บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่ นิยาย บท 66

“อา ผู้พิพากษาโปรดไว้ชีวิตข้าด้วย คนอื่นต่างเรียกชื่อข้ามั่ว ๆ ชื่อแท้ ๆ ของข้าคือ เว้ยหนิว!”

ป้ายดำหมายถึงทุบตีอย่างโหดเหี้ยม นี่มันกำลังฆ่าเขาชัด ๆ ฝานเจียงหลงร้องขอความเมตตาอย่างร้อนรน

เพี๊ยะ!

ป้ายดำกระเด็นลงพื้น!

ผัวะ ผัวะ ผัวะ…

เจ้าหน้าที่ของรัฐทั้งสองหยิบกระดานขึ้นมา และเริ่มตีอย่างไร้ความปราณี

“อา!”

หลังจากถูกทุบตีมากกว่าสิบครั้ง ผิวของฝานเจียงหลงก็ถูกฉีกเป็นชิ้น ๆ และเขาก็อดไม่ได้ที่จะตะโกน “นายท่านสิง ช่วยข้าน้อยคนนี้ด้วย ข้าน้อยไม่อยากตาย!”

“ตั้งชื่อสุ่มสี่สุ่มห้า กรรมตามสนอง หากเจ้าถูกทุบตีจนตายจริง ๆ ครอบครัวของเจ้าก็จะเก็บศพของเจ้าเอง”

สิงซานหันไปอีกทาง ดวงตาของเขามืดลง

ความผิดแบบนี้ถือเป็นอาชญากรรมใหญ่หลวงที่สุด และใครก็ตามที่เอ่ยปากพูดจะถูกนายใหญ่ลากลงมา

ไม่เห็นผู้ตรวจการฟาง จู่เป๋าก็ไม่พูดอะไรสักคำ

“ครอบครัว!”

นี่เป็นภัยคุกคาม ฝานเจียงหลงหลับตาและกัดฟัน จากนั้นเขาก็เป็นลมจากกระดานใหญ่ทั้งสิบแผ่นอีกครั้ง

“องครักษ์สวี่ ไปที่ตลาดปลา แล้วบอกพ่อค้าปลาให้ค้นหาความจริง!”

ใบหน้าของจ้าวเว่ยหมินดำคล้ำราวกับน้ำ “บอกพวกเขาให้พูดความจริงอย่างกล้าหาญและมั่นใจ ไม่ว่าใครก็ตามที่เกี่ยวข้อง ที่ว่าการอำเภอจะบังคับใช้กฎหมายอย่างยุติธรรม และรักษาความยุติธรรมให้พวกเขา เพื่อที่พวกเขาจะได้ไม่ถูกเอารัดเอาเปรียบโดยเจ้าหน้าที่ที่ใส่ร้ายอีกต่อไป”

เดิมทีต้องการใช้ฝานเจียงหลงให้เปิดโปง แต่ใครจะไปรู้หล่ะว่าเขาถูกทุบตีจนหมดสติและไม่พูดอะไร ดังนั้นจึงต้องบุกเข้าไปในตลาดปลา

“ขอรับ!”

องครักษ์สวี่ยืนขึ้น และนำกลุ่มผู้ตรวจการออกจากศาลาว่าการ และตรงไปที่ตลาดปลา

สิงซานและฟางเถี่ยซินต่างมองหน้ากันด้วยความเยาะเย้ยในใจ

ขุนนางที่แข็งแกร่งและนายอำเภอที่ตามน้ำ

พ่อค้าเหล่านั้นจะไม่กระโดดออกมากัดพวกเขา เพียงเพราะว่าผู้พิพากษาให้กำลังใจพวกเขาอย่างแน่นอน

จู่เป๋าดูสงบและสะใจ

โน้มน้าวคนอื่นให้สนับสนุนตน ด้วยเหตุนั้นเขาจึงเป็นคนที่ทำให้ผู้พิพากษาคนก่อนถูกเนรเทศ และคนนี้ก็ไม่มีข้อยกเว้น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่