บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่ นิยาย บท 54

ตอนนี้สามีตั้งกลุ่มประมง เอาชนะหลี่ฉาง จัดประชุมหมู่บ้าน สร้างโรงอาหารขนาดใหญ่ ตั้งกลุ่มทำสบู่ เอาชนะใจชาวบ้าน เป็นดั่งสูญรวมจิตใจของทุกคน แล้วคนที่ทำได้แค่อ่านหนังสือสอบขุนนาง จะเทียบได้ได้อย่างไร!

แต่หวังหยวนขัดจังหวะ “ซื่อหาน พี่ชายของเจ้าพูดถูก พวกเขาทุกคนดีกว่าข้า! ข้าเป็นเพียงเด็กบ้านนอก จะเทียบกับพวกเขาได้อย่างไร”

หลิวเจี้ยนเย่เชิดหน้าขึ้นอย่างภาคภูมิใจ “น้องซื่อหาน เจ้าเห็นหรือไม่ว่าเขาเองก็รู้ตัวดี!”

“น่าเสียดายที่ร่ำเรียนมาหลายปี แต่กลับไม่รู้จักคำว่า 'ถ่อมตัว' ด้วยซ้ำ!”

หลี่ซื่อหานพูดด้วยสีหน้าเฉยเมย “และโปรดเรียกข้าด้วยชื่อเต็มของข้าด้วย อย่าเรียกข้าว่าน้องอีก ความสัมพันธ์ของเราไม่ได้สนิทกันถึงเพียงนั้น”

ใบหน้าของหลิวเจี้ยนเย่เปลี่ยนเป็นสีแดงและซีด เลือดไหลขึ้นสู่ศีรษะทันที

หวังหยวนส่ายหน้า ความแข็งแกร่งทางจิตใจของชายหนุ่มคนนี้แย่มาก จนเขาไม่สามารถควบคุมความดันโลหิตได้ แม้ว่าจะถูกวิพากษ์วิจารณ์เพียงไม่กี่คำก็ตาม

“เอาล่ะ น้องหญิงสาม นี่คือแขก พูดเช่นนี้ได้อย่างไร!”

หลี่ซานซือเกลี้ยกล่อมด้วยเสียงแผ่วเบา “รีบไปหาพี่สะใภ้ของเจ้าเถอะ แล้วสั่งให้ห้องครัวทำอาหารที่เจ้าชอบ พี่จะต้อนรับเขาเอง จะไม่ไล่เขาออกไปอีกแล้ว!”

หลี่ซื่อหานมีสีหน้าไม่อยากเชื่อ แต่เมื่อเห็นหวังหยวนพยักหน้า นางก็หันหลังเดินไปยังลานด้านใน

เมื่อเห็นท่าทางของน้องสาวของตน หลี่ซานซือก็มองหวังหยวนด้วยความประหลาดใจ

หลังจากที่ไม่ได้เจอกันมาครึ่งปี เจ้าคนเสเพลคนนี้ก็ดูเปลี่ยนไป ไม่ถ่อมตัวหรือหยิ่งผยองเมื่ออยู่ต่อหน้าเขา

เมื่อก่อนหากมาพบเขาที่มีฐานะเป็นจู่เหริน เจ้าเด็กคนนี้จะหวาดเกรงมาก

ตอนนี้กลับนิ่งกว่าเดิม ลึกล้ำราวก้นเหว สงบนิ่งดุจขุนเขา

ดูจากปฏิกิริยาของน้องสาวเมื่อครู่นี้ นางตกหลุมรักเจ้าคนเสเพลคนนี้จริง ๆ

แม้ว่าเมื่อก่อนนางจะเคยปกป้องเจ้าคนเสเพลคนนี้ แต่ก็เป็นเพราะนางรู้สึกอยากตอบแทนเขา ที่กล้าแต่งงานกับนางในช่วงเวลาวิกฤติ

ตอนนี้มันแตกต่างออกไป เหมือนว่านางมอบหัวใจให้เขาไปแล้ว จึงอยากจะปกป้องตลอดเวลา

ในโลกปัจจุบัน เด็กหนุ่มธรรมดาจากชนบท จะทำให้ชีวิตน้องสาวของเขามั่นคงได้อย่างไร

หากพวกเขาถูกพรากจากกัน อนาคตของน้องสาวก็จะมั่นคง หากนางแต่งงานเข้าตระกูลหลิว

แต่ด้วยนิสัยของน้องสาว นางจะเกลียดเขาตลอดไป และจะไม่มีวันติดต่อกับเขาไปจนตาย

มันเป็นช่วงเวลาของภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก

ทันใดนั้นคนรับใช้ก็รีบเข้ามา โดยถือกระดาษอวยพรอยู่ในมือ “นายน้อยรอง ท่านไป๋หลี่บอกว่าเป็นเพื่อนเก่าของท่าน มาที่นี่เพื่อเยี่ยมท่านขอรับ!”

“ท่านไป๋หลี่!”

หลี่ซานซือขมวดคิ้ว มองดูลายมือบนกระดาษอวยพร แล้วหัวเราะเบา ๆ “ตามข้ามาต้อนรับเพื่อนเก่า เขาเป็นจิ้นซื่ออันดับสอง หากพวกเจ้าได้รับคำแนะนำจากเขา การเรียนก็จะดีขึ้นอย่างก้าวกระโดดแน่นอน “

หลิวเจี้ยนเย่อุทาน “จิ้นซื่ออันดับสอง!”

จิ้นซื่อมีสามอันดับคือจอหงวน ปั่งเหยี่ยนและทั่นฮวา

ผู้ที่สามารถเป็นจิ้นซื่ออันดับสองได้ คือผู้ที่มีความสามารถและมีความรู้และเชี่ยวชาญในการสอบขุนนาง

หวังหยวนตามไปโดยไม่ได้สนใจ

เขาไม่ได้วางแผนจะสอบขุนนางอีกต่อไป ไม่จำเป็นต้องได้รับรางวัลสูงสุดล่ะ เพราะไม่อยากจะรับใช้ฮ่องเต้

เขาไม่สนใจจะเอาแต่หมอบคลาน

จะดีกว่าหรือไม่หากได้ใช้เทคโนโลยีที่เรียนมา ออกกำลังฝึกฝนร่างกาย และใช้เวลากับภรรยาโฉมงาม

ทั้งสามคนมาที่หน้าประตู

ด้านหน้ารถม้าเก่า มีชายวัยกลางคนสวมชุดผ้าฝ้ายยืนอยู่!

หลี่ซานซือรีบเดินลงบันได แล้วประสานมือคำนับ “พี่ไป๋หลี่ ไม่พบกันนาน สบายดีหรือไม่ขอรับ!”

ท่านไป๋หลี่ตอบกลับ “พี่อู๋โยว ยินดีที่ได้พบ!”

อู๋โยว คำเรียกหลี่ซานซือ

หลิวเจี้ยนเย่ประสานมือ ก้มศีรษะ “ผู้น้อยหลิวเจี้ยนเย่ เป็นซิ่วไฉได้ห้าปีแล้ว เป็นบุตรชายคนโตของตระกูลหลิวในเทศบาลนี้ ตระกูลหลิวกับตระกูลหลี่เป็นมิตรกันมาช้านาน เป็นเกียรติที่ได้พบท่านไป๋หลี่ขอรับ”

ท่านไป๋หลี่ยกยิ้ม แล้วพยักหน้า “สหายน้อยเจี้ยนเย่ ยินดีที่ได้รู้จัก!”

หวังหยวนเฝ้าดูอยู่บนขั้นบันได ไม่มีเจตนาที่จะเข้าไปเกี่ยวข้อง เพราะอยู่คนละแวดวงกัน!

คาดไม่ถึงว่าหลิวเจี้ยนเย่จะหันกลับมาพูดอย่างรุนแรง “หวังหยวน ช่างเปล่าประโยชน์นัก เจ้าเองก็เป็นบัณฑิต แต่กลับไม่รู้จักมีมารยาทแม้แต่น้อย ท่านไป๋หลี่เป็นจิ้นซื่ออันดับสองมาเยี่ยมเยือน พี่ซานซือและทุกคนต้องลงบันไดมาทักทาย ถงเซิงเช่นเจ้ากล้ายืนบนขั้นบันไดได้อย่างไร หยามเกียรติกันเกินไปแล้ว”

หลังจากนั้นครู่หนึ่ง เขาก็หันกลับมาพูดว่า “ท่านไป๋หลี่โปรดอย่าตำหนิเขาเลยขอรับ เขาเป็นเด็กบ้านนอกที่เรียนหนังสือมาหลายปีแล้ว โชคดีได้เป็นบัณทิตถงเซิน แต่เขากลับไม่รู้เรื่องมารยาท ข้าจะให้เขาขอโทษเองขอรับ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่