
ขอบคุณครับที่มาลงต่อให้ เรื่องนี้ผมว่าสนุกมาก...
สงสัยคงไม่ได้อ่านต่อแน่เลย พอจะมีใครรู้ชื่อนิยายเรื่องนี้บ้างไหมครับ จะเป็นแบบจีนหรืออังกฤษก็ได้...
ถ้าทุกประเทศมีผู้นำเหมือนฮ้องเตชิงหลงที่ปัญญาอ่อนไม่เป็นตัวของตัวเองทั้งโง่เขลาเบาปัญญาคงไม่มีแผ่นดินอยู่...
เลิกอัพแล้วหรอครับ เสียดายจัง / รอนานเลยครับ...